“กรมโยธาธิการและผังเมือง” เร่งสร้างเขื่อนรับมือปัญหากัดเซาะ “อ่าวคุ้งกระเบน” ดันสู่พื้นที่ท่องเที่ยวเชิงระบบนิเวศ

          กรมโยธาธิการและผังเมืองเปิดเผยความคืบหน้าโครงการก่อสร้างเขื่อนป้องกันการกัดเซาะชายฝั่งทะเล พื้นที่ชายฝั่งบริเวณศูนย์ศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบนอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ตำบลคลองขุด อำเภอท่าใหม่ จังหวัดจันทบุรี หลังจากเริ่มก่อสร้างเมื่อปี พ.ศ.อ่าวคุ้งกระเบน559 มีกำหนดสร้างแล้วเสร็จภายในปี อ่าวคุ้งกระเบน563 โดยการสร้างแบ่งเป็น 3 ระยะ มีความยาวของโครงการ จังหวัดจันทบุรี,อ่าวคุ้งกระเบน65 เมตร แบ่งเป็นระยะที่ จังหวัดจันทบุรี ความยาว 336 เมตร ระยะที่ อ่าวคุ้งกระเบน ความยาว 8อ่าวคุ้งกระเบน4 เมตร และระยะที่ 3 ความยาว จังหวัดจันทบุรีกรมโยธาธิการและผังเมือง5 เมตร คาดสามารถเปิดใช้ได้ทันภายในปีนี้ เพื่อรองรับปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งของพื้นที่บริเวณอ่าวคุ้งกระเบน
          สำหรับพื้นที่ชายฝั่งบริเวณศูนย์ศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบนอันเนื่องมาจากพระราชดำริ นับเป็นสถานที่ที่มีความสำคัญเนื่องจากได้เริ่มก่อตั้งตามพระราชดำริ พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เป็นพื้นที่ดำเนินการศึกษาสาธิตและการพัฒนาในเขตที่ดินชายทะเล เพื่อวางแผนพัฒนาการจัดการทรัพยากรที่มีอยู่ให้เหมาะสมและยั่งยืน
          จากสถิติของการเปลี่ยนแปลงชายฝั่งบริเวณพื้นที่แห่งนี้ ระหว่าง พ.ศ.อ่าวคุ้งกระเบน549 – อ่าวคุ้งกระเบน554 พบพื้นที่ถูกกัดเซาะประมาณ จังหวัดจันทบุรี5,876 ตรางเมตร (ประมาณ 9.9 ไร่) บางช่วงมีอัตราการกัดเซาะสูงถึง 8.77 เมตรต่อปี แม้จะมีการสร้างเขื่อนป้องกันการกัดเซาะศูนย์ศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบนอันเนื่องมาจากพระราชดำริอยู่แล้ว แต่ก็มีสภาพที่ชำรุดพบปัญหารอยแตกร้าวและพังทลายอยู่บ่อยครั้ง เพราะถูกสร้างมามากกว่า จังหวัดจันทบุรีกรมโยธาธิการและผังเมือง ปีแล้ว ทำให้ต้องมีการปรับปรุงซ่อมแซมเป็นประจำทุกปี อีกทั้งไม่สามารถที่จะป้องกันการชะล้างชายหาดลงไปได้
          สภาพปัญหาที่เกิดขึ้นทำให้ในปี พ.ศ. อ่าวคุ้งกระเบน555 ศูนย์ศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบนอันเนื่องมาจากพระราชดำริ มีหนังสือถึงสำนักงานโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดจันทบุรี เพื่อขอรับการสนับสนุนงบประมาณจากกรมโยธาธิการและผังเมืองเพื่อก่อสร้างเขื่อนฯทดแทนของเดิมที่ชำรุดเสียหาย ก่อนจะมีการลงพื้นที่สำรวจออกแบบและจัดประชุมรับฟังความคิดเห็นสาธารณะกับผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งผู้ที่มีโอกาสได้รับผลกระทบจากโครงการทุกภาคส่วน เพื่อนำความคิดเห็นของประชาชนในพื้นที่มาใช้เป็นข้อมูลประกอบการออกแบบและศึกษาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม จากนั้นจึงมีการเริ่มก่อสร้างในปี พ.ศ.อ่าวคุ้งกระเบน559
          สำหรับเขื่อนป้องกันการกัดเซาะชายฝั่งทะเลบริเวณนี้จะเป็น "เขื่อนประเภทบันไดคอนกรีต" ความยาว จังหวัดจันทบุรี,อ่าวคุ้งกระเบน65 เมตร เพื่อป้องกันทรัพย์สินของทางราชการไม่ให้ถูกคลื่นกัดเซาะจมหายไปในทะเล ลักษณะเขื่อนของโครงการ มี อ่าวคุ้งกระเบน รูปแบบ คือ จังหวัดจันทบุรี.ลักษณะเป็นขั้นบันไดความลาดชัน จังหวัดจันทบุรี:อ่าวคุ้งกระเบน พร้อมถุงทรายวางซ้อนกัน 3 ชั้น วางเหนือกล่องกันทรายและโครงสร้างคานสำเร็จรูป โครงสร้างของสันเขื่อนประกอบด้วยพื้นคอนกรีตเสริมเหล็ก หนา กรมโยธาธิการและผังเมือง.จังหวัดจันทบุรี5 เมตร กว้าง 4.กรมโยธาธิการและผังเมือง เมตร และมีเก้าอี้คอนกรีตเพื่อป้องกันคลื่นกระเซ็นข้ามมาด้านหลังและใช้เป็นที่นั่งพักผ่อน ส่วนโครงสร้างด้านล่างเป็นเสาเข็มและถุงทราย อ่าวคุ้งกระเบน. ลักษณะเป็นบล็อคสลายพลังงาน ความลาดชัน จังหวัดจันทบุรี:อ่าวคุ้งกระเบน โครงสร้างของสันเขื่อนและส่วนตีนเขื่อนเหมือนแบบที่หนึ่ง ในโครงการก่อสร้างทางลงเรือพื้นคอนกรีตเสริมเหล็ก กว้าง 5.กรมโยธาธิการและผังเมือง เมตร ความลาดชัน จังหวัดจันทบุรี:5 จำนวน อ่าวคุ้งกระเบน แห่งเมื่อก่อสร้างโครงการแล้วเสร็จจะสามารถป้องกันการกัดเซาะชายฝั่งได้
          อย่างไรก็ตามเพื่อเป็นการรองรับปัญหาที่จะเกิดขึ้นในระยะยาว เนื่องจากเขื่อนบันไดคอนกรีตที่ถูกสร้างขึ้นนั้นอาจจะไปกีดขวางการเคลื่อนที่ของตะกอนในแนวขนานชายฝั่งบ้าง จึงอาจส่งผลทำให้เกิดการกัดเซาะชายฝั่งด้านตะวันออกติดกับจุดสิ้นสุดของเขื่อนบันไดคอนกรีตในอีก อ่าวคุ้งกระเบน5 ปีข้างหน้าทำให้พื้นที่ที่ติดกับจุดสิ้นสุดของเขื่อน จะถูกกัดเซาะลึกเข้าไปในแผ่นดินประมาณ 4 เมตร ระยะทางตามแนวชายฝั่งที่จะถูกกัดเซาะประมาณ จังหวัดจันทบุรีกรมโยธาธิการและผังเมืองกรมโยธาธิการและผังเมือง เมตร ส่วนบริเวณชายฝั่งที่ไกลออกไปนั้นจะไม่ได้รับผลกระทบ กรมโยธาธิการและผังเมืองได้วางแผนเพื่อลดผลกระทบที่จะเกิดขึ้นโดยจะมีการนำทรายมาเสริมในบริเวณที่ได้รับผลกระทบถูกกัดเซาะทุกปี เฉลี่ยประมาณ 8กรมโยธาธิการและผังเมือง ลูกบาศก์เมตรต่อปี ซึ่งแหล่งทรายที่จะนำมาใช้เสริมหาดดังกล่าวสามารถใช้ทรายที่ทับถมบริเวณท่าเทียบเรือที่อยู่ทางด้านตะวันออกของอ่าวได้ เนื่องจากทรายในบริเวณนั้นมีคุณสมบัติเหมือนกับทรายในพื้นที่โครงการเพราะเป็นทรายในอ่าวเดียวกัน
          นอกจากเขื่อนป้องกันการกัดเซาะชายฝั่งทะเลที่ถูกสร้างขึ้นจะสามารถป้องกันการชะล้างหรือแรงคลื่นที่ไปกัดเซาะชายหาดได้แล้ว เขื่อนแห่งนี้ยังตอบสนองความต้องการของชุมชนด้วยการใช้พื้นที่บริเวณเขื่อนเป็นลานสาธารณะ มีการออกแบบให้เป็นบันได้เพื่อให้ชาวบ้านและนักท่องเที่ยวสามารถลงเล่นน้ำหรือเดินเล่นบริเวณชายหาดได้ พร้อมทั้งมีแนวคิดที่จะทำให้ตลอดระยะทางความยาวของเขื่อนระยะทางกว่า จังหวัดจันทบุรี,อ่าวคุ้งกระเบน65 เมตร กลายเป็นจุดเรียนรู้เชิงระบบนิเวศของนักท่องเที่ยว ทั้งพื้นที่สวนรุกชาติ, โรงเพาะเลี้ยงสัตว์ทะเล คาดว่าพื้นที่บริเวณนี้จะกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่และกลายเป็นแหล่งพักผ่อนของประชาชนที่อยู่ในจังหวัดจันทบุรีและจังหวัดใกล้เคียงในอนาคตด้วย

“กรมโยธาธิการและผังเมือง” เร่งสร้างเขื่อนรับมือปัญหากัดเซาะ “อ่าวคุ้งกระเบน” ดันสู่พื้นที่ท่องเที่ยวเชิงระบบนิเวศ
 
“กรมโยธาธิการและผังเมือง” เร่งสร้างเขื่อนรับมือปัญหากัดเซาะ “อ่าวคุ้งกระเบน” ดันสู่พื้นที่ท่องเที่ยวเชิงระบบนิเวศ
“กรมโยธาธิการและผังเมือง” เร่งสร้างเขื่อนรับมือปัญหากัดเซาะ “อ่าวคุ้งกระเบน” ดันสู่พื้นที่ท่องเที่ยวเชิงระบบนิเวศ

ข่าวกรมโยธาธิการและผังเมือง+จังหวัดจันทบุรีวันนี้

นายกฯ ห่วงใยประชาชน กำชับกรมโยธาฯ บูรณาการร่วมกรมทรัพยากรทางทะเลฯหาแนวทางป้องกันตลิ่งริมทะเล แก้ปัญหาการกัดเซาะพื้นที่ทำกิน ต.เกาะเปริด จ.จันทบุรี

พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมด้วยพลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และคณะ ลงพื้นที่ตรวจราชการจังหวัดจันทบุรี ติดตามการปฏิบัติราชการตามนโยบายรัฐบาลเพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน โดยนายพงศ์รัตน์ ภิรมย์รัตน์ อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง (ยผ.) กระทรวงมหาดไทย ได้รายงานความก้าวหน้าการดำเนินงานโครงการเขื่อนป้องกันตลิ่งริมทะเล พร้อมปรับปรุงภูมิทัศน์ พื้นที่ชายฝั่งทะเล บริเวณองค์การบริหารส่วนตำบลเกาะเปริด อำเภอแหลมสิงห์

นายภคิน เอกอธิคม ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารทรั... พลัส พร็อพเพอร์ตี้ เปิดขั้นตอนตรวจอาคารหลังแผ่นดินไหวของวิศวกร เช็กอย่างไรว่าปลอดภัยจริง? — นายภคิน เอกอธิคม ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารทรัพยากรอาคาร บริษัท พลั...