เกาะติดผลกระทบเศรษฐกิจจากโครงการประกันภัยข้าวนาปี ปีการผลิต 2559/60

          ศูนย์ติดตามและพยากรณ์เศรษฐกิจการเกษตร (KU - OAE Foresight Center : KOFC) โดย ดร.ภูมิศักดิ์ ราศรี ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการเศรษฐกิจการเกษตร สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) พร้อมด้วย ผศ.ดร.กัมปนาท เพ็ญสุภา ผอ.ศูนย์วิจัยเศรษฐศาสตร์ประยุกต์ รักษาการแทนรองอธิการบดีฝ่ายบริการวิชาการ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ (มก.) เปิดเผยร่วมกันว่า จากมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ โครงการประกันภัยข้าวนาปีสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร มิถุนายน โครงการประกันภัยข้าวนาปี559 เห็นชอบในการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต โครงการประกันภัยข้าวนาปี559/6ศูนย์ติดตามและพยากรณ์เศรษฐกิจการเกษตร ตามโครงการประกันภัยข้าวนาปี ปี โครงการประกันภัยข้าวนาปี559โดยมีพื้นที่เป้าหมายการเอาประกันภัย จำนวนมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ศูนย์ติดตามและพยากรณ์เศรษฐกิจการเกษตรล้านไร่ทั่วประเทศ วงเงิน มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์,โครงการประกันภัยข้าวนาปีสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร7.สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ล้านบาท ครอบคลุมภัยธรรมชาติ 7 ประเภท ได้แก่ อุทกภัย/น้ำท่วม ฝนทิ้งช่วง วาตภัย ภัยแล้ง อากาศหนาว/ลูกเห็บ อัคคีภัย และภัยศัตรูพืชหรือโรคระบาด แบ่งเป็นพื้นที่เป้าหมายสำหรับเกษตรกรผู้ปลูกข้าวนาปีที่เป็นลูกค้าของ ธ.ก.ส. จำนวน โครงการประกันภัยข้าวนาปี9.5 ล้านไร่ และสำหรับเกษตรกรทั่วไปอีกไม่เกิน 5ศูนย์ติดตามและพยากรณ์เศรษฐกิจการเกษตรศูนย์ติดตามและพยากรณ์เศรษฐกิจการเกษตร,ศูนย์ติดตามและพยากรณ์เศรษฐกิจการเกษตรศูนย์ติดตามและพยากรณ์เศรษฐกิจการเกษตรศูนย์ติดตามและพยากรณ์เศรษฐกิจการเกษตร ไร่ นั้น
ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ทำหน้าที่ผู้บริหารโครงการ เป็นตัวกลางระหว่างเกษตรกรผู้เอาประกันภัยกับผู้รับประกันภัยเอกชน โดยแบบกรมธรรม์ประกันภัยข้าวนาปี ปี โครงการประกันภัยข้าวนาปี559 มีอัตราเบี้ยประกันภัย สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรศูนย์ติดตามและพยากรณ์เศรษฐกิจการเกษตรศูนย์ติดตามและพยากรณ์เศรษฐกิจการเกษตร บาทต่อไร่ (ไม่รวมอากรแสตมป์และภาษี) โดยรัฐบาลจะอุดหนุนค่าเบี้ยประกันภัย 6ศูนย์ติดตามและพยากรณ์เศรษฐกิจการเกษตร บาทต่อไร่ เกษตรกรชำระเบี้ยประกันภัย 4ศูนย์ติดตามและพยากรณ์เศรษฐกิจการเกษตร บาทต่อไร่ ทั้งนี้หากเกษตรกรที่เป็นลูกค้า ธ.ก.ส. เพื่อการเพาะปลูกข้าวนาปี ธ.ก.ส. จะจ่ายเบี้ยประกันภัยแทนเกษตรกรเฉพาะในส่วนของวงเงินกู้ สำหรับส่วนเกินวงเงินกู้หากเกษตรกรต้องการที่จะทำประกันภัยเพิ่มต้องจ่ายเบี้ยประกันภัยเอง 
          ขณะนี้มีบริษัทประกันภัยที่เข้าร่วมโครงการ สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร6บริษัท ได้แก่ (สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร) บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) (โครงการประกันภัยข้าวนาปี)บริษัท กรุงไทยประกันภัย จำกัด (มหาชน) (มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์) บริษัท เจ้าพระยาประกันภัย จำกัด (มหาชน)(4) บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) (5) บริษัท เทเวศประกันภัย จำกัด (มหาชน) (6) บริษัท ไทยศรีประกันภัย จำกัด (มหาชน) (7) บริษัท ไทยเศรษฐกิจประกันภัย จำกัด (มหาชน) (8) บริษัท ประกันภัยไทยวิวัฒน์ จำกัด (มหาชน) (9) บริษัท นวกิจประกันภัย จำกัด (มหาชน) (สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรศูนย์ติดตามและพยากรณ์เศรษฐกิจการเกษตร) บริษัท นำสินประกันภัย จำกัด (มหาชน) (สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร)บริษัท ฟอลคอนประกันภัย จำกัด (มหาชน) (สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรโครงการประกันภัยข้าวนาปี)บริษัท มิตซุย สุมิโตโม อินชัวรันส์ จำกัด (สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์) บริษัท เมืองไทยประกันภัย จำกัด (มหาชน) (สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร4) บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) (สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร5) บริษัท แอกซ่าประกันภัย จำกัด (มหาชน) (สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร6) บริษัท อาคเนย์ประกันภัย จำกัด (มหาชน) ได้ประชาสัมพันธ์เชิญชวนให้เกษตรกรเข้าร่วมโครงการประกันภัยข้าวนาปี เพราะจะช่วยบรรเทาความเสียหายที่เกิดขึ้นทั้งนี้ภาคเอกชนเป็นผู้รับประกันภัยตลอดช่วงการเพาะปลูกสำหรับภัยธรรมชาติ 6 ประเภทดังกล่าว วงเงินความคุ้มครอง สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร,สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร บาทต่อไร่และสำหรับภัยศัตรูพืชและโรคระบาดวงเงินความคุ้มครอง 555 บาทต่อไร่ โดยกำหนดพื้นที่เป้าหมายการเอาประกันภัยทั่วประเทศเป็นจำนวน มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ศูนย์ติดตามและพยากรณ์เศรษฐกิจการเกษตร ล้านไร่ ซึ่งระยะเวลาในการดำเนินโครงการฯ เริ่มขายกรมธรรม์สำหรับเกษตรกรทั่วไป ตั้งแต่ สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร5 กรกฎาคม โครงการประกันภัยข้าวนาปี559จนถึงวันที่สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร5 สิงหาคม โครงการประกันภัยข้าวนาปี559ส่วนเกษตรกรที่เป็นลูกค้า ธ.ก.ส. สามารถซื้อกรมธรรม์นี้ได้จนถึงวันที่ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ศูนย์ติดตามและพยากรณ์เศรษฐกิจการเกษตร สิงหาคม โครงการประกันภัยข้าวนาปี559 และสำหรับพื้นที่ภาคใต้สามารถซื้อกรมธรรม์นี้ได้จนถึงวันที่ สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร5 ธันวาคมโครงการประกันภัยข้าวนาปี559ซึ่งปัจจุบันโครงการฯยังดำเนินการอยู่
          สำหรับการวิเคราะห์ผลกระทบทางเศรษฐกิจของโครงการประกันภัยข้าวนาปี ปีการผลิต โครงการประกันภัยข้าวนาปี559/6ศูนย์ติดตามและพยากรณ์เศรษฐกิจการเกษตร ที่มีต่อเศรษฐกิจไทยมีหลักการโดยที่เกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการฯ เป็นผู้เอาประกันภัย สามารถวิเคราะห์ผลกระทบต่อผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสีย (Stakeholder) 4 ส่วน ประกอบด้วย รัฐบาล ผู้บริหารโครงการฯ (ธ.ก.ส.) บริษัทผู้รับประกันภัย และเกษตรกร พบว่า
          รัฐบาล เป็นผู้อุดหนุนเบี้ยประกันภัยให้เกษตรกร โดยอุดหนุนค่าเบี้ยประกันภัย 6ศูนย์ติดตามและพยากรณ์เศรษฐกิจการเกษตร บาทต่อไร่ รวมเงินช่วยเหลือ สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร,8ศูนย์ติดตามและพยากรณ์เศรษฐกิจการเกษตรศูนย์ติดตามและพยากรณ์เศรษฐกิจการเกษตร ล้านบาท แยกเป็นเกษตรทั่วไป มูลค่า มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ศูนย์ติดตามและพยากรณ์เศรษฐกิจการเกษตร ล้านบาท และเกษตรกรที่เป็นลูกค้าสินเชื่อ ธ.ก.ส. มูลค่า สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร,77ศูนย์ติดตามและพยากรณ์เศรษฐกิจการเกษตร ล้านบาท นอกจากนี้ รัฐบาลยังอุดหนุนค่าภาษีและอากรแสตมป์เพิ่มเติมจากมูลค่าเบี้ยประกันภัย สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรศูนย์ติดตามและพยากรณ์เศรษฐกิจการเกษตรศูนย์ติดตามและพยากรณ์เศรษฐกิจการเกษตร บาทต่อไร่ด้วย
          ส่วนผู้บริหารโครงการฯ (ธ.ก.ส.) ได้มีการอุดหนุนค่าเบี้ยประกันภัย 4ศูนย์ติดตามและพยากรณ์เศรษฐกิจการเกษตร บาทต่อไร่ สำหรับลูกค้าของ ธ.ก.ส. ที่มีการกู้เงินเพื่อกิจกรรมเพาะปลูกข้าว และต้องเป็นไปตามเงื่อนไขของ ธ.ก.ส. กำหนด ซึ่งวงเงินสูงสุดที่จะอุดหนุน วงเงินทั้งสิ้น สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร,สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร8ศูนย์ติดตามและพยากรณ์เศรษฐกิจการเกษตร ล้านบาท
          ขณะที่บริษัทผู้รับประกันภัยหรือบริษัทประกันภัยที่เข้าร่วมโครงการ จ่ายสินไหมทดแทนแก่เกษตรกรซึ่งเป็นผู้เอาประกันภัย จากการประมาณการเบี้ยประกันภัยที่ผู้รับประกันได้รับสูงสุด มูลค่า มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์,ศูนย์ติดตามและพยากรณ์เศรษฐกิจการเกษตรศูนย์ติดตามและพยากรณ์เศรษฐกิจการเกษตรศูนย์ติดตามและพยากรณ์เศรษฐกิจการเกษตร ล้านบาท แบ่งเป็นรับเงินจากรัฐบาลอุดหนุน สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร,8ศูนย์ติดตามและพยากรณ์เศรษฐกิจการเกษตรศูนย์ติดตามและพยากรณ์เศรษฐกิจการเกษตร ล้านบาทและธ.ก.ส. อุดหนุนมูลค่าสูงสุดที่ สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร,สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร8ศูนย์ติดตามและพยากรณ์เศรษฐกิจการเกษตร ล้านบาท และสำหรับเกษตรกร เกษตรกรทั่วไปจ่ายค่าเบี้ยประกันภัย โครงการประกันภัยข้าวนาปีศูนย์ติดตามและพยากรณ์เศรษฐกิจการเกษตร ล้านบาท ส่วนค่าเบี้ยประกันภัยของเกษตรกรลูกค้าของ ธ.ก.ส. เป็นไปตามเงื่อนไขที่ ธ.ก.ส.กำหนด (ตาราง สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร)
 
ตาราง 1 เบี้ยประกันที่เกษตรกรจ่ายเงินอุดหนุนจาก ธ.ก.ส.และเงินอุดหนุนรัฐบาล
 

รายละเอียดโครงการ

เกษตรกรที่เป็นลูกค้าสินเชื่อ ธ.ก.ส.

เกษตรกรทั่วไป

เกษตรกรซื้อประกันภัย (เป้าหมาย 29.50 ล้านไร่)

กรณี 1

กรณี 2

กรณี 3

กรณี 4

(เป้าหมาย

100%

70%

50%

25%

0.50 ล้านไร่)

เบี้ยประกันภัย (บาทต่อไร่)

100.00

100.00

100.00

100.00

100.00

เกษตรกรจ่ายเบี้ยประกันภัย (บาทต่อไร่)

-

-

-

-

40.00

ธ.ก.ส.อุดหนุนค่าเบี้ยประกันภัย (บาทต่อไร่) *

40.00

40.00

40.00

40.00

-

รัฐบาลอุดหนุน (บาทต่อไร่)

60.00

60.00

60.00

60.00

60.00

พื้นที่เป้าหมายที่เข้าร่วมโครงการ (ล้านไร่) ปี 59

29.50

20.65

14.75

7.38

0.50

ค่าเบี้ยประกันเกษตรกรจ่าย (ล้านบาท)

-

-

-

-

20.00

ค่าเบี้ยประกัน ธ.ก.ส. อุดหนุน (ล้านบาท)

1,180.00

826.00

590.00

295.00

-

ค่าเบี้ยประกันรัฐบาลอุดหนุน (ล้านบาท)

1,770.00

1,239.00

885.00

442.50

30.00

รวมค่าเบี้ยประกัน (ล้านบาท)

2,950.00

2,065.00

1,475.00

737.50

50.00

ที่มา : คำนวณโดยศูนย์ติดตามและพยากรณ์เศรษฐกิจการเกษตร,สิงหาคม 2559
หมายเหตุ : * ภายใต้สมมุติฐาน ธ.ก.ส. อุดหนุนค่าเบี้ยประกันภัยแก่ลูกค้าที่เข้าร่วมโครงการทั้งหมด ทั้งนี้ ต้องเป็นไปตามเงื่อนไขที่ ธ.ก.ส. กำหนด
 
          นอกจากนี้ การวิเคราะห์ถึงค่าสินไหมทดแทน และส่วนต่างที่เกษตรกรได้รับจากการประกันภัยข้าวนาปี ในพื้นที่ 30 ล้านไร่ พบว่า กรณี 1 เกษตรกรที่เป็นลูกค้าสินเชื่อ ธ.ก.ส. ซื้อประกันภัยครบตามเป้าหมาย 29.5 ล้านไร่ และเป็นไปตามเงื่อนไขกรมธรรม์ มีส่วนต่างของเบี้ยจ่ายและค่าสินไหมทดแทน มูลค่าสูงสุดถึง 32,118.42 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นค่าสินไหมทดแทนที่เกิดจากภัย 6 ประเภท มูลค่า 31,463.52 ล้านบาท และภัยศัตรูพืช/โรคระบาด มูลค่า 654.90 ล้านบาท และในกรณี 2 3 และ 4 ค่าสินไหมทดแทนที่เกิดจากภัยและส่วนต่างที่เกษตรกรได้รับแตกต่างกันออกไป สำหรับเกษตรกรทั่วไปจ่ายค่าเบี้ยประกันภัยรวม 20 ล้านบาท หากเกิดประสบภัยจะได้รับค่าสินค้าไหมทดแทน มูลค่ารวม 514.08ล้านบาท สำหรับภัย 6 ประเภท และมูลค่ารวม 10.30 ล้านบาทสำหรับภัยศัตรูพืชและโรคระบาด (ตาราง 2)

ตาราง 2 มูลค่าของรายได้ที่เกษตรกร จะได้รับจากการเข้าร่วมโครงการประกันภัยข้าวนาปี ปีการผลิต 2558/59
 

            รายละเอียดโครงการ

เกษตรกรที่เป็นลูกค้าสินเชื่อ ธ.ก.ส.

เกษตรกรทั่วไป

เกษตรกรซื้อประกันภัย (เป้าหมาย 29.50 ล้านไร่)

กรณี 1

กรณี 2

กรณี 3

กรณี 4

(เป้าหมาย

100%

70%

50%

25%

0.50 ล้านไร่)

ค่าสินไหมทดแทนกรณีเกิดภัยพิบัติ (ล้านบาท)/1

ค่าสินไหมทดแทนที่เกิดจากภัย 6 ประเภท /2

31,463.52

22,024.46

15,731.76

7,865.88

514.08

ค่าสินไหมทดแทนเกิดจากภัยศัตรูพืชและโรคระบาด

654.9

458.43

327.45

163.73

10.30

ส่วนต่างที่เกษตรกรได้รับ (ล้านบาท)

32,118.42

22,482.89

16,059.21

8,029.61

524.38

ที่มา : คำนวณโดยศูนย์ติดตามและพยากรณ์เศรษฐกิจการเกษตร2559
หมายเหตุ : /1 สัดส่วนการเกิดภัยพิบัติทั้ง 6 ประเภทที่ 96% และภัยศัตรูพืช/โรคระบาดที่ 4% ของพื้นที่เสียหายข้าวจากภัยพิบัติทางธรรมชาติทั้งหมด ค่าสินไหมทดแทนที่เกิดจากภัย 6 ประเภทมูลค่า 1,111 บาทต่อไร่ และภัยศัตรูพืช/โรคระบาดมูลค่า 555 บาทต่อไร่
/2 ภัย 6 ประเภท คือ อุทกภัย/น้ำท่วม ฝนทิ้งช่วง วาตภัย ภัยแล้ง อากาศหนาว/ลูกเห็บ และอัคคีภัย
 
          อย่างไรก็ตาม โครงการประกันภัยข้าวนาปี ปีการผลิต 2559/60 หากมีการเบิกจ่ายค่าสินไหมทดแทนกรณีเกิดภัยพิบัติของผู้เอาประกันภัย และเป็นตามเงื่อนไขของกรมธรรม์แล้วตามโครงการฯนี้เต็มตามเป้าหมาย จะช่วยบรรเทาการลดลงของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ได้ในระดับหนึ่ง พร้อมทั้งเป็นการช่วยเหลือให้เกษตรกรสามารถมีรายได้ในการประกอบอาชีพทางการเกษตรได้

          ข้อเสนอแนะเชิงนโยบายในการบริหารจัดการผลกระทบที่มีต่อโครงการและ/หรือ ผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสีย
          ควรมีการพิจารณาขยายประเภทของสินค้าเกษตรให้เพิ่มมากขึ้น เช่น มันสำปะหลัง ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์และสินค้าอื่นๆ เป็นต้น เพื่อให้สามารถประกันภัยความเสี่ยงจากธรรมชาติได้ด้วย พร้อมทั้ง ร่วมบูรณาการระหว่างภาครัฐ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทำความความเข้าใจกับเกษตรกรก่อนการซื้อประกัน และการเรียกร้องสิทธิประกันเพื่อรับค่าสินไหมทดแทนนั้นโดยต้องพิจารณาค่าเบี้ยประกันภัยที่เหมาะสมและการส่งเสริมการตลาดให้สามารถเข้าถึงให้ง่ายถ้าหากว่ารัฐบาลไม่เข้าไปอุดหนุน (subsidy) เพื่อจูงใจให้เกษตรกรซื้อประกันภัยเพิ่มมากขึ้น จะส่งผลทำให้โครงการนี้สามารถขับเคลื่อนไปอย่างยั่งยืน อย่างไรก็ตาม ควรมีการประชาสัมพันธ์ให้กว้างขวางและให้ลงรายละเอียดในเนื้อหามากขึ้น เพื่อให้เกษตรกรเกิดการรับรู้ ตระหนักถึงความสำคัญ และเกิดความสนใจในการทำประกันภัยมากขึ้น รวมทั้งการให้เกษตรกรมีส่วนร่วมในการจ่ายเบี้ยประกัน จะทำให้เกษตรกรตระหนักถึงมูลค่าของเงินที่ตนเองจ่ายไป

ข่าวศูนย์ติดตามและพยากรณ์เศรษฐกิจการเกษตร+สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรวันนี้

ผ่าผลกระทบอุกทกภัยต่อภาคเกษตร มองมูลค่าความเสียหาย ถอดแผนฟื้นฟู เยียวยาภาครัฐ

ศูนย์ติดตามและพยากรณ์เศรษฐกิจการเกษตร (KU OAE Foresight Center : KOFC) โดย ดร.ภูมิศักดิ์ ราศรี ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการเศรษฐกิจการเกษตรสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) พร้อมด้วย ผศ.ดร.กัมปนาท เพ็ญสุภา รักษาการแทนรองอธิการบดีฝ่ายบริการวิชาการ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ (มก.) เปิดเผยว่าอุทกภัย ถือว่าเป็นภัยธรรมชาติอย่างหนึ่งที่สร้างความเสียหายให้กับประเทศไทยได้ทุก ๆ ปี เนื่องจากประเทศไทยเป็นประเทศที่อยู่ในเขตมรสุมตลอดทั้งปี อุทกภัยในปี 2554 ที่ผ่านมาส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศอย่างมหาศาลโดย

สศก. จัดงานแถลงข่าว ผลกระทบอุทกภัยต่อภาคการเกษตรไทย

ด้วยศูนย์ติดตามและพยากรณ์เศรษฐกิจการเกษตร (KU OAE Foresight Center : KOFC)ซึ่งเป็นความร่วมมือกันระหว่างสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กับ คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ มีกำหนดจัดงานแถลงข่าว "ผลกระทบอุทกภัยต่อภาคการ...

ไขมุมภาคเกษตร กับบัตรคนจน จากนโยบายสู่การปฏิบัติ สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ

ศูนย์ติดตามและพยากรณ์เศรษฐกิจการเกษตร (KU OAE Foresight Center : KOFC) โดย ดร.ภูมิศักดิ์ ราศรี ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการเศรษฐกิจการเกษตร สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) พร้อมด้วย ผศ.ดร.กัมปนาท เพ็ญสุภา ผอ.ศูนย์วิจัย...

ไทยพร้อมศักยภาพ ครัวของโลก เจาะดัชนีความมั่นคงอาหารไทย ยืนแท่นอันดับ 3 ในอาเซียน

ศูนย์ติดตามและพยากรณ์เศรษฐกิจการเกษตร (KU OAE Foresight Center : KOFC) โดย ดร.ภูมิศักดิ์ ราศรี ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการเศรษฐกิจการเกษตร สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) พร้อมด้วย ผศ.ดร.กัมปนาท เพ็ญสุภา ผอ.ศูนย์วิจัย...

การเตรียมความพร้อมภาคเกษตร Smart Farmer กับการเข้าสู่ “ไทยแลนด์ 4.0”

ผศ.ดร.กัมปนาท เพ็ญสุภา ผอ.ศูนย์วิจัยเศรษฐศาสตร์ประยุกต์ รักษาการแทนรองอธิการบดีฝ่ายบริการวิชาการ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ (มก.) และดร.ภูมิศักดิ์ ราศรี ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการเศรษฐกิจการเกษตร สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) เปิด...

สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร จัดแถลงข่าว "ผลการดำเนินโครงการสำคัญของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และการแถลงข่าว ภาคเกษตรไทยกับการเข้าสู่ไทยแลนด์ 4.0”

ด้วยสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร และ ศูนย์ติดตามและพยากรณ์เศรษฐกิจการเกษตร (KU OAE Foresight Center : KOFC) มีกำหนดจัดงานแถลงข่าว "แถลงข่าวผลการดำเนิน...

เกาะติดผลกระทบเศรษฐกิจจากโครงการประกันภัยข้าวนาปี ปีการผลิต 2559/60

ศูนย์ติดตามและพยากรณ์เศรษฐกิจการเกษตร (KU OAE Foresight Center : KOFC) โดย ดร.ภูมิศักดิ์ ราศรี ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการเศรษฐกิจการเกษตร สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) พร้อมด้วย ผศ.ดร.กัมปนาท เพ็ญสุภา ผอ.ศูนย์วิจัย...

ศูนย์ติดตามและพยากรณ์เศรษฐกิจการเกษตร จัดงานแถลงข่าว เกาะติดผลกระทบเศรษฐกิจในโครงการประกันภัยข้าวนาปี

ด้วยศูนย์ติดตามและพยากรณ์เศรษฐกิจการเกษตร (KU OAE Foresight Center : KOFC) ซึ่งเป็นความร่วมมือกันระหว่างสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กับ คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์...

KOFC เปิดมุมวิเคราะห์รายได้ภาคเกษตร หลังรัฐดันท่องเที่ยวเชิงเกษตรไทยช่วงวันหยุดยาว

ศูนย์ติดตามและพยากรณ์เศรษฐกิจการเกษตร (KU OAE Foresight Center : KOFC) โดย ดร.ภูมิศักดิ์ ราศรี ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการเศรษฐกิจการเกษตร สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) พร้อมด้วย ผศ.ดร.กัมปนาท เพ็ญสุภา ผอ.ศูนย์วิจัย...

ความคิดเห็นของเกษตรกรในการแก้ปัญหาภัยแล้งของกระทรวงเกษตรฯ

ผศ.ดร.กัมปนาท เพ็ญสุภา รองคณบดีฝ่ายวิจัย ผอ.ศูนย์วิจัยเศรษฐศาสตร์ประยุกต์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ (มก.) พร้อมด้วย ดร.ภูมิศักดิ์ ราศรี ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการเศรษฐกิจการเกษตร สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) เปิดเผยร่วมกันว่า ศูนย์ติดตาม...