เดกซ์ (DEX) ย้ำภาพผู้นำตลาดลิขสิทธิ์การ์ตูนและคาแรกเตอร์ของไทย หลังนำโด่งกวาดแชร์ทะลุ 25% ของตลาดรวม

- มั่นใจโตกว่า 20% ในปี 55 หลังล่าสุดนำลิขสิทธิ์ “วันพีซ”การ์ตูนสุดฮอตแห่งยุคเข้ารุกทำตลาดเมืองไทย - เดกซ์ เปิดฉากรุกตลาดลิขสิทธิ์การ์ตูนและคาแรกเตอร์เมืองไทย ล่าสุดคว้า “วันพีซ (One Piece)” การ์ตูนสุดฮอตแห่งแดนปลาดิบ ที่ได้รับความนิยมเทียบเท่ากับดราก้อนบอล เข้ามาเปิดตลาดให้กลุ่มธุรกิจ เมืองไทยได้ใช้เป็นกลยุทธ์เพื่อกวาดกระแสนิยมครั้งใหม่ ซึ่งจะทำให้ เดกซ์ แข็งแกร่งยิ่งขึ้นหลังลิขสิทธิ์ “อุลตร้าแมน และมาสค์ไรเดอร์” ติดลมบนแบบเหนือชั้น นายกฤษณ์ สกุลพานิช กรรมการผู้จัดการ บริษัท ดรีม เอกซ์เพรส (เดกซ์) จำกัด เปิดเผยว่า ในปีที่ผ่านมา เดกซ์ ประสบความสำเร็จอย่างมากในส่วนธุรกิจลิขสิทธิ์การ์ตูนและคาแรกเตอร์ โดยเน้นการทำตลาดแบบวงกว้าง อย่างครบวงจรและสานต่อกลยุทธ์ดังกล่าวในปีนี้อย่างต่อเนื่อง โดย 4 เดือนที่ผ่านมา เดกซ์ สามารถดำเนินธุรกิจ ได้ตามเป้าที่ตั้งไว้ สะท้อนได้จากความสนใจที่เพิ่มขึ้นของลูกค้ากลุ่มธุรกิจอุปโภคและบริโภคกว่าเท่าตัว เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ดังเช่นล่าสุดที่ เนสท์เล่ไอศครีม ได้ใช้ลิขสิทธิ์ บาคุกัน ภาคสาม (BAKUGAN 3) เพื่อปรากฏบนซองและประชาสัมพันธ์ในรูปแบบของสื่อและพรีเมี่ยมตลอดช่วงฤดูร้อนที่ผ่านมา ถือเป็นอีกหนึ่งแคมเปญที่ได้ผลอย่างน่าพอใจ รวมถึงอีกหลากหลายแบรนด์ชั้นนำที่อยู่ระหว่างการพัฒนาสินค้าเพื่อนำเสนอสู่ตลาด ในปี 2555 ซึ่งถือได้ว่าตลาดเมืองไทยมีพัฒนาการและเริ่มใช้การ์ตูนและคาแรกเตอร์เพิ่มเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์การตลาดอย่างชัดเจน และมีแนวโน้มจะเติบโตอย่างต่อเนื่องกว่าเท่าตัวในแต่ละปีนับจากนี้ “ด้วยความเป็นผู้นำตลาดนอกจากจะต้องรักษากระแสนิยมให้แก่การ์ตูนและคาแรกเตอร์ในเครือแล้ว เดกซ์ ยังต้อง นำเทรนด์และสร้างความแปลกใหม่ให้แก่ธุรกิจลิขสิทธิ์อย่างต่อเนื่อง ดังเช่นล่าสุดที่ เดกซ์ ได้นำลิขสิทธิ์การ์ตูน “วันพีซ (One Piece)” อนิเมชั่นตำนานแห่งมิตรภาพและการผจญภัยของกลุ่มเพื่อน รวมกว่า 500 ตอนที่ฉายในประเทศญี่ปุ่น และออกอากาศอย่างต่อเนื่องในวันสุดสัปดาห์มากว่า 10 ปี เทียบเท่าความนิยมได้กับดราก้อนบอลที่เคยโด่งดังมาในอดีต เข้ามาเสนอสู่ตลาดเมืองไทย ซึ่งถือเป็น ทอล์คครั้งใหม่ในวงการ เพราะได้รับการตอบรับอย่างดีจากเหล่าแบรนด์ชั้นนำ โดย “ชาเขียว โออิชิ ยูเอชที” ถือเป็นสินค้าแบรนด์แรกที่ซื้อลิขสิทธิ์ไปปรากฏบนบรรจุภัณฑ์ ซึ่งนับเป็นความสำเร็จแรกหลังแนะนำสู่ตลาดอย่างเป็นทางการเมื่อต้นปีที่ผ่านมา” นายกฤษณ์ สกุลพานิช กล่าว เกี่ยวกับภาพรวมกลยุทธ์ทางการตลาดของ เดกซ์ ในปี 2555 นั้น นายกฤษณ์ สกุลพานิช กล่าวเสริมในประเด็นดังกล่าวว่า “เดกซ์ ได้ทำการสื่อสารการตลาดและประชาสัมพันธ์อย่างต่อเนื่องทั้งทางตรง และทางอ้อมผ่านทุกสื่อ เน้นไปที่กลุ่มเด็ก วัยรุ่นและครอบครัว โดยยึดหลักการที่เนื้อหาไม่เป็นภัยต่อเด็กและสังคม มีการจัดกิจกรรมใหญ่อย่างน้อย 5 ครั้งต่อปี ในช่วงเวลาสำคัญอย่างวันเด็ก ปิดเทอมใหญ่ ปิดเทอมเล็ก ในปีที่ผ่านมา เดกซ์ได้จัดกิจกรรมอุลตร้าแมนโชว์ มาสค์ไรเดอร์โชว์ อย่างต่อเนื่องทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด เพื่อตอบสนองต่อกลุ่มเด็กและครอบครัว สำหรับการสื่อสารสู่กลุ่มวัยรุ่นจะเป็นอีกรูปแบบหนึ่งโดยจะเน้นผ่านสื่อทีวีดาวเทียมที่มีการ์ตูนคลับชาแนลเป็นพันธมิตรสำคัญ และการใช้สื่อดิจิตอลผ่านแคมเปญสนุกๆ เอาใจวัยรุ่น เช่น การชิงรางวัล กันดั้มทัวร์ ไปประเทศญีปุ่นเพื่อไปชมหุ่นยนต์กันดั้มตัวจริงสูง 18 เมตร ชมสตูดิโออนิเมชั่น และแหล่งการ์ตูนอย่างอากิฮาบาร่า เพื่อกลุ่มเป้าหมายจะได้ความสนุกสนานกับคาแรคเตอร์ที่ชื่นชอบ ผสมกับการเรียนรู้วัฒนธรรมการ์ตูนที่กลายเป็นธุรกิจอันโดดเด่นของญี่ปุ่น นอกจากนี้ มูฟวี่มาร์เก็ตติ้ง ก็เป็นเครื่องมือการตลาดอีกชนิดหนึ่งที่จะเข้าถึงกลุ่มวัยรุ่น และครอบครัวได้มากขึ้นซึ่งตลาดอนิเมชั่นมูฟวี่ในญี่ปุ่นมีขนาดใหญ่ไม่แพ้ตลาดภาพยนตร์จากฮอลลีวู้ด เดกซ์ได้ทดลองนำภาพยนตร์ของแต่ละคาร์แรกเตอร์เริ่มเข้าฉายในโรงภาพยนตร์เป็นรอบพิเศษตลอด 2 ปีที่ผ่านมา ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างดี เดกซ์ จึงวางแผนขยายตลาดในด้านภาพยนตร์อนิเมชั่นและไลฟ์แอคชั่นคาร์แรกเตอร์เพิ่มมากขึ้น ต่อคำถามเกี่ยวกับมุมมองภาพรวมธุรกิจลิขสิทธิ์การ์ตูนและคาแรกเตอร์ของตลาดไทยเมื่อเทียบกับต่างประเทศหลักๆ ทั่วโลก พบว่า ปัจจุบันเมื่อการแข่งขันสูงขึ้นทำให้เกิดสื่อใหม่ๆ ที่เข้าถึงผู้ชมผู้รับสารมากขึ้นทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงด้านการรับรู้อย่างรวดเร็ว คาแรกเตอร์การ์ตูนเป็นส่วนหนึ่งของเครื่องมือทางการตลาดที่ง่ายต่อการจดจำในเวลาอันสั้น ในอดีตพบว่า พรีเซนเตอร์สินค้าจะเป็นดาราหรือผู้มีชื่อเสียงเป็นส่วนใหญ่ แต่ปัจจุบันมีพรีเซนเตอร์ที่หลากหลายรูปแบบมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเด็ก หุ่นยนต์ หรือคนที่มีความสามารถมากกว่าหน้าตาที่โดดเด่นรวมถึง อนิเมชั่น คาแรคเตอร์การ์ตูน ทางตลาดยุโรป อเมริกา ได้มีการสร้างคาแรคเตอร์ให้โด่งดังครอบคลุมกลุ่มลูกค้ามากขึ้น ทั้งสร้างเป็นมูฟวี่อนิเมชั่นที่ใช้งบประมาณสูงถึงสิบล้านเหรียญสหรัฐ เช่น แบทแมน สไปเดอร์แมน หลังจากนี้อีกห้าปี อาจจะได้เห็นสมาชิกอเวนเจอร์ผ่านทางภาพยนตร์ในภาคต่ออีกจำนวนมาก ในขณะที่เกาหลีและญีปุ่นเอง ได้ใช้ช่องทางการสร้างคาแรกเตอร์ผ่านทางคอมมิค รายการทีวีและสินค้าอย่างต่อเนื่องตลอด 30 ปีที่ผ่านมา “เดกซ์ ได้เพิ่มทั้งจำนวนคาแรกเตอร์รวมถึงเพิ่มงบด้านการตลาดและงบโฆษณาประชาสัมพันธ์ โดยได้ร่วมกับ พันธมิตรที่มีความเข้าใจในการนำคาแรกเตอร์มาสร้างจุดต่าง สร้างความโดดเด่นให้สินค้าและบริการ ที่ผ่านมา แบรนด์คู่ค้าจะมีการต่ออายุสัญญากับ เดกซ์ มาโดยตลอด ซึ่งทำให้ เดกซ์ ประสบผลสำเร็จจากการทำตลาด คาแรกเตอร์โดยรวมอย่างมาก ทั้งยังส่งผลให้แบรนด์คู่ค้าที่ใช้ลิขสิทธิ์คาแรกเตอร์มีธุรกิจที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง เช่นกัน ซึ่งในปี 2555 เดกซ์ วางแผนเพิ่มจำนวนคาแรกเตอร์เข้ามาในพอร์ท เพื่อให้การตอบสนองต่อกลุ่มผู้บริโภคครบทุกกลุ่ม อาทิ คาแรกเตอร์วันพีซ ที่มีความเหมาะสมกับตลาดวัยรุ่นทั้งชายและหญิงในทุกระดับอายุ เพื่อรักษาฐานความเป็นผู้นำธุรกิจอย่างแข็งแกร่งต่อไป นอกจากการนำเข้าลิขสิทธิ์ด้วยการบริหารแบบภาพรวม และให้ความสำคัญทั้ง 360 องศาแล้ว เรายังเน้นการร่วมมือกับพาร์ทเนอร์เซกเมนท์ต่างๆ ที่มีความสนใจในการใช้ลิขสิทธิ์การ์ตูนและทำการตลาดไปด้วยกัน ทั้งทางสื่อโทรทัศน์ ทีวีดาวเทียม ดิจิตอลทีวี มูฟวี่ สมาร์ทโฟน กลุ่มลูกค้าเมอร์ชันไดซ์ โดยเน้นให้ทุกฝ่ายได้ใช้ศักยภาพของคาแรกเตอร์ในการสื่อสารถึงกลุ่มเป้าหมายอย่างเต็มที่ และทำการตลาดไปพร้อมๆ กัน ถือได้ว่าได้ประโยชน์ร่วมกันทุกฝ่าย ทั้งผู้ใช้ลิขสิทธิ์ ผู้เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ และผู้บริโภค” นายกฤษณ์ สกุลพานิช กล่าวสรุป-กภ- สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net

• ข่าวกฤษณ์ สกุลพานิช
• ข่าวมาสค์ไรเดอร์
• ข่าวกลุ่มธุรกิจ
• ข่าวอุลตร้าแมน
• ข่าวดราก้อนบอล