เอสเอ็นซี-ลาวาลิน ควงแฮทช์ รับรางวัล 2014 Project of the Year Award จาก PMI สำหรับโครงการ AP60 ของริโอ ทินโต อัลแคน

          ทั้งสามบริษัทมีความมุ่งมั่นทุ่มเทอย่างเต็มเปี่ยม โดยมีการนำคำขวัญ “เข้มงวด กล้าหาญ ทุ่มเท” มาใช้เพื่อผลักดันความมุ่งมั่นของทีมงานให้บรรลุเป้าหมายของโครงการ และสูงกว่าความคาดหวังของ RTA ในเรื่องสุขภาพ ความปลอดภัย และสภาพแวดล้อม (Health, Safety, and Environment: HSE)

          โครงการ AP60 ระยะที่ 1 เป็นโรงงานอลูมิเนียมแห่งใหม่ซึ่งตั้งอยู่ในเมืองชงกิแยร์ รัฐคิวเบก (464 กม. ทางตะวันออกเฉียงเหนือของมอนทรีออล) โรงงานดังกล่าวได้รับการออกแบบขึ้นเพื่อทดสอบเทคโนโลยีการถลุงแร่ AP60 ของ RTA ในระดับอุตสาหกรรม โดยถือเป็นโครงการประเภทนี้โครงการแรกในโลก และนับเป็นก้าวแรกในแผนการลงทุนของ RTA ในเขต Saguenay-Lac-Saint-Jean ของรัฐคิวเบก

          RTA มีเป้าหมายที่ชัดเจนมาตั้งแต่เริ่มต้น นั่นคือ การส่งมอบโรงงานอุตสาหกรรมเพื่อสาธิตเทคโนโลยี AP60 อย่างปลอดภัย ด้วยค่าใช้จ่ายในการลงทุนที่ต่ำที่สุด และภายในกรอบเวลาที่สมเหตุสมผล โครงการมูลค่า 1.3 พันล้านดอลลาร์แคนาดานี้แล้วเสร็จก่อนกำหนดหนึ่งเดือน และภายในงบประมาณที่วางไว้ นอกจากนี้ โรงงานแห่งนี้ยังกำหนดมาตรฐาน HSE ในระดับเวิลด์คลาส ซึ่งได้กลายเป็นเกณฑ์มาตรฐานที่ RSA และอุตสาหกรรมการก่อสร้างในควิเบกได้นำไปปฏิบัติเพื่อลดอัตราความถี่การบาดเจ็บถึงขั้นหยุดงาน (LTIFR) ซึ่งก่อนหน้านี้อยู่ในระดับสูง ทั้งนี้ เมื่อแล้วเสร็จ ปรากฏว่าโครงการนี้มีอัตราการบาดเจ็บต่ำกว่าอัตราเฉลี่ยในพื้นที่ถึง 99%

          “การก่อสร้างโรงงานอะลูมิเนียมเพื่อนำเทคโนโลยีที่มีความก้าวหน้ามากที่สุดในโลกมาทดลองใช้งานนั้นถือเป็นเรื่องใหญ่มาก และเป็นความท้าทายที่น่าตื่นเต้น” อังเดร โนเอล ผู้จัดการโครงการ AP60 ของแฮทช์กล่าว “ท่ามกลางวิกฤตการเงินโลก ทีมงานต้องเผชิญกับความท้าทายในการลดต้นทุนโครงการให้ลงมาอยู่ในระดับที่ยอมรับได้ โดยไม่กระทบต่อมูลค่าปัจจุบันสุทธิ การปรับปรุงมูลค่าอย่างทั่วถึงนั้นส่งผลให้เราสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายในการลงทุนได้ประมาณ 280 ล้านดอลลาร์ โดยที่ไม่กระทบกับต้นทุนการดำเนินงาน”

          “เราได้กำหนดมาตรฐานใหม่ด้านสุขภาพและความปลอดภัยในอุตสาหกรรมก่อสร้างในรัฐคิวเบกด้วยโครงการ AP60” มาร์ค โอคอนเนอร์ รองประธานโครงการเหมืองแร่และโลหกรรม ประจำภูมิภาคอเมริกาเหนือ ของเอสเอ็นซี-ลาวาลิน กล่าว “โปรแกรมด้านสุขภาพและความปลอดภัย กระบวนการ และเครื่องมือหลายอย่างที่ถูกพัฒนาขึ้นเป็นส่วนหนึ่งของโครงการนี้ ก็ได้กลายเป็นต้นแบบของเครื่องมือที่กำลังมีการใช้งานกับโครงการต่างๆในปัจจุบัน”

          “การบริหารโครงการ เป็นเรื่องเกี่ยวกับความสามารถของคุณในการแจกแจงรายละเอียดของแผนงาน นำเสนอแผนงาน ดำเนินแผนงาน และส่งมอบผลลัพธ์ และนั่นเป็นเรื่องที่ทีมงานทำได้ดีมาก พวกเขาเป็นทีมที่ดีที่สุด” มิเชล ชาร์รอน ผู้อำนวยการโครงการของโอ ทินโต อัลแคน กล่าว

          โครงการดังกล่าวดำเนินงานภายใต้รูปแบบสัญญาการบริหารวิศวกรรม การจัดซื้อจัดจ้าง และการก่อสร้าง (Engineering, Procurement and Construction Management: EPCM) ซึ่งนำโดยธุรกิจร่วมทุนระหว่างเอสเอ็นซี-ลาวาลิน และแฮทช์

          เอสเอ็นซี-ลาวาลิน เป็นหนึ่งในกลุ่มบริษัทวิศวกรรมและการก่อสร้างที่ใหญ่ที่สุดในโลก และเป็นเจ้าของโครงสร้างพื้นฐานรายใหญ่ เอสเอ็นซี-ลาวาลินก่อตั้งขึ้นในปีพ.ศ. 2454 ปัจจุบันบริษัทมีสำนักงานในกว่า 50 ประเทศ และพนักงานราว 45,000 คนที่คอยให้บริการด้าน EPC และ EPCM แก่ลูกค้าในภาคอุตสาหกรรมที่หลากหลาย ซึ่งรวมถึงเหมืองแร่และโลหกรรม น้ำมันและก๊าซ สิ่งแวดล้อมและน้ำ โครงสร้างพื้นฐาน และไฟฟ้า บริษัทสามารถผนวกรวมบริการเหล่านี้เข้าด้วยกัน ด้วยศักยภาพทางการเงิน การดำเนินงาน และการซ่อมบำรุง เพื่อนำเสนอโซลูชั่นโครงการแบบ end-to-end ที่ครบวงจร

          ติดต่อ:
          Gabrielle Lamirande-Gauvin
          หัวหน้าฝ่ายสื่อสารและการตลาด ประจำภูมิภาคอเมริกาเหนือฝั่งตะวันออก
          บริษัทแฮทช์ จำกัด
          โทร: +1-514-864-5500
          อีเมล: glamirande-gauvin@hatch.ca
          www.hatch.ca

          Alexis Fung Fook
          ผู้จัดการฝ่ายสื่อสาร
          เอสเอ็นซี-ลาวาลิน
          โทร: +1-416-252-5315 ต่อ 52379
          อีเมล: alexis.fungfook@snclavalin.com

          Claudine Gagnon
          หัวหน้าที่ปรึกษาฝ่ายสื่อมวลชนสัมพันธ์
          ริโอ ทินโต อัลแคน
          โทร: +1-514-848-1129
          อีเมล: claudine.gagnon@riotinto.com