การประชุมคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม (กทค.) ครั้งที่ 8/2559 วันจันทร์ที่ 28 มีนาคม 2559 มีวาระที่น่าจับตา คือ เรื่องแนวทางปฏิบัติการออกใบอนุญาตตั้งสถานีวิทยุคมนาคมหรือเสาส่งสัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่ซึ่งจะมีการแยกกระบวนการออกใบอนุญาตออกจากกระบวนการร้องเรียน และรายงานการให้บริการคงสิทธิเลขหมายโทรศัพท์เคลื่อนที่ในไตรมาสที่ 3 และไตรมาสที่ 4 ประจำปี 2558
วาระแนวทางปฏิบัติการออกใบอนุญาตตั้งเสาส่งสัญญาณโทรคมนาคม
วาระนี้เป็นวาระที่สำนักงาน กสทช. เสนอ กทค. พิจารณายกเลิกแนวทางปฏิบัติของสำนักงานในการตรวจสอบการขออนุญาตตั้งเสาสถานีวิทยุคมนาคมของผู้ประกอบการภายใต้มาตรการกำกับดูแลความปลอดภัยเกี่ยวกับการเครื่องวิทยุคมนาคม ตามมติ กทช. ครั้งที่ 18/2553 และเห็นชอบแนวทางปฏิบัติใหม่ที่แยกกระบวนการออกใบอนุญาตให้ตั้งสถานีวิทยุคมนาคมออกจากกระบวนการร้องเรียน นั่นคือ สำนักงาน กสทช. จะพิจารณาออกใบอนุญาตให้ตั้งสถานีวิทยุคมนาคมแก่ผู้ประกอบการได้ทันทีที่มีการยื่นคำขอและแนบเอกสารหลักฐานมาครบถ้วน โดยไม่จำเป็นต้องมีการตรวจสอบว่ามีการร้องเรียนหรือไม่ แต่หากพบว่าภายหลังจากการออกใบอนุญาตแล้วมีผู้ร้องเรียน ก็จึงค่อยให้ดำเนินการทำความเข้าใจกับประชาชน หรือเพิกถอนและพักใช้ใบอนุญาต แต่ทั้งนี้ในการจัดประชุมทำความเข้าใจกับประชาชน ให้กำหนดสัดส่วนผู้เข้าร่วมประชุม โดยใช้หลักความได้สัดส่วนในความหมายอย่างแคบ คือชั่งน้ำหนักระหว่างประโยชน์มหาชนกับประโยชน์ของเอกชนที่เสียไป
วาระนี้ไม่เพียงแค่น่าจับตา แต่เป็นประเด็นที่น่าหวั่นใจด้วยว่า จะสร้างความขัดแย้งและผูกปมปัญหาในกระบวนการตั้งสถานีวิทยุคมนาคมให้รุนแรงมากขึ้น เนื่องจากหากไม่มีการตรวจสอบเรื่องร้องเรียนก่อนที่จะมีการออกใบอนุญาต แล้วหากภายหลังพบว่ามีผู้ร้องเรียนอยู่ก่อนแล้วหรือเกิดกรณีร้องเรียนขึ้น และในขั้นตอนการจัดประชุมเพื่อทำความเข้าใจกับประชาชน มีการลงมติไม่ยอมให้ตั้งเสาส่งสัญญาณโทรคมนาคม กรณีเช่นนี้สำนักงาน กสทช. จะดำเนินการอย่างไรต่อไป จะเลือกฝืนมติประชาชนในพื้นที่ หรือเพิกถอนใบอนุญาตซึ่งผู้ประกอบการได้ลงทุนติดตั้งเสาส่งสัญญาณไปแล้ว ไม่ว่าเลือกทางใดก็เสียหาย เนื่องจากได้ตัดทางเลือกในลักษณะป้องกันออกไปเสียแล้ว
นอกจากนี้ แนวทางการจัดประชุมทำความเข้าใจกับประชาชนที่ให้กำหนดสัดส่วนผู้เข้าร่วมประชุมโดยใช้หลักความได้สัดส่วนในความหมายอย่างแคบนั้น ก็คลุมเครือว่าจะเป็นการจัดประชุมในลักษณะใด มีการกำหนดสัดส่วนผู้เข้าร่วมประชุมอย่างไร สุดท้ายประชาชนในฐานะผู้ที่อยู่อาศัยในพื้นที่จะมีส่วนร่วมตัดสินใจมากน้อยเพียงใด เพราะดูเหมือนการเสนอเปลี่ยนแปลงแนวทางปฏิบัติดังกล่าวมีความพยายามกีดกันเสียงของประชาชนออกตั้งแต่เริ่มแรกเสียด้วยซ้ำ
วาระรายงานการให้บริการคงสิทธิเลขหมายโทรศัพท์เคลื่อนที่ในไตรมาสที่ 3 และไตรมาสที่ 4 ปี 2558
วาระนี้เป็นวาระเรื่องเพื่อทราบ โดยรายงานการให้บริการคงสิทธิเลขเลขหมายโทรศัพท์เคลื่อนที่ในไตรมาสที่ 3 และไตรมาสที่ 4 ของปี 2558 ระบุ ทั้งสองไตรมาสที่ผ่านมามีการให้บริการคงสิทธิเลขหมายทั้งสิ้น 3,คณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม81,612 เลขหมาย แบ่งเป็นการโอนย้ายเลขหมายในไตรมาสที่ 3 จำนวน 1,288,162 เลขหมาย และไตรมาสที่ 4 จำนวน 1,793,45คณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม เลขหมาย คิดเป็นร้อยละ 2.93 และร้อยละ 3.31 ของขีดความสามารถในการโอนย้ายทั้งหมดตามลำดับ โดยกลุ่มบริษัทเอไอเอสใช้ขีดความสามารถไปมากสุด คือร้อยละ 4.19 อย่างไรก็ดี ค่าเฉลี่ยการโอนย้ายตลอดทั้งปี 2558 พบว่าลดลงค่อนข้างมากเมื่อเปรียบเทียบกับปี 2557 โดยในปี 2557 จำนวนเลขหมายโอนย้ายต่อวันอยู่ที่ 16,789 เลขหมาย ขณะที่ปี 2558 จำนวนเลขหมายโอนย้ายต่อวันมีเพียง 4,549 เลขหมาย ดังนั้นประสิทธิภาพของการให้บริการคงสิทธิเลขหมายที่มีอยู่ในปัจจุบันจึงมีมากพอที่น่าจะสามารถรองรับการใช้งานระยะยาวได้
สำหรับภาพรวมการให้บริการคงสิทธิเลขหมายนับตั้งแต่ที่เริ่มมีการให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่บนย่าน 21คณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม MHz ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2556 จนถึงธันวาคม 2558 พบว่า มีการโอนย้ายเลขหมายทั้งสิ้นกว่า 52.93 ล้านเลขหมาย โดยสัดส่วนมากกว่าร้อยละ 96.4 เป็นการโอนย้ายภายในกลุ่มบริษัทในเครือที่มีการให้บริการบนคลื่นความถี่ย่าน 21คณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม MHz หรือเป็นการโอนย้ายจากระบบ 2G (สัมปทาน) มาสู่ 3G (ใบอนุญาต) ภายในกลุ่มบริษัทเดียวกันนั่นเอง
ส่วนกรณีการยุติการให้บริการของบริษัททรูมูฟและบริษัทดิจิตอลโฟนบนคลื่นความถี่ย่าน 18คณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมMHz ภายใต้ระบบสัมปทานเดิมนั้น หากย้อนดูสถิติการโอนย้ายเลขหมาย พบว่า กรณีของบริษัทดิจิตอลโฟน ตั้งแต่เดือนมกราคม 2556 เป็นต้นมาจนสิ้นสุดการให้บริการในเดือนธันวาคม 2558 มีการโอนย้ายเลขหมายออกทั้งสิ้น 69,451 เลขหมาย โดยการโอนย้ายสูงสุดเกิดขึ้นเดือนกันยายน 2556 จำนวนกว่า 2คณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม,คณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม เลขหมาย คิดเป็นร้อยละ 29 ของการโอนย้ายเลขหมายทั้งหมด ส่วนบริษัททรูมูฟ ในช่วงเวลาเดียวกัน มีการโอนย้ายเลขหมายออกทั้งสิ้น 6,253,274 เลขหมาย โดยการโอนย้ายสูงสุดเกิดขึ้นเดือนตุลาคม 2556 จำนวนกว่า 9คณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม6,คณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม เลขหมาย คิดเป็นร้อยละ 14.5 ของการโอนย้ายเลขหมายทั้งหมด
ในการประชุมคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ครั้งที่ 16/2561 วันพุธที่ 22 สิงหาคม 2561 สำนักงาน กสทช. เตรียมเสนอที่ประชุมพิจารณาผลสำรวจข้อเท็จจริงเรื่องการกำหนดให้ผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่คิดอัตราค่าบริการตามการใช้งานจริงในหน่วยวินาที เพื่อกำหนดเป็นนโยบายในการกำกับดูแลการคิดอัตราค่าบริการต่อไป ทั้งนี้ สาเหตุที่มีการสำรวจข้อเท็จจริงดังกล่าวสืบเนื่องจากที่ประชุมคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม (กทค.) ได้เคยมีมติโดยเสียงส่วนใหญ่ในการประชุม กทค. ครั้งที่ 1