ที่ศาลาบึงสีไฟ จ.พิจิตร นายไพบูลย์ ณะบุตรจอม ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร เป็นประธานและสักขีพยานพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) โครงการพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐานระบบดิจิทัลเพื่อการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ(Phichit Smart City) ระหว่างเทศบาลเมืองพิจิตร ตำรวจภูธร จังหวัดพิจิตรและ บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือ NT มีนายสุรพล เตียวตระกูล นายกเทศมนตรีเมืองพิจิตร พ.ต.อ.สมนึก มากมี รองผู้บังคับการตำรวจภูธร จังหวัดพิจิตรและ นายกมลชัย นามวงศ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่กลุ่มขายและปฏิบัติการลูกค้าภาคเหนือตอนล่างและตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง NT ร่วมลงนาม โดยทั้ง เมืองอัจฉริยะ หน่วยงาน จะร่วมกันศึกษาและพัฒนาให้บริการ Digital Solution Technology
ทั้งนี้ NT จะนำศักยภาพด้าน Digital & Telecommunication Infrastructure ประกอบด้วยการติดตั้งระบบกล้องโทรทัศน์วงจรปิด(CCTV) ระบบเสียงตามสาย บริการ Wi-Fi และระบบเครือข่ายการดูแลสุขภาพประชาชน(Smart Help Care Service) เพื่อยกระดับพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนด้วยเทคโนโลยี ทั้งด้านความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน รวมทั้งรองรับการท่องเที่ยว การศึกษา การสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม พร้อมนำพาเมืองพิจิตรก้าวสู่เมืองอัจฉริยะ (Phichit Smart City) ต่อไป
นายไพบูลย์ ณะบุตรจอม ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร กล่าวว่า ความร่วมมือโครงการพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐานระบบดิจิทัลเพื่อการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ (Phichit Smart City) ในวันนี้ ถือเป็นความก้าวหน้าของจังหวัดพิจิตร ที่จะได้มีการนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ในการพัฒนาเมือง อีกทั้งเทศบาลเมืองพิจิตร มีเป้าหมายในการ ผลักดันให้พื้นที่เขตเทศบาลเมืองพิจิตรก้าวเข้าสู่การเป็นเมืองอัจฉริยะอย่างเต็มรูปแบบโดยการนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาปรับใช้ ตามแนวทางของ Digital 4.0 เพื่อก่อให้เกิดเป็นแนวทางการทำงานที่มีประสิทธิภาพร่วมกัน ตอบสนองแนวคิด Smart City Solutions ได้อย่างสมบูรณ์ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลและการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ (Phichit Smart City) จะเป็นประโยชน์กับประชาชนและนักท่องเที่ยวที่ได้มาเที่ยวจังหวัดพิจิตร ในนามของจังหวัดพิจิตร ขอขอบคุณ นายกเทศมนตรีเมืองพิจิตร บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) ตำรวจภูธรจังหวัดพิจิตร และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าโครงการพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐานระบบดิจิทัลเพื่อการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ Phitchit Smart City จะได้เป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนให้ประชาชนชาวเทศบาลเมืองพิจิตร ได้นำเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาปรับใช้และพัฒนาได้อย่างสร้างสรรค์ ตอบโจทย์ตามแผนพัฒนาประเทศ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของสังคมได้อย่าง มั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน
นายสุรพล เตียวตระกูล นายกเทศมนตรีเมืองพิจิตร กล่าวว่า โครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลเพื่อพัฒนา สู่เมืองอัจฉริยะ "Phichit Smart City" ระหว่าง โทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ NT เทศบาลเมืองพิจิตร ตำรวจภูธรจังหวัดพิจิตร จะร่วมกันดำเนินการบูรณาการระบบสารสนเทศ ให้สอดคล้องกับแผนพัฒนาท้องถิ่น เทศบาลเมืองพิจิตร ที่มีแนวทางการดำเนินการร่วมกันของ ทั้ง 3 หน่วยงาน ในการออกแบบโครงสร้างทั้ง Hardware และ Software เพื่อพัฒนาโครงข่ายระบบสื่อสารอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง และระบบเทคโนโลยีสารสนเทศให้กับเทศบาลเมืองพิจิตร รวมทั้งการพัฒนาสิ่งแวดล้อม พื้นที่สาธารณะ และแหล่งท่องเที่ยว ภายในจังหวัดพิจิตร โดยมีแผนงานประกอบด้วย การพัฒนาติดตั้งระบบกล้องโทรทัศน์วงจรปิด (CCTV) ในแหล่งชุมชน ตลาดสด สวนสาธารณะ สำหรับดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของภาครัฐ ประชาชน และภัยพิบัติ รวมถึงการพัฒนาระบบเสียงตามสาย เพื่อสร้างโอกาสให้ประชาชนได้เข้าถึงข้อมูลและรับรู้ข่าวสารต่างๆ ของภาครัฐ
รวมถึงติดตั้งให้บริการ Wi-Fi พื้นที่สาธารณะ เพื่อบริการประชาชน นักท่องเที่ยว ได้เข้าถึงอินเทอร์เน็ตอย่างแพร่หลายและทั่วถึง อีกทั้งได้บริหารและพัฒนาโครงการให้เกิดความต่อเนื่องในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน เทศบาลเมืองพิจิตร จึงได้ตระหนักในการดูแลกลุ่มผู้สูงอายุ ผู้ป่วยเรื้อรัง ผู้พิการ ผู้ป่วยติดบ้านติดเตียง ผู้มีโรคประจำตัว และประชาชน จะต้องได้รับการดูแลด้านสุขภาพ อย่างทั่วถึงครอบคลุมทุกกลุ่ม เน้นความเท่าเทียมในการเข้าถึงการบริการด้านสุขภาพ จึงจำเป็นต้องมีบุคลากรสาธารณสุขออกไปติดตามดูแลผู้ป่วยดังกล่าวที่บ้านแบบบูรณาการและต่อเนื่อง และการสงเคราะห์ การพัฒนาคุณภาพชีวิตเด็ก สตรี คนชรา และผู้ด้อยโอกาส เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพในการดำเนินงานมากยิ่งขึ้น จึงได้จัดโครงการเครือข่ายดูแลสุขภาพประชาชน ผ่านระบบบริการช่วยเหลือทางโทรศัพท์ และแอปพลิเคชัน (Smart Help Care Service) เพื่อดูแลคุณภาพชีวิตของประชาชน รวมถึงรองรับการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ซึ่งถือเป็นภารกิจสำคัญของเทศบาลเมืองพิจิตร ที่จะต้องเตรียมความพร้อมและพัฒนาขีดความสามารถในการเผชิญเหตุและให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย การเข้าช่วยเหลือได้อย่างรวดเร็ว เมื่อมีผู้ขอความช่วยเหลือ จึงถือเป็นภารกิจที่สำคัญ ซึ่งเป็นการทำงานผสานร่วมกัน โดยมีระบบป้องกันข้อมูลตามนโยบายความเป็นส่วนตัว และปกป้องข้อมูลของผู้ใช้งานได้อย่างสูงสุดของเทคโนโลยีนั้น ๆ และทำแผนตั้งศูนย์กลางการบริหารเมืองอัจฉริยะ (Smart City Data Center) ในนามเทศบาลเมืองพิจิตร กระผมขอขอบคุณ ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร ที่ได้ให้เกียรติมาเป็นประธานเปิดงานและสักขีพยาน พิธีลงนามข้อตกลงความร่วมมือในครั้งนี้ และขอขอบคุณ โทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ NT และตำรวจภูธรจังหวัดพิจิตร ที่เล็งเห็นความสำคัญของการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ (Phichit Smart City) และการลงนามความร่วมมือครั้งนี้ จะเป็นก้าวแรกของการพัฒนาร่วมกัน ให้เกิดผลสัมฤทธิ์ต่อไปในอนาคต
นายกมลชัย นามวงศ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่กลุ่มขายและปฏิบัติการลูกค้าภาคเหนือตอนล่างและตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง NT กล่าวว่า รัฐบาลให้ความสำคัญในการเดินหน้าพัฒนาเมืองต่าง ๆ โดยเฉพาะเมือง ที่มีศักยภาพทางเศรษฐกิจไปสู่การเป็นเมืองอัจฉริยะ โดยได้กำหนดนโยบายการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ (Smart City) ให้เป็นวาระแห่งชาติ ที่รัฐได้มุ่งหวังให้เป็นกลไกในการกระจายความเจริญอย่างเท่าเทียม และยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนทั่วทุกภูมิภาคให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี อีกทั้งยังสอดคล้องตามแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี สุดท้ายแล้วก็เพื่อให้เกิดการขับเคลื่อนและพัฒนาเมืองอัจฉริยะกระจายออกไปทั่วประเทศ ซึ่งการร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลเพื่อพัฒนาสู่เมืองอัจฉริยะ (Phichit Smart City) ในครั้งนี้ คือรูปแบบของเมืองแห่งอนาคต ที่ใช้เทคโนโลยีในการเชื่อมต่อระหว่างประชาชน ชุมชน กับระบบงานบริการของทางภาครัฐ และภาคเอกชนให้มีประสิทธิภาพสูงสุด โดยทั้ง 3 หน่วยงานจะร่วมกันศึกษาและพัฒนาการให้บริการ Digital Solution Technology เพื่อยกระดับการดำเนินชีวิตและกิจกรรมต่างๆ ด้วยเทคโนโลยีดิจิทัลในรูปแบบ Smart City Platform นำสู่การพัฒนาเป็นเมืองอัจฉริยะ Smart City ในอนาคต โดย โทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ NT ดำเนินการให้บริการด้านต่างๆ เพื่อก้าวสู่ Smart City อาทิ Social Security รวมถึงการใช้ทรัพยากรด้าน Digital & Telecommunication infrastructure ประกอบด้วยการติดตั้งระบบกล้องโทรทัศน์วงจรปิด (CCTV) ติดตั้งระบบเสียงตามสาย ติดตั้งให้บริการอินเทอร์เน็ต Wi-Fi และติดตั้งระบบเครือข่ายการดูแลสุขภาพประชาชน (Smart Help Care Service) เป็นต้น
พลตำรวจตรีกำธร จันที ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพิจิตร กล่าวว่า โครงการพัฒนาโครงสร้าง พื้นฐานด้านดิจิทัลและการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ (Phichit Smart City) ระหว่าง โทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ NT และตำรวจภูธรจังหวัดพิจิตร ซึ่งถือเป็นโครงการที่ร่วมกันบูรณาการระบบสารสนเทศ ที่มีประสิทธิภาพและเกิดประโยชน์กับประชาชน ด้วยสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งเป็นหน่วยงานของรัฐหน่วยงานหนึ่ง ได้มีการปฏิรูประบบการทำงานให้รองรับและขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาลเพื่อพัฒนาไปสู่การเป็นระบบราชการ 4.0 โดยคำนึงถึง พันธกิจหลักของสำนักงานตำรวจแห่งชาติในด้านการรักษากฎหมาย การป้องกันปราบปรามอาชญากรรม และการอำนวย ความยุติธรรมแก่ประชาชน จึงจัดทำโครงการ SMART SAFETY ZONE 4.0 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสิทธิผล ด้านการป้องกันอาชญากรรมเชิงรุก โดยบูรณาการกำลังพลและการประสานงานกับทุกภาคส่วน ให้เข้ามามีส่วนร่วมรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนในพื้นที่ จึงขอความร่วมมือให้กระทรวงมหาดไทยประชาสัมพันธ์เชิญชวนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเข้าร่วมดำเนินการโครงการดังกล่าว นั้น
ซึ่งเทศบาลเมืองพิจิตร ได้มีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนโครงการ SMART SAFETY ZONE 4.0 จึงหวังเป็นอย่างยิ่งว่า โครงการ SMART SAFETY ZONE 4.0 จะได้เป็นส่วนหนึ่งในการการพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐาน ระบบดิจิทัลเพื่อการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ (Phitchit Smart City) และ เกิดประโยชน์กับประชาชนชาวเทศบาลเมืองพิจิตร ให้มีคุณภาพชีวิตและความปลอดภัยที่ดีขึ้น ด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่
ที่ศาลาบึงสีไฟ จ.พิจิตร นายไพบูลย์ ณะบุตรจอม ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร เป็นประธานและสักขีพยานพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) โครงการพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐานระบบดิจิทัลเพื่อการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ(Phichit Smart City) ระหว่างเทศบาลเมืองพิจิตร ตำรวจภูธร จังหวัดพิจิตรและ บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือ NT มีนายสุรพล เตียวตระกูล นายกเทศมนตรีเมืองพิจิตร พ.ต.อ.สมนึก มากมี รองผู้บังคับการตำรวจภูธร จังหวัดพิจิตรและ นายกมลชัย นามวงศ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่กลุ่มขาย
NT แนะนำบริการ AWS Migration Assessment and Deployment เพื่อช่วยหน่วยงานภาครัฐ ย้ายโครงสร้างพื้นฐานด้านไอทีขึ้นคลาวด์ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด
—
จากการเปิดต...
NT ร่วมกับ จุฬาฯ เปิดตัวแพลตฟอร์มศูนย์บริการ NT Metaverse
—
NT ปลื้มเปิดตัว NT Metaverse ศูนย์บริการในโลกเสมือน พร้อมโชว์ผลงานสนับสนุนทุนวิจัยและโครงสร้าง...
NT - Eutelsat OneWeb เปิดตัว "SNP Gateway" ดันไทยสู่ผู้นำสื่อสารดาวเทียมอาเซียน
—
ดร. ธนวัฒน์ อัมพุนันทน์ กรรมการ บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) ห...
เปิดโลกละครเวที Immersive ดื่มด่ำทุกสัมผัส ยกเว้นสายตา ฝีมือจากนักเรียนโรงเรียนโชรส์เบอรีริเวอร์ไซด์
—
คณะนักเรียนโรงเรียนโชรส์เบอรีริเวอร์ไซด์จัดแสดงละคร...
สวทช. จับมือ พันธมิตร เวิร์กชอป "การขับเคลื่อนการเข้าถึงบริการสารสนเทศ และการสื่อสารโดยสะดวกถ้วนหน้าสู่ระบบราชการ 4.0"
—
สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโ...
สำนักงาน กสทช. จัดกิจกรรมเชิญชวนประชาชนสมัครใช้ Mobile ID 2025
—
สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (สำนักงาน ก...
DNB และ อีริคสัน เพิ่มศักยภาพเครือข่าย 5G ของมาเลเซียด้วยเทคโนโลยี 5G Advanced
—
- เครือข่าย 5G ของ DNB เป็นหนึ่งในเครือข่ายแรกที่เปิดตัวเทคโนโลยี 5G Adva...
InnoSpace เตรียมจัดงาน InnoSpace Summit 2025 เดินหน้าสร้างระบบนิเวศสตาร์ทอัพไทยให้แข็งแกร่ง
—
บริษัท อินโนสเปซ (ประเทศไทย) จำกัด (InnoSpace) เตรียมจัดงาน ...