ขับรถ 80-90 กม/ชม.จำกัดความเร็วไทยสูงกว่าหลายประเทศ พบอันตรายเทียบเมาแล้วขับ แนะปรับลด

กรุงเทพฯ--15 มิ.ย.--ศวปถ.

นักวิชาการแนะปรับลดอัตราความเร็วเซฟชีวิตคนไทย เผยการขับเร็วเกินอัตรากฎหมายกำหนดเป็น 1 ใน 3 สาเหตุหลักการเกิดอุบัติเหตุที่คร่าชีวิตและทรัพย์สิน ชี้ชัดการกำหนดกฎหมายความเร็วแบบหลวมๆ กว้างๆ 80 กม./ชม.ในเขตเมืองหรือเทศบาล และ 90 กม./ชม.นอกเขตเทศบาลก่ออันตรายใหญ่หลวงไม่ต่างจากเมาแล้วขับ นพ.ธนะพงศ์ จินวงษ์ ผู้จัดการศูนย์วิชาการเพื่อความปลอดภัยทางถนน (ศวปถ.) มูลนิธิสาธารณสุขแห่งชาติ (มสช.) และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)กล่าวว่าจากสถิติของสำนักงานตำรวจแห่งชาติปี 2545-2549 พบว่า การขับรถเร็วเกินอัตรากำหนดเป็นสาเหตุอันดับแรกของการเกิดอุบัติเหตุ ซึ่งพบสูงถึงร้อยละ 20 หรือ 1 ใน 5 ของอุบัติเหตุทั้งหมด และถ้าเป็นถนนของกรมทางหลวงพบว่า 3 ใน 4 ของอุบัติเหตุเกิดจากขับรถเร็วและยิ่งมีช่องจราจรมากก็ยิ่งมีผลต่อการเกิดอุบัติเหตุที่มาจากความเร็วเพราะคนขับมีพื้นที่เร่งความเร็วมากขึ้น “ความสูญเสียชีวิตและทรัพย์สินมหาศาลจากการขับเร็วส่วนหนึ่งเพราะกฎหมายประเทศไทยทั้ง พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ.2522 และ พ.ร.บ.ทางหลวง พ.ศ.2535 ยังจำกัดความเร็วแบบหลวมๆ กว้างๆ โดยความเร็วในเขตเทศบาลกำหนดไว้ 80 กม./ชม. ส่วนความเร็วนอกเขตเทศบาล 90 กม./ชม. ขณะที่ต่างประเทศกำหนดไว้ต่ำกว่ามาก โดยเฉพาะความเร็วในเขตเมืองหรือเทศบาลสำหรับรถมอเตอร์ไซด์ โดยประเทศออสเตรเลีย 50-60 กม./ชม. บราซิล 40-60 กม./ชม. อังกฤษ 50 กม./ชม. และญี่ปุ่น 40-60 กม./ชม. ขณะที่ไทยกำหนดไว้สูงถึง 80 กม./ชม.” นพ.ธนะพงศ์กล่าวต่อว่า จากการศึกษาอัตราความเร็วที่เหมาะสมสำหรับรถมอเตอร์ไซต์ในเขตเทศบาลโดยเก็บข้อมูลความเร็วรถมอเตอร์ไซด์ในเขตเทศบาล 8 จังหวัดทั่วประเทศพบว่า มีคนขับขี่เพียงร้อยละ 0.2 เท่านั้นที่เลือกใช้ความเร็วสูงกว่ากฎหมายกำหนด ขณะร้อยละ 85 เลือกใช้ความเร็วต่ำกว่า 50 กม./ชม.ซึ่งใกล้เคียงกับประเทศอื่นๆ ดังนั้นการกำหนดอัตราความเร็วของกฎหมายไทยในปัจจุบันจึงสูงเกินความเป็นจริงมาก ควรปรับลดลงให้สอดคล้องกับนานาประเทศ อุบัติเหตุจากการขับขี่รวดเร็วบนท้องถนนส่วนใหญ่มักเกิดกับยานพาหนะขนาดเล็ก โดยเฉพาะอย่างยิ่งรถมอเตอร์ไซด์ซึ่งเป็นพาหนะสุดอันตรายที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมากในแต่ละปี สอดคล้องกับข้อมูลอุบัติเหตุของกรมทางหลวงช่วงปี 2544-2549 ที่พบว่าในจำนวนอุบัติเหตุทางหลวงทั้งสิ้น 70,820 ครั้ง เกิดจากขับเร็วเกินอัตราที่กฎหมายกำหนดถึงร้อยละ 75 “การขับเร็วจึงก่ออันตรายไม่น้อยกว่าการเมาแล้วขับ เพราะเพิ่มโอกาสเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุตามมาไม่น้อยกว่ากัน จากการศึกษาในประเทศออสเตรเลียพบว่า ถ้าขับรถเร็ว 65 กม./ชม. เกินกว่าที่กฎหมายกำหนดไว้ 60 กม./ชม. จะมีโอกาสเสี่ยงประสบอุบัติเหตุได้รับบาดเจ็บ 2 เท่า ถ้าเพิ่มเป็น 70 กม./ชม. โอกาสเสี่ยงจะเพิ่มขึ้นถึง 4 เท่า และถ้าเพิ่มเป็น 75 กม./ชม. โอกาสเสี่ยงจะสูงถึง 10 เท่า เทียบเท่าความเสี่ยงจากการขับขี่รถที่ระดับแอลกอฮอล์ในเลือด 0.5, 0.8 และ 1.2 ตามลำดับ” นพ.ธนะพงศ์กล่าวว่าข้อมูลจากองค์การอนามัยโลก (WHO) ระบุว่าระดับความรุนแรงจากการบาดเจ็บจะเพิ่ม 3 เท่าถ้าความเร็วขณะชนเพิ่มจาก 32 กม./ชม. เป็น 48 กม./ชม. และเพิ่มขึ้นถึง 4 เท่า ถ้าความเร็วขณะชนเพิ่มเป็น 64 กม./ชม. ส่วนคนเดินเท้าจะมีโอกาสรอดสูงถึงร้อยละ 90 ถ้าถูกรถชนที่ความเร็ว 30 กม./ชม. แต่โอกาสรอดชีวิตจะลดต่ำกว่าร้อยละ 50 ถ้าความเร็วรถเพิ่มเป็น 45 กม./ชม. “การดำเนินการปรับเปลี่ยนอัตราความเร็วตามที่กฎหมายกำหนดให้สอดคล้องกับอัตราความเร็วในหลายประเทศจึงเป็นหนึ่งวิธีการลดความสูญเสียชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนไทยจากการขับขี่เร็ว อย่างน้อยๆ ก็ไม่ควรให้ความเร็วในเขตเทศบาลและเมืองสูงถึง 80 กม./ชม. ขณะเดียวกันท้องถิ่นที่เป็นเขตเมืองควรติดตั้งป้ายจำกัดความเร็วบนถนนของตนเองเพื่อให้ประชาชนรับทราบให้มากขึ้น” สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร. 0-2511-5855 ต่อ 116

ข่าวศูนย์วิชาการเพื่อความปลอดภัยทางถนน+มูลนิธิสาธารณสุขแห่งชาติวันนี้

“140 ประเทศทั่วโลก”ประกาศยกระดับความปลอดภัยทางถนนเป็นวาระระดับโลก หลัง “ฮู”รายงานปี 52 คนทั่วโลกตายจากอุบัติเหตุ 1.3 ล้านคน

“140 ประเทศทั่วโลก”ประกาศยกระดับความปลอดภัยทางถนนเป็นวาระระดับโลก หลัง “ฮู”รายงานปี 52 คนทั่วโลกตายจากอุบัติเหตุ 1.3 ล้านคน ตั้งเป้าลดการตายลงครึ่งหนึ่งใน 10 ปีข้างหน้า ขณะที่ไทยยังอ่อนการบังคับใช้กฎหมาย ผศ.ดร. ทวีศักดิ์ แตะกระโทก คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร นักวิชาการศูนย์วิชาการเพื่อความปลอดภัยทางถนน (ศวปถ.) มูลนิธิสาธารณสุขแห่งชาติ (มสช.)และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่า รายงานขององค์การอนามัยโลกระบุว่าในปี 2552 ทั่วโลกมีผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนไป

ขับรถ 80-90 กม/ชม.จำกัดความเร็วไทยสูงกว่าหลายประเทศ พบอันตรายเทียบเมาแล้วขับ แนะปรับลด

นักวิชาการแนะปรับลดอัตราความเร็วเซฟชีวิตคนไทย เผยการขับเร็วเกินอัตรากฎหมายกำหนดเป็น 1 ใน 3 สาเหตุหลักการเกิดอุบัติเหตุที่คร่าชีวิตและทรัพย์สิน ชี้ชัดการกำหนดกฎหมายความเร็วแบบหลวมๆ กว้างๆ 80 กม./ชม.ในเขตเมืองหรือ...

รถเมล์ 6,000 คัน ภาพสะท้อนระบบขนส่งสาธารณะล้มเหลว

ผศ.ดร.สมประสงค์ สัตยมัลลี เครือข่ายนักวิจัย ศูนย์วิชาการเพื่อความปลอดภัยทางถนน (ศวปถ.) มูลนิธิสาธารณสุขแห่งชาติ (มสช.) www.thainhf.org หนึ่งในคำตอบว่าทำไมระบบขนส่งสาธารณะบ้านเรายังย่ำแย่ เหมือนทำๆ ไปเพื่อคนด้อยโอกาสทางเศรษฐกิจนั้นก็คือว่า...

สถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสี ช่อง 3 โดย คุณอริย... ช่อง 3 จับมือ องค์กรพันธมิตร เปิดตัวโครงการ “ถนนปลอดภัย ช่อง 3 ร่วมใจลดอุบัติเหตุ” — สถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสี ช่อง 3 โดย คุณอริยะ พนมยงค์ กรรมการผู้อำนวยการ...

สำนักวิจัย ซูเปอร์โพล ร่วมกับศูนย์วิชาการ... SUPER POLL โพลรัฐบาลใหม่หลังเลือกตั้ง กับ ความปลอดภัยทางถนน — สำนักวิจัย ซูเปอร์โพล ร่วมกับศูนย์วิชาการเพื่อความปลอดภัยทางถนน นำเสนอผลสำรวจ เรื่อง รัฐบาลใ...

สำนักวิจัย ซูเปอร์โพล ร่วมกับ ศูนย์วิชากา... SUPER POLL เกาะติดความปลอดภัยของประชาชน — สำนักวิจัย ซูเปอร์โพล ร่วมกับ ศูนย์วิชาการเพื่อความปลอดภัยทางถนน สสส.นำเสนอผลสำรวจ เรื่อง เกาะติดคว...

ศูนย์วิชาการเพื่อความปลอดภัยทางถนน (ศวปถ.... สัมมนาวิชาการระดับชาติเรื่องความปลอดภัยทางถนน ครั้งที่ 13 — ศูนย์วิชาการเพื่อความปลอดภัยทางถนน (ศวปถ.) มูลนิธินโยบายถนนปลอดภัย (มนป.) สนับสนุนโดยสำนักงานก...

แผนกผลิตภัณฑ์ความปลอดภัยด้านการจราจรและสว... 3M หนุนนโยบายความปลอดภัยทางถนน ร่วมปฏิญญา Decade of Action for Road Safety 2011-2020 — แผนกผลิตภัณฑ์ความปลอดภัยด้านการจราจรและสวัสดิภาพ บริษัท 3เอ็ม ประเท...