เทคโนโลยี In-Memory: ติดปีกให้ธุรกิจแบบเรียลไทม์ (In-Memory Technology: Building a Real-Time Business)

กรุงเทพ--6 ม.ค.--

การเติบโตของปริมาณข้อมูลมหาศาลกำลังก่อให้เกิดความท้าทายในการบริหารจัดการสำหรับบริษัทองค์กรธุรกิจทั่วโลก เนื่องจากปัจจัยต่างๆ อาทิ การควบรวมกิจการที่เพิ่มมากขึ้น และการเพิ่มขึ้นของข้อมูลทั้งแบบ Structured และ Unstructured ทำให้ข้อมูลขององค์กรในส่วนที่เกี่ยวข้องกับแอพพลิเคชั่นธุรกิจเพิ่มขึ้นเท่าตัวในทุก 18 เดือน โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับแอพพลิเคชั่นธุรกิจบางประเภท เช่น เรคคอร์ดข้อมูลการสื่อสาร นั้นปริมาณข้อมูลสามารถเพิ่มขึ้นถึงสี่เท่าได้ในเวลาเท่าๆ กัน และในขณะเดียวกัน ข้อกำหนดเกี่ยวกับการติดตามธุรกรรมการเงินและข้อมูลลูกค้าที่ต้องรัดกุมมากยิ่งขึ้น ทำให้องค์กรธุรกิจต้องมองหาแนวทางการบริหารข้อมูลให้ดียิ่งขึ้น ต้องบำรุงรักษาและดูแลข้อมูลเป็นเวลาหลายปี ซึ่งปัญหา คือ องค์กรธุรกิจต้องจัดซื้อและดูแลฮาร์ดแวร์ที่เก็บข้อมูล ซึ่งเป็นจำนวนเงินมหาศาล ทั้งดาต้าแวร์เฮ้าส์หลายๆ ตัวเมื่อรวมกับระบบต่างๆ เข้าด้วยกัน ย่อมก่อให้เกิดค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น ดังนั้น องค์กรธุรกิจต้องวางแผนด้านกลยุทธ์รับมือให้ได้อย่าง รวดเร็ว และทันสมัย พร้อมทั้งพัฒนาแผนการรับมือได้ก่อนที่จะต้องประสบกับผลกระทบเชิงลบต่อธุรกิจ ตลอดจนคาดการณ์ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการรับมือกับความต้องการหรือความไม่พึงพอใจจากลูกค้า จากนั้นฝ่ายงานขายต้องมีความพร้อมด้านข้อมูลที่จำเป็นในการปิดการขาย ทุกเมื่อ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายดังกล่าว องค์กรธุรกิจต้องมีความชัดเจนด้านข้อมูลเชิงธุรกรรมของการดำเนินการในแต่ละขั้นตอน โดยไม่จำเป็นต้องเสียเวลารอข้อมูลดิบจากดาต้าแวร์เฮ้าส์ อย่างไรก็ตาม ปริมาณข้อมูลจากธุรกรรมต่างๆ ที่นำมาใช้ในการวิเคราะห์ เพื่อสร้างความชัดเจนทางธุรกิจนั้น ก็มีจำนวนมากเกินกว่าขีดความสามารถของระบบเก็บข้อมูลแบบดิสก์ หรือแม้แต่ดาต้าแวร์เฮ้าส์จะจัดการได้ภายในเวลาตอบรับที่เหมาะสม แต่ในปัจจุบัน องค์กรส่วนใหญ่ ต้องสามารถตอบคำถามให้ได้ทันที รวดเร็ว โดยอาศัยข้อมูลแบบเรียลไทม์ เทคโนโลยี In-memory คือ คำตอบ ในระบบดั้งเดิมแบบดิสก์นั้น ข้อมูลถูกดึงจากระบบปฏิบัติการ และจัดรูปแบบ (Structured Data) ในระบบวิเคราะห์ของดาต้าแวร์เฮ้าส์ ที่แยกออกมาต่างหาก จึงสามารถรับคำถาม (Query) ได้ ซึ่งหมายถึงแอพพลิเคชั่นในการปฏิบัติงานจะไม่เชื่อมต่อกับสภาพแวดล้อมของการวิเคราะห์ข้อมูลเหล่านั้น จึงเสียเวลาไปในระหว่างการเก็บข้อมูล และจากนั้นจึงค่อยนำมาวิเคราะห์ อย่างไรก็ตาม ด้วยเทคโนโลยี In-memory ข้อมูลจากการดำเนินการได้ถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูลเดียว ที่สามารถรับมือกับธุรกรรมและอัพเดทต่างๆ ที่เกิดขึ้นได้จากการดำเนินงานในแต่ละวัน รวมทั้งกับรีเควสต์เชิงวิเคราะห์ แบบเรียลไทม์ที่มีเข้ามาอีกด้วย เทคโนโลยี In-memory Computing นี้ทำให้สามารถประมวลผลข้อมูลปริมาณมหาศาลในเมโมรี่หลักของเซิร์ฟเวอร์ได้ ส่งผลให้ได้รับคำตอบจากการวิเคราะห์ธุรกรรมเหล่านั้นได้ทันที เนื่องจากเทคโนโลยี In-memory เปิดโอกาสให้เรียกใช้ข้อมูลได้โดยตรงจากเมโมรี่ ดังนั้น ผลจากการทำ Query จะกลับมาได้เร็วกว่าระบบแวร์เฮ้าส์บนดิสก์แบบดั้งเดิม ประหยัดเวลาที่ใช้ไปในการอัพเดทฐานข้อมูลลงได้อย่างเห็นได้ชัด และระบบเองก็สามารถที่จะรับมือกับ Query ได้จำนวนมากขึ้นพร้อมๆ กันในครั้งเดียว จากความเร็วการประมวลผลที่เร็วขึ้น จำนวน Query ที่รับได้มากขึ้น ความชัดเจนของข้อมูลธุรกิจเชิงวิเคราะห์เที่ยงตรงแม่นยำมากขึ้น ชี้ว่าระบบบริหารจัดการฐานข้อมูลด้วย In-memory นี้ ให้ประสิทธิภาพความเร็วเพิ่มขึ้นจากระบบบนดิสก์แบบเก่าคิดเป็น 10 ถึง 20 เท่าเลยทีเดียว องก์ประกอบของ In-memory Computing ไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่เป็นเรื่องของช่วงเวลาที่เหมาะสมในการใช้งาน จากพัฒนาการด้านเศรษฐศาสตร์ฮาร์ดแวร์ และนวัตกรรมเทคโนโลยีซอฟท์แวร์ ทำให้การกลั่นกรองวินิจฉัย จัดระเบียบ จำแนกประเภทและอัพเดทข้อมูลปริมาณมาก เป็นไปได้ในเวลาเพียงเสี้ยววินาที โดยอาศัยเทคโนโลยี In-memory ที่เป็นเทคโนโลยีขั้นแอดว้านซ์ ที่รวบรวมศักยภาพจากเมโมรี่หลัก มัลติคอร์โปรเซสซิ่ง และการบริหารจัดการข้อมูลเข้าด้วยกันเพื่อประสิทธิภาพการทำงานสูงสุด ประโยชน์ต่อธุรกิจ เทคโนโลยี In-memory คือ การสร้างประสิทธิภาพสูงสุดต่อองค์กรธุรกิจในปัจจุบัน ที่เด่นชัดที่สุด คือ ประสิทธิภาพที่สูงขึ้น ด้านการช่วยให้องค์กรลดค่าใช้จ่าย สามารถทำงานร่วมกันทั่วทั้งองค์กรได้อย่างถูกต้อง และชัดเจน ทำให้การตัดสินใจทางธุรกิจได้อย่างแม่นยำมากยิ่งขึ้น ประหยัดค่าใช้จ่าย ธุรกิจไม่ว่าขนาดใด ย่อมได้ประโยชน์จากการลดค่าใช้จ่ายผ่านการติดตั้งเทคโนโลยี In-memory ซึ่งปัจจุบันนี้ ค่าใช้จ่ายจากการบริหารจัดการฐานข้อมูลคิดเป็น 25% ของงบประมาณสารสนเทศขององค์กร และเนื่องจากฐานข้อมูลบนระบบ In-memory ใช้ฮาร์ดแวร์ที่ช่วยประหยัดไฟมากกว่าระบบดั้งเดิม ยิ่งช่วยให้ประหยัดลดค่าใช้จ่ายและค่าบำรุงรักษาฮาร์ดแวร์ลงไปได้มากยิ่งขึ้น ฐานข้อมูล In-memory ลดความซับซ้อนยุ่งยากในการจัดการบริหารระบบสารสนเทศขององค์กร การที่ใช้ทรัพยากรน้อยลง ทำให้เหลือทรัพยากรไว้สนับสนุนกิจกรรมประเภทอื่นที่จำเป็นได้ อาทิ รายงาน ที่เคยสิ้นเปลืองเนื้อที่ในการทำงานมาก่อน และด้วยความที่เทคโนโลยี In-memory เป็นที่ยอมรับ พิสูจน์แล้วในศักยภาพประสิทธิภาพที่ได้รับจริงตามที่คาดหมาย ดังจะเห็นได้จากการติดตั้งที่ไม่ยุ่งยาก ไม่กีดขวางการทำงานปกติ ยังสามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างต่อเนื่อง ไม่ส่งผลกระทบอย่างใดต่อการดำเนินงานปกติ ประสิทธิภาพโดดเด่นบนความเรียบง่าย บริษัทใดก็ตามที่การปฏิบัติงานขึ้นอยู่กับการต้องอัพเดทข้อมูลสม่ำเสมอ จะต้องพึ่งพาศักยภาพเทคโนโลยี In-memory ในการดำเนินงาน ซึ่งช่วยลดระดับเทคโนโลยีทั้งหมดออกจากสถาปัตยกรรมระบบสารสนเทศขององค์กร ลดความซับซ้อนทางโครงสร้างแบบดั้งเดิม ส่งผลให้สื่อสารข้อมูลใช้เวลาสั้นลงกว่าเดิม หรือเกือบจะในทันที เพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานภายในองค์กร เทคโนโลยี In-memory Computing นี้ทำให้ผู้ใช้งานได้ความชัดเจนของข้อมูลเบื้องลึกลงรายละเอียดจำแนกประเภทตามแผนก เพื่อความเหมาะสมในการใช้งาน การแบ่งกลุ่มงานนั้นสามารถทำได้โดยอัตโนมัติโดยไม่ส่งผลกระทบต่อการทำงานของดาต้าแวร์เฮ้าส์ส่วนกลาง บางที สิ่งที่สำคัญที่สุด คือ การที่ผู้ใช้งานไม่ต้องพึ่งพาไอทีซัพพอร์ตมากนักเพียงเพื่อจะเรียกใช้ข้อมูลธุรกิจที่จำเป็นกับงานของตน ประสิทธิภาพในการดำเนินธุรกิจเช่นนี้ ทำให้ผู้ใช้งานที่ทำงานอยู่นอกออฟฟิศ สามารถเรียกใช้ข้อมูลที่มีคุณภาพผ่านอุปกรณ์โมบายล์ได้ ซึ่งได้กลายมาเป็นปัจจัยสำคัญมากขึ้นสำหรับบริษัทองค์กรธุรกิจที่หันมาประยุกต์เทคโนโลยีโมบายล์มาใช้ในการดำเนินธุรกิจของตนมากขึ้น โปร่งใสชัดเจนอย่างเห็นได้ชัด ก้าวสำคัญสู่การตัดสินใจธุรกิจเฉียบคม เทคโนโลยี In-memory ทำให้องค์กรธุรกิจมีภาพรวมทางธุรกิจ ไม่ติดกับอยู่เพียงแค่ข้อมูลหยิบมือที่ถูกดึงออกมาหรือเก็บเข้าดาต้าแวร์เฮ้าส์เท่านั้น จากภาพรวมที่ชัดเจนยิ่งขึ้นนี้ ธุรกิจสามารถเปลี่ยนจากแบบตั้งรับไปเป็นแบบเชิงรุก ด้วยการวางแผนที่ดีมากขึ้น อาศัยการวิเคราะห์ข้อมูลแบบเรียลไทม์ เมื่อใช้งานคู่กับโซลูชั่นเพื่อการวิเคราะห์ข้อมูล SAP BusinessObjects 4.0 ที่ใช้งานง่าย ยิ่งเพิ่มประสิทธิภาพให้แก่ผู้ใช้งานที่ไม่ต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านใด ก็เรียกข้อมูล (Query) และอ่านแดชบอร์ดแผนข้อมูลได้ง่ายดาย ผลกระทบต่อธุรกิจประเภทต่างๆ การบริหารจัดการลูกค้าด้วยเทคโนโลยี In-memory ทีมงานลูกค้าสามารถเก็บรวบรวมข้อมูลแบบต่างๆ กัน เพื่อการวิเคราะห์เกี่ยวกับพฤติกรรมของลูกค้าได้คล่องตัวรวดเร็ว และวิเคราะห์ประวัติจากอดีตถึงสถานะธุรกิจในปัจจุบัน ได้สะดวกง่ายดาย ไม่ว่าจะอยู่ในออฟฟิศหรือเรียกเข้ามาผ่านอุปกรณ์สื่อสารเคลื่อนที่ ไร้สายต่างๆ ก็ตาม เนื่องจากผู้ใช้งานในวงธุรกิจ สามารถที่จะติดต่อหรือตั้งคำถาม (Query) กับข้อมูลในหน่วยความจำได้โดยตรง จึงสามารถจำลองการทำงานรูปแบบต่างๆ ในการสร้างสรรค์รูปแบบการขาย หรือแผนการตลาดที่โดนใจลูกค้าได้เต็มที่ ทีมงานขายสามารถเข้าถึงข้อมูลตามความจำเป็นได้ด้วยตนเอง ทำให้เข้าใจพฤติกรรมลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น เพิ่มโอกาสในการสร้างรายได้ สามารถปิดการขาย และจำหน่ายสินค้าข้ามไลน์ได้อย่างคล่องตัว การบริหารจัดการห่วงโซ่อุปทาน ด้วยระบบการเก็บข้อมูลบนดิสก์แบบดั้งเดิมนั้น ข้อมูลจะถูกประมวลตอนกลางคืน หมายถึงบ่อยครั้งการตอบสนองต่อการจัดการส่งสินค้าที่สำคัญเร่งด่วนทางธุรกิจก็จะล่าช้าออกไป แต่ด้วยเทคโนโลยี In-memory องค์กรธุรกิจสามารถเห็นภาพที่ชัดเจน ของข้อมูลความต้องการเชิงธุรกิจที่ถูกต้อง ทันสมัย ระดับวินาทีต่อวินาที แบบเรียลไทม์ โดยสามารถเปลี่ยนรูปแบบการดำเนินธุรกิจอย่างสิ้นเชิง อาทิ สามารถมีการเตือนก่อนล่วงหน้าได้เมื่อสต็อคสินค้าเริ่มลดลง ทำการแก้ไขสั่งเพิ่มได้ทันตามความเหมาะสม การบริหารการเงิน ผู้ดูแลด้านการเงินมักต้องประสบปัญหาอยู่เสมอเรื่องปริมาณข้อมูลที่เพิ่มขึ้น และความล่าช้าในการตอบสนองของข้อมูล จึงเหมือนถูกบังคับให้ต้อง จำกัด ช่วงเวลาของการวิเคราะห์ข้อมูลให้เหลือเป็นจำนวนวัน แทนที่จะเป็นเดือนหรือไตรมาส นำไปสู่ความล่าช้าต่างๆ มากมาย รวมทั้งการปิดบัญชีด้วย แต่ด้วยเทคโนโลยี In-memory การวิเคราะห์ข้อมูลปริมาณมหาศาลในสภาพแวดล้อมที่มีความยืดหยุ่นคล่องตัว ย่อมหมายถึงการปิดบัญชีประจำไตรมาสได้เร็วขึ้น ได้ภาพรวมที่ชัดเจนของรายละเอียดธุรกรรมการเงินที่ดำเนินมาเป็นระยะเวลาหนึ่งๆ ได้ดีมากขึ้น ผลกระทบต่อวงการอุตสาหกรรม เทคโนโลยี In-memory นั้นมีความเป็นไปได้ในการสนับสนุนธุรกิจในทุกอุตสาหกรรม ให้ปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นคอนซูมเมอร์โปรดักส์และค้าปลีก ไปจนถึงการผลิตและบริการการเงิน คอนซูมเมอร์โปรดักส์นั้นสามารถใช้เทคโนโลยี In-memory เพื่อการบริหารสินค้าสำรอง (Supplies) ที่มีอยู่ ติดตามและค้นหาโปรดักส์ บริหารจัดการด้านโปรโมชั่น สนับสนุนมาตรฐาน EPA และทำการวิเคราะห์เกี่ยวกับโปรดักส์สินค้า ที่มีตำหนิและยังอยู่ในการรับประกัน บริษัทธุรกิจด้านค้าปลีกสามารถบริหารจัดการการปฏิบัติงานของสโตร์ได้ครอบคลุมทั่วทุกสาขาที่ตั้ง สามารถทำการวิเคราะห์ข้อมูล ณ จุดขาย (Point-of-sales Analytics) ได้ สามารถทำการวิเคราะห์การตัดราคาแบบหลากช่องทาง (Multi-channel Pricing Analyses) รวมทั้งติดตามโปรดักส์ที่ชำรุด เน่าเสีย หรือถูกตีกลับได้อีกด้วย ส่วนธุรกิจด้านการผลิตนั้น สามารถที่จะใช้เทคโนโลยี In-memory เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารงาน ทำการวิเคราะห์ข้อมูลการผลิตและการบำรุงรักษา รวมทั้งศึกษาการใช้วัตถุดิบได้แบบเรียลไทม์ได้อีกด้วย สำหรับธุรกิจด้านบริการการเงินนั้น สามารถที่จะวิเคราะห์การลงทุนกองทุนรวม เพื่อป้องกันความเสี่ยงต่างๆ เช่น บริหารความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน อนุพันธ์ ตราสารทุนต่างๆ ให้แก่นักลงทุน การมีข้อมูลที่สามารถเรียกใช้ได้จาก In-memory ช่วยในการบริหารความเสี่ยงได้อย่างเป็นระบบในแบบเรียลไทม์ และยังสามารถรายงานสถานภาพความเสี่ยงจากการลงทุนในตลาดได้อีกด้วย การเปลี่ยนแปลงวิธีการดำเนินการธุรกิจ จากการคาดการณ์ ภายในห้าปีจากนี้ไป ประมาณ 30% ขององค์กรธุรกิจจะมีแอพพลิเคชั่นอย่างน้อยหนึ่งหรือมากกว่านั้น เพื่อใช้งานบนฐานข้อมูล In-memory และภายในปี พ.ศ. 2557 ประมาณ 30% ของแอพพลิเคชั่น เพื่อการวิเคราะห์ธุรกิจจะใช้ฟังก์ชั่น In-memory เพื่อรองรับการเพิ่มอัตราความเร็วและศักยภาพในการคำนวณอีกด้วย เทคโนโลยี In-memory คือทางเลือกที่ดีที่สุดที่มาแทนที่ระบบบริหารข้อมูลรุ่นดิสก์ที่ราคาสูงแต่ความเร็วต่ำ เนื่องจากความสะดวกคล่องตัวจากภาพของธุรกิจที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้น ประสิทธิภาพในการดำเนินงานที่เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด และยังช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านสารสนเทศที่ลดลงไปอย่างชัดเจน ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นข้อได้เปรียบสำหรับองค์กรธุรกิจตัดสินใจหันมาใช้เทคโนโลยี In-memory ก่อนใคร กส

ข่าวติดปีกให้ธุรกิจ+การบริหารจัดการวันนี้

บลจ.กสิกรไทย คว้า 5 รางวัลยอดเยี่ยม Best of the Best Awards 2025 ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านกองทุนของไทย

บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด (บลจ.กสิกรไทย) ได้รับรางวัลอันทรงเกียรติถึง 5 รางวัล จากงาน Best of the Best Awards 2025 ได้แก่ รางวัล Best Asset Management Company (30 Years), Best Asset Management Firm for Digital Marketing, Best Alternatives Manager, Best ESG Manager และ Best Multi-Asset Manager ทั้งนี้ รางวัลที่ บลจ.กสิกรไทย ได้รับทั้ง 5 สาขา แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ บลจ.กสิกรไทย ในการพัฒนาและนำเสนอบริการด้านการบริหารจัดการสินทรัพย์ที่ครอบคลุมและมีคุณภาพ รวมถึงการปรับตัว

ธนาคารกรุงไทยในฐานะธนาคารพาณิชย์ของรัฐ เด... กรุงไทย หนุนลูกค้าธุรกิจ ขยายเวลาฟรีค่าธรรมเนียม e-Withholding Tax Plus ถึงสิ้นปี 68 — ธนาคารกรุงไทยในฐานะธนาคารพาณิชย์ของรัฐ เดินหน้าสนับสนุนลูกค้าผู้ประ...

เมื่อสถานการณ์โควิด-19 เริ่มคลี่คลาย ภาพร... ติดปีกให้ธุรกิจคว้าโอกาสหลังโควิด-19 ด้วยโซลูชันเครื่องปรับอากาศแอลจี — เมื่อสถานการณ์โควิด-19 เริ่มคลี่คลาย ภาพรวมเศรษฐกิจก็มีแนวโน้มที่ดีขึ้นจากการท่องเ...

ธนาคารกรุงไทย เดินหน้าสนับสนุนการลงทุนระห... กรุงไทยจัดโปรเด็ด เอาใจลูกค้าใหม่ EEC ซื้อ-ขาย FX รับ Voucher สูงสุด 15,000 บาท — ธนาคารกรุงไทย เดินหน้าสนับสนุนการลงทุนระหว่างประเทศ มุ่งนำเทคโนโลยีและนว...

ไอบีเอ็มชวนผู้บริหารการเงิน การตลาด การบุคคล ร่วมงาน LeadershipConnect ยกขบวนโซลูชั่นส์ติดปีกให้ธุรกิจ

ไอบีเอ็มจัดงาน IBM LeadershipConnect งานสัมนาครั้งยิ่งใหญ่แห่งปี ในวันอังคารที่ 12 มีนาคม 2556 ณ ห้องโลตัส สวีท เซ็นทาราแกรนด์ เซ็นทรัลเวิล์ด โดยยกขบวนไอทีโซลูชั่นส์...

เทคโนโลยี In-Memory: ติดปีกให้ธุรกิจแบบเรียลไทม์ (In-Memory Technology: Building a Real-Time Business)

การเติบโตของปริมาณข้อมูลมหาศาลกำลังก่อให้เกิดความท้าทายในการบริหารจัดการสำหรับบริษัทองค์กรธุรกิจทั่วโลก เนื่องจากปัจจัยต่างๆ อาทิ การควบรวมกิจการที่เพิ่มมากขึ้น และการเพิ่มขึ้นของข้อมูลทั้งแบบ...

ทรูมูฟ บุกตรงถึงออฟฟิศ เสริมทัพลูกค้าธุรกิจ ร่วมฝ่าวิกฤตเศรษฐกิจ แนะนำ “ซิมธุรกิจ” โทรไม่อั้น Wi-Fi ไม่จำกัด เพิ่มความแรงไฮสปีด 3 เท่า เพียงเดือนละ 69 บาท

เมื่อเร็วๆ นี้ นายจุมพล เรืองวิวัฒจรัส (กลาง-เสื้อดำ) รองผู้อำนวยการ สายงานโซลูชั่นลูกค้าธุรกิจ บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น นำขบวน พนักงานทรู ออกเดินสาย...