บทบาทที่แตกต่างของ บสท. และ ปรส.

กรุงเทพฯ--17 มิ.ย.--บสท. ประเด็นหนึ่งที่อาจสร้างความสับสนให้กับทุกคนในขณะนี้ คงจะหนีไม่พ้นเรื่องการ ดำเนินงานของบรรษัทบริหารสินทรัพย์ไทย (บสท.) กับ องค์การเพื่อการปฏิรูประบบสถาบันการเงิน (ปรส.) ว่ามีความแตกต่างกันอย่างไร เพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ชัดเจนยิ่งขึ้น คงต้องพิจารณา วัตถุประสงค์ในการจัดตั้งและแนวทางการดำเนินการของแต่ละองค์กรเปรียบเทียบกัน สำหรับ วัตถุประสงค์ในการจัดตั้ง บสท. นั้น เพื่อทำหน้าที่แก้ไขปัญหาการค้างชำระหนี้ของลูกหนี้สถาบัน การเงินของรัฐและเอกชน ซึ่งตามพระราชกำหนด บสท. พ.ศ. 2544 กำหนดให้รับโอนเฉพาะ สินทรัพย์ด้อยคุณภาพจากธนาคารพาณิชย์ บริษัทเงินทุนและบริษัทบริหารสินทรัพย์ทั้งของรัฐและ เอกชน ที่มีสภาพเป็นสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2543 โดยสถาบันผู้โอนจะต้องมีความรับผิดชอบร่วมกับ บสท. ในผลกำไรหรือขาดทุนจากการบริหารสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ ดังกล่าวด้วย ซึ่ง บสท. จะบริหารจัดการหนี้ที่เป็นสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ โดยพยายามให้ลูกหนี้ที่ ยังพอมีศักยภาพสามารถชำระหนี้ที่ค้างชำระได้ และแปลงสภาพเป็นสินทรัพย์ที่มีคุณภาพสามารถดำเนินกิจการต่อไปได้ ในขณะเดียวกันต้องไม่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่สถาบันเจ้าหนี้ผู้โอนและไม่เป็นภาระกับผู้เสียภาษี ในการบริหารจัดการสินทรัพย์ด้อยคุณภาพของ บสท. จะมีหลายวิธี ทั้งการปรับ โครงสร้างหนี้ การปรับโครงสร้างกิจการ การฟื้นฟูกิจการภายใต้กฎหมายล้มละลาย ซึ่งในการ แก้ไขปัญหาสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ บสท. จะเลือกใช้วิธีการในการปรับโครงสร้างการชำระหนี้ให้ เหมาะสมกับลูกหนี้แต่ละราย ทั้งนี้ หาก บสท. ไม่สามารถใช้วิธีการดังกล่าวบริหารจัดการกับสินทรัพย์ด้อยคุณภาพนั้นได้ บสท. จะใช้วิธีการบังคับจำนองหรือบังคับจำนำกับทรัพย์สินที่เป็นหลักประกัน เพื่อให้ บสท. มีกรรมสิทธิ์เหนือทรัพย์สินที่เป็นหลักประกันนั้นก่อนที่จะทำการพัฒนาทรัพย์สินเหล่านั้นให้มีมูลค่าเพิ่มสูงขึ้น โดยอาจใช้แนวทางเปิดให้มีการร่วมลงทุนกับ บสท. เป็นลำดับแรก ซึ่งอาจมีทั้งการร่วม ลงทุนจดทะเบียนจัดตั้งเป็นนิติบุคคลทั่วไป หรือการจดทะเบียนจัดตั้งเป็นนิติบุคคลเฉพาะกิจเพื่อบริหารและจัดการทรัพย์สิน (Special Purpose Vehicles : SPV) ประเภทอสังหาริมทรัพย์ หรือ รูปแบบอื่นๆที่เหมาะสมด้วย ส่วนการดำเนินงานของ ปรส. จะต่างกับ บสท. ตรงที่ ปรส. ไม่ได้รับโอนสินทรัพย์จากสถาบันการเงิน แต่จะทำหน้าที่หลักในการชำระบัญชีของสถาบันการเงิน 56 แห่งที่ถูกปิดกิจการ ซึ่งเมื่อพิจารณาจากวัตถุประสงค์ในการประกาศใช้พระราชกำหนด การปฎิรูประบบสถาบันการเงิน พ.ศ. 2540 จะเห็นว่า ปรส. เป็นองค์กรที่จัดตั้งขึ้นเพื่อดำเนินการแก้ไขฟื้นฟูฐานะของสถาบันการเงินที่ถูกระงับการดำเนินกิจการ โดยให้สถาบันการเงินเหล่านั้น จัดทำแผนเพื่อแก้ไขฟื้นฟูฐานะในการดำเนินกิจการให้มั่นคงต่อไป และสำหรับสถาบันการเงินที่ไม่อาจดำเนินการต่อไปได้ ปรส. จะเข้าไปควบคุมเพื่อชำระบัญชีต่อไป ซึ่งในการชำระบัญชีจำเป็นต้องมีการขายทรัพย์สินของสถาบันการเงินนั้นๆ เพื่อนำเงินมาชำระหนี้ที่สถาบันนั้นมีอยู่ อย่างไรก็ตามไม่ว่าจะเป็น กระบวนการทำงานของ บสท. หรือ ปรส. ต่างก็มีวัตถุประสงค์เดียวกันคือ ช่วยแก้ไขปัญหาหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้(เอ็นพีแอล) ที่มีอยู่เป็นจำนวนมากให้ลดลง และทำให้สถาบันการเงินมีการปล่อยสินเชื่อเข้าระบบ เพื่อสร้างเสถียรภาพให้แก่เศรษฐกิจและระบบสถาบันการเงินโดยรวม--จบ-- -อน-

ข่าวองค์การเพื่อการปฏิรูประบบ+บริหารสินทรัพย์ไทยวันนี้

บทบาทที่แตกต่างของ บสท. และ ปรส.

กรุงเทพฯ--17 มิ.ย.--บสท. ประเด็นหนึ่งที่อาจสร้างความสับสนให้กับทุกคนในขณะนี้ คงจะหนีไม่พ้นเรื่องการ ดำเนินงานของบรรษัทบริหารสินทรัพย์ไทย (บสท.) กับ องค์การเพื่อการปฏิรูประบบสถาบันการเงิน (ปรส.) ว่ามีความแตกต่างกันอย่างไร เพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ชัดเจนยิ่งขึ้น คงต้องพิจารณา วัตถุประสงค์ในการจัดตั้งและแนวทางการดำเนินการของแต่ละองค์กรเปรียบเทียบกัน สำหรับ วัตถุประสงค์ในการจัดตั้ง บสท. นั้น เพื่อทำหน้าที่แก้ไขปัญหาการค้างชำระหนี้ของลูกหนี้สถาบัน การเงินของรัฐและเอกชน ซึ่งตามพระราชกำหนด บสท. พ.ศ

แถลงผลการดำเนินคดี ปรส. เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2557

สำนักงาน ป.ป.ช. ขอเรียนเพิ่มเติมว่า เรื่องกล่าวหาเกี่ยวกับองค์การเพื่อการปฏิรูประบบสถาบันการเงิน (ปรส.) มีการร้องเรียนกล่าวหาคณะกรรมการ ปรส. และผู้บริหาร ปรส. รวม 10 คน ประกอบด้วย นายธารินทร์ นิมมานเหมินทร์ นายอมเรศ ศิลาอ่อน นายจุลสิงห์ วสันตสิงห์...

ปปช ชี้แจงกรณีนายพร้อมพงศ์ขอทราบผลการพิจารณาคดี ปรส

วันนี้ (11 พฤศจิกายน 2557) เวลา 10.00 น. นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ และนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ได้มาติดตามและขอทราบผลการพิจารณาคดี ปรส. ของคณะกรรมการ ป.ป.ช. สำนักงาน ป.ป.ช. ขอเรียนว่าเรื่องกล่าวหาเกี่ยวกับองค์การเพื่อการปฏิรูประบบสถาบันการเงิน (ปรส.)...

นางวิวรรณ ลาออกจากธนาคารกสิกรไทย

นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า จากกรณีที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ และอัยการได้สั่งฟ้องคดีการขายทอดตลาดสินทรัพย์กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ของ 56 สถาบันการเงินที่ถูกปิดกิจการขององค์การเพื่อการปฏิรูประบบสถาบันการเงิน (ปรส.) เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา...

เลห์แมน บราเดอร์ส ชี้แจงเรื่องการสอบสวนคดีปรส.ของดีเอสไอ

เลห์แมน บราเดอร์ส บริษัทที่ปรึกษาด้านการลงทุนระดับโลก ใคร่ขอชี้แจงรายละเอียดและข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการสอบสวนของกรมสืบสวนคดีพิเศษหรือดีเอสไอใน คดีการขายสินทรัพย์ที่อยู่อาศัยขององค์การเพื่อการปฏิรูประบบสถาบันการเงิน (ปรส.) ตามที่...

เอกพัฒน์ แจ็คพอต ได้จัดสรรเงินคืนเจ้าแรก

กรุงเทพฯ--8 ธ.ค.--ปรส. ปรส. แจง บงล.เอกพัฒน์ เป็นรายแรกที่ได้จัดประชุมเจ้าหนี้ กลุ่มแรกยังเหลืออีก 6 บริษัท พร้อมเร่งสถาบันการเงินทั้ง 51 แห่ง เตรียมเอกสารเพื่อเข้าสู่กระบวนการของศาลล้มละลายในปีหน้าดร.มนตรี เจนวิทย์การ เลขาธิการองค์การ...

บอร์ด ปรส.สั่งอำนวยความสะดวกให้ สตง.เข้ามาตรวจสอบเต็มที่

กรุงเทพ--2 มิ.ย.--ปรส. คณะกรรมการองค์การเพื่อการปฏิรูประบบสถาบันการเงิน (ปรส.) ซึ่งประชุมเมื่อวันที่ 1 มิ.ย.43 โดยมีนายกมล จันทิมา ประธานกรรมการ ปรส. เป็นประธาน ได้รับแจ้งเรื่องที่สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) จะส่งเจ้าหน้าที่...

ปรส.ประมูลขายทรัพย์สินประเภทหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดฯ ครั้งที่ 26

กรุงเทพ--30 พ.ค.--ปรส. องค์การเพื่อการปฏิรูประบบสถาบันการเงิน (ปรส.) โดยหน่วยประสานงาน ด้านการจำหน่ายทรัพย์สินที่มิใช่ทรัพย์สินหลัก (Asset Disposition Coordination Unit : ADCU) จะดำเนินการประมูลขายทรัพย์สินประเภทหลักทรัพย์จดทะเบียน...

"บงล.ธนไทย" มอบหมาย "คริสตี้ส์" จัดประมูลภาพศิลปะชั้นเยี่ยม และธนบัตรหายาก 18 มี.ค.นี้

กรุงเทพฯ--9 มี.ค.--ปรส. (อาคารสินธร 9 มีนาคม 2543) ดร.มนตรี เจนวิทย์การ เลขาธิการองค์การเพื่อการปฏิรูประบบสถาบันการเงิน (ปรส.) แถลงต่อสื่อมวลชนว่า บริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ ธนไทย จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นสถาบันการ...

ปรส. เตือนให้ลูกหนี้รีบมาประนอมหนี้กับสถาบันการเงินที่ถูกสั่งระงับการดำเนินกิจการ

กรุงเทพฯ--3 มี.ค.--ปรส. ตามที่องค์การเพื่อการปฏิรูประบบสถาบันการเงิน (ปรส.) มีความประสงค์จะให้ความช่วยเหลือลูกหนี้ของสถาบันการเงินที่ถูกสั่ง ระงับการดำเนินกิจการ (ที่ ปรส.ยังมิได้จำหน่ายออกไป) โดยเปิดโอกาส...