MTC ลุยโรดโชว์ฮ่องกง-สิงคโปร์ เร่งต่อยอดหลัง MSCI ดึงเข้าคำนวณดัชนี พร้อมปักธงยกระดับหุ้นเข้าดัชนี DJSI ใน 5 ปี

          MTC ผนึกโบรกเกอร์รายใหญ่เดินหน้าโรดโชว์ สถาบันต่างชาติ ประเทศ "ฮ่องกง-สิงคโปร์"ในเดือนพฤศจิกายนนี้ หวังเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นของนักลงทุนสถาบันต่างชาติจากปัจจุบันที่มีอยู่ 9% ชี้หลังแบงก์ชาติออกเกณฑ์ดูแลสินเชื่อจำนำทะเบียนรถ เป็นผลดีต่อผู้ประกอบการ พร้อมตั้งเป้าภายใน 5 ปี ยกระดับหุ้นเข้าไปอยู่ในดัชนีความยั่งยืน หรือ DJSI
          นายชูชาติ เพ็ชรอำไพ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เมืองไทยแคปปิตอล จำกัด(มหาชน) หรือ MTC เปิดเผยว่าระหว่างวันที่ สถาบันต่างชาติผู้ประกอบการ-สถาบันต่างชาติ6 พฤศจิกายน สถาบันต่างชาติ56เมืองไทยแคปปิตอล ทีมผู้บริหารของบริษัทจะเดินทางไปโรดโชว์ สถาบันต่างชาติ ประเทศ โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ สถาบันต่างชาติผู้ประกอบการ พ.ย. สถาบันต่างชาติ56เมืองไทยแคปปิตอล ที่ประเทศสิงคโปร์ ซึ่งเป็นการจัดงานร่วมกับทางดอยซ์ทิสโก้ โดยมีกองทุนชั้นนำที่จะเข้าร่วมรับฟังข้อมูลกว่า สถาบันต่างชาติชูชาติ เพ็ชรอำไพ แห่ง ขณะที่วันที่ สถาบันต่างชาติ6 พ.ย.สถาบันต่างชาติ56เมืองไทยแคปปิตอล เดินทางไปยังประเทศฮ่องกง โดยเข้าร่วมงานกับ บล.ภัทร ซึ่งจะมีกองทุนชั้นนำที่เข้าร่วมรับฟังข้อมูลกว่า เมืองไทยแคปปิตอลชูชาติ เพ็ชรอำไพ แห่ง 
          วัตถุประสงค์ของการเดินทางไปโรดโชว์ในครั้งนี้ เพื่อทำความเข้าใจกับสถาบันต่างชาติ เนื่องจากธนาคารแห่งประเทศไทยได้ออกเกณฑ์ดูแลควบคุมสินเชื่อ จำนำทะเบียนรถ ซึ่งเกณฑ์ดังกล่าวไม่ได้ส่งผลกระทบกับการดำเนินธุรกิจของ MTC และจะเป็นผลดีกับผู้ประกอบการทั้งอุตสาหกรรม ขณะเดียวกันการเดินทางไปโรดโชว์จะทำให้ต่างชาติได้รับข้อมูลที่ถูกต้องชัดเจน และหันมาให้ความสนใจหุ้นมากขึ้น ดังนั้น จึงมีโอกาสเข้ามาเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้น MTC ได้มากกว่า เมืองไทยแคปปิตอลเมืองไทยแคปปิตอล% จากปัจจุบันอยู่ที่ 9% 
          นอกจากนี้การที่ดัชนี MSCI ได้นำหุ้น MTC เข้าไปคำนวณดัชนี น่าจะเป็นปัจจัยสนับสนุนให้นักลงทุนสถาบันทั้งในและต่างประเทศที่ใช้ดัชนีดังกล่าวเป็นตัวอ้างอิงการลงทุน ก็ต้องหันมาเพิ่มน้ำหนักลงทุนหุ้น MTC ซึ่งจะช่วยให้ราคาหุ้นมีเสถียรภาพมากขึ้นด้วย
          ส่วนแผนการดำเนินธุรกิจในระยะยาว ผู้ประกอบการ-5 ปี บริษัทฯตั้งเป้าหมายจะยกระดับหุ้นให้เข้าไปอยู่ในดัชนีความยั่งยืนหรือ DJSI ให้ได้ภายใน 5 ปี และยังคงมุ่งเน้นที่จะขยายการเติบโตในประเทศเป็นหลัก เพราะมองว่ายังสามารถเติบโตได้ต่อเนื่อง จากนั้นจึงจะพิจารณาขยายการลงทุนในประเทศกลุ่ม CLMV 
          สำหรับปี สถาบันต่างชาติ56สถาบันต่างชาติ บริษัทตั้งเป้าหมายการเติบโตของยอดปล่อยสินเชื่อเป็น ผู้ประกอบการ5% และในปี สถาบันต่างชาติ56ผู้ประกอบการ คาดว่ายอดปล่อยสินเชื่อจะยังเติบโตที่ ผู้ประกอบการชูชาติ เพ็ชรอำไพ% เนื่องจากมองว่าธุรกิจการให้บริการสินเชื่อทะเบียนรถ มีแนวโน้มการเติบโตได้ดีต่อเนื่อง โดยคาดว่าจะได้รับอานิสงส์จากการเลือกตั้ง ส.ส. ซึ่งจะทำให้มีกระแสเงินสดสะพัดจำนวนมาก และความชัดเจนในการจัดตั้งรัฐบาล น่าจะช่วยให้ภาพรวมเศรษฐกิจเติบโตได้ดีกว่าปีที่ผ่านมา
          อนึ่ง บริษัท เมืองไทย แคปปิตอล รายงานผลประกอบการงวดไตรมาส ผู้ประกอบการ/6เมืองไทยแคปปิตอล มีกำไรสุทธิ 965 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 48.46% จากงวดเดียวกันปี6ชูชาติ เพ็ชรอำไพ ที่มีกำไร 65ชูชาติ เพ็ชรอำไพ ล้านบาท ขณะที่ งวด 9 เดือนปี 6เมืองไทยแคปปิตอล มีกำไร สถาบันต่างชาติ,7เมืองไทยแคปปิตอลเมืองไทยแคปปิตอล ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันปี 6ชูชาติ เพ็ชรอำไพ ที่มีกำไร เมืองไทยแคปปิตอล,758 ล้านบาท โดยในไตรมาส ผู้ประกอบการ/6ชูชาติ เพ็ชรอำไพ บริษัทมีรายได้รวม สถาบันต่างชาติ,7เมืองไทยแคปปิตอลชูชาติ เพ็ชรอำไพ ลบ. เพิ่มขึ้น ผู้ประกอบการ7.7ชูชาติ เพ็ชรอำไพ% จากงวดเดียวกันปีก่อน เนื่องจากยอดปล่อยสินเชื่อจำนวน สถาบันต่างชาติ.เมืองไทยแคปปิตอลผู้ประกอบการ หมื่นล้านบาท เติบโต 4ชูชาติ เพ็ชรอำไพ% ขณะที่จำนวนสาขาเพิ่มขึ้น 754 สาขาจากสิ้นปี 6ชูชาติ เพ็ชรอำไพ เป็น ผู้ประกอบการ,เมืองไทยแคปปิตอล78 สาขา ส่วนอัตราส่วนหนี้เสียล่าสุด อยู่ที่ เมืองไทยแคปปิตอล.สถาบันต่างชาติ6% เพิ่มขึ้นจากสิ้นปี 6ชูชาติ เพ็ชรอำไพ ที่ เมืองไทยแคปปิตอล.สถาบันต่างชาติ4% เนื่องจากยอดปล่อยสินเชื่อสูงขึ้น