"โรคฝีดาษลิง" ซึ่งมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นในต่างประเทศเป็นโรคที่ใกล้ตัวเราเข้ามาทุกที สร้างความวิตกกังวลให้หลายคนที่กลัวว่าจะติดเชื้อหลังจากที่สถานการณ์โรคโควิด-ในต่างประเทศ9 เริ่มจะคลี่คลาย ผศ.น.สพ.ดร.สว่าง เกษแดงสกลวุฒิ ภาควิชาพยาธิวิทยาและหน่วยชันสูตรโรคสัตว์ คณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาฯ ได้ให้ความรู้เกี่ยวกับโรคฝีดาษลิง เพื่อสร้างความเข้าใจให้ประชาชนไม่ตื่นตระหนก พร้อมแนะวิธีป้องกันตนเองให้ปลอดภัยให้ห่างจากโรคนี้
จุดเริ่มต้นโรคฝีดาษลิง
ผศ.น.สพ.ดร.สว่าง อธิบายว่าโรคฝีดาษลิงเกิดจากเชื้อไวรัส Monkeypox ซึ่งเป็นไวรัสที่มีความใกล้เคียงกับโรคฝีดาษคนหรือไข้ทรพิษ พบครั้งแรกเมื่อปี 2501 ในห้องแลปที่ประเทศเดนมาร์ก จากลิงที่ใช้ในการทดลองทางวิทยาศาสตร์ ส่วนการพบในมนุษย์ครั้งแรกเมื่อปี 2513 ที่ประเทศคองโก ทวีปแอฟริกา ซึ่งพื้นที่ส่วนใหญ่ที่ระบาดคือทางแถบแอฟริกาตะวันตกและแอฟริกากลาง ประเทศที่มีผู้ติดเชื้อมากคือไนจีเรีย เมื่อปี 2546 พบผู้ป่วยเป็นโรคฝีดาษลิงมีความสัมพันธ์กับสัตว์คือ แพรีด็อก ซึ่งซื้อมาจากร้านขายสัตว์เลี้ยง โดยมีการสัมผัสใกล้ชิดแล้วโดนกัด จากการสืบสวนโรคพบว่ามีการเลี้ยงแพรีด็อกอยู่ในกรงใกล้ๆ กับสัตว์ฟันแทะที่นำเข้ามาจากจากประเทศกาน่า ซึ่งสัตว์อาจจะมีพาหะอยู่แต่ไม่ได้แสดงอาการชัดเจน
การติดเชื้อและการแพร่ระบาดในปัจจุบัน
พาหะของโรคฝีดาษลิงคือสัตว์ฟันแทะ เช่น กระรอก หนู แพรีด็อก ฯลฯ โดยติดเชื้อได้จากการโดนสารคัดหลังจากสัตว์ป่วยที่มีเชื้ออยู่ สำหรับกลุ่มคนที่ล่าสัตว์และนำเนื้อมาชำแหละก็มีความเสี่ยงได้เช่นกัน ส่วนการแพร่เชื้อจากคนสู่คนพบในประเทศอังกฤษ เป็นการติดจากสารคัดหลั่งเนื่องจากมีการใกล้ชิดกัน แต่ยังไม่มีข้อมูลชัดเจนว่าติดจากการมีเพศสัมพันธ์หรือไม่ ทั้งนี้การแพร่กระจายเชื้อผ่านอากาศ (Airborne) ผศ.น.สพ.ดร.สว่าง กล่าวว่าสามารถเกิดขึ้นได้แต่น้อยมาก ปัจจุบันโรคฝีดาษลิงกลับมาแพร่ระบาดมากขึ้นจากการเดินทางข้ามประเทศมากขึ้น ที่เป็นข่าวแพร่หลายในระยะนี้เนื่องจากมีการระบาดหลายประเทศพร้อมกัน
อาการและความรุนแรงของโรคฝีดาษลิง
ผศ.น.สพ.ดร.สว่าง กล่าวว่า ระยะ 3-4 วันแรกผู้ที่ติดเชื้อจะมีอาการเหมือนการติดเชื้อไวรัสคือมีไข้ ปวดหัว ปวดตัว ไม่มีแรง บางคนอาจเจ็บคอ หลังจากนั้นที่ผิวหนังจะมีลักษณะเป็นผื่น ตุ่มหนองขึ้นเหมือนอีสุกอีใส แล้วก็จะค่อยๆ แห้งกลายเป็นสะเก็ด และสามารถหายเองได้ในระยะเวลา 2-4 สัปดาห์
"โรคนี้ไม่ได้รุนแรงมาก เมื่อติดเชื้อแล้วมีอัตราการเสียชีวิตอยู่ที่ 1-10 % เท่านั้น ถึงแม้อัตราการเสียชีวิตจะต่ำ แต่สิ่งที่ต้องระวังคือเราไม่รู้ว่าใครติดแล้วจะรุนแรงแค่ไหน ดังนั้นควรป้องกันตนเองและไม่ไปสัมผัสเชื้อจะดีที่สุด" ผศ.น.สพ.ดร.สว่าง กล่าว
วิธีรักษาและวัคซีนป้องกันโรคฝีดาษลิง
เนื่องจากโรคฝีดาษลิงเป็นเชื้อไวรัสจึงไม่มีวิธีการรักษา แต่มีการศึกษาเกี่ยวกับโรคฝีดาษสำหรับคนที่มีการปลูกฝี พบว่าสามารถป้องกันได้ 85% ซึ่งปัจจุบันไม่มีการปลูกฝีให้เด็กเช่นคนรุ่นก่อน การทดลองให้ยาต้านไวรัสสำหรับผู้ป่วยโรคฝีดาษลิงยังไม่ได้ผลลัพธ์ที่ดี 100% กำลังอยู่ในขั้นการทดลอง และต้องศึกษาอย่างละเอียดเนื่องจากยาต้านไวรัสอาจมีผลข้างเคียงที่รุนแรงได้
สำหรับเรื่องวัคซีน ในอดีตมีวัคซีนฝีดาษในคน แต่ประเทศไทยหยุดการฉีดวัคซีนฝีดาษเนื่องจากอุบัติการณ์ของโรคน้อยลง ทั้งนี้ วัคซีนฝีดาษสามารถป้องกันโรคฝีดาษลิงได้ 80% เนื่องจากเป็นเชื้อไวรัสในกลุ่มเดียวกัน
"วัคซีนฝีดาษลิงนั้นมีความเป็นไปได้ ขึ้นอยู่กับอุบัติการณ์ของโรคนี้ว่ามีมากน้อยเพียงใด ความสำคัญของโรคมีมากขึ้นหรือไม่ สถานการณ์ปัจจุบันอาจยังไม่สามารถระบุได้ว่าจำเป็นต้องมีการใช้วัคซีนในประชาชนทั่วไปหรือไม่ เนื่องจากการกระจายของเชื้อยังเป็นกระจุกเท่านั้น" ผศ.น.สพ.ดร.สว่าง ให้ความเห็น
การเตรียมพร้อมรับมือและการป้องกันโรคฝีดาษลิงในประเทศไทย
ผศ.น.สพ.ดร.สว่าง เผยว่าสิ่งที่น่ากังวลที่สุดของโรคฝีดาษลิงในประเทศไทยคือการเดินทางท่องเที่ยวไปยังประเทศที่มีผู้ติดเชื้อ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะที่ด่าน สนามบินต้องเฝ้าระวัง และมีระบบตรวจสอบผู้คนหรือนักท่องเที่ยวที่เข้ามาว่าไปที่ไหนมา มีอาการป่วยหรือไม่ ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขได้ตั้งหน่วยงานที่ทำหน้าที่ดูแลในส่วนนี้แล้ว อีกส่วนหนึ่งที่ต้องระวังคือสัตว์เลี้ยง โดยเฉพาะเลี้ยงสัตว์ฟันแทะ การนำสัตว์เลี้ยงโดยเฉพาะสัตว์ต่างถิ่นเข้ามาโดยไม่รู้ที่มาเป็นสิ่งที่น่ากลัว เพราะถึงแม้สัตว์จะเป็นพาหะนำโรคแต่อาการของสัตว์จะไม่แสดงออกชัดเจน จึงต้องเฝ้าระวังสัตว์ที่นำเข้ามา และควรให้ความรู้กับคนที่เลี้ยงสัตว์ต่างถิ่นในเรื่องความเสี่ยงและวิธีการรักษาสุขอนามัยส่วนบุคคล
"สำหรับการป้องกันโรคฝีดาษลิง สุขอนามัยที่เราป้องกันโควิด-19 ในขณะนี้สามารถป้องกันโรคฝีดาษลิงได้เช่นกัน เพราะโรคฝีดาษลิงจะติดได้จากสารคัดหลั่ง การเว้นระยะห่างกัน 1-2 เมตร ล้างมือบ่อยๆด้วยสบู่และแอลกอฮอล์เจล หลีกเลี่ยงการสัมผัสผู้ที่มีประวัติมาจากพื้นที่เสี่ยงและมีอาการ ก็จะสามารถช่วยป้องกันโรคนี้ได้" อาจารย์ผู้เชี่ยวชาญจากคณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาฯ กล่าวทิ้งท้าย
การเดินทางไปต่างประเทศนอกจากการวางแผนเส้นทาง ที่พัก และสถานที่ท่องเที่ยวแล้ว การเลือกบัตรเครดิตที่เหมาะสมก็เป็นสิ่งสำคัญ เพราะเป็นสิ่งที่ช่วยให้ใช้จ่ายได้อย่างสะดวก ประหยัด คุ้มค่า อีกทั้งยังได้รับสิทธิพิเศษมากมาย แต่เมื่อพูดถึงการใช้บัตรเครดิตสำหรับการเดินทางหรือใช้จ่ายในต่างประเทศ หลายคนอาจลังเลว่าควรเลือกใช้บัตรประเภทไหนจึงจะได้สิทธิพิเศษสูงสุด เพราะแต่ละแบรนด์บัตรเครดิตทั้ง Visa Mastercard JCB และ UnionPay ต่างมีข้อดีและความคุ้มค่าที่แตกต่างกัน เคทีซีจึงได้รวบรวม 5 วิธีเลือกบัตร
"ต้าห์อู๋-ออฟโรด" เดินสายทัวร์ Fanmeet ต่างประเทศ!! ต่อยอดความสำเร็จ จากซีรีส์ "Century of Love ปาฏิหาริย์รักร้อยปี"
—
เรียกว่าประสบความสำเร็จไปอย่างท่วมท...
ทีทีบี ฟินทิป เสิร์ฟเคล็ดลับใช้บัตรเครดิตเที่ยวต่างประเทศงบไม่บานปลาย
—
การเที่ยวต่างประเทศเป็นประสบการณ์ที่ใคร ๆ ก็อยากมี และคงจะดีถ้าสามารถช้อปปิ้งได้แบ...
RBF โชว์ศักยภาพธุรกิจ-แผนขยายตลาด ตปท. งาน "Thailand Earning Call" ปังธง ปี 68 รายได้รวม โต 10-15%
—
นายสุรนาถ กิตติรัตนเดช ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบัญชีและก...
กรมทรัพย์สินทางปัญญา ร่วมกับ FAO หนุนพัฒนา GI ภูฏานผ่านการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ ต่อยอดการส่งเสริมสินค้า GI ไทยสู่ตลาดโลก
—
กรมทรัพย์สินทางปัญญา ให้การต้อน...
กสิกรไทย เปิดรับสมัครทุน ป.โท 'KBank Annual Scholarship 2025' ให้โอกาสคนทำงานที่มีประสบการณ์ 1 ปีขึ้นไป เรียนฟรีมหาวิทยาลัยชั้นนำระดับโลกในต่างประเทศ
—
กสิกรไทยเปิ...
SJWD วางกลยุทธ์ต่อยอด Synergy รุกสร้างการเติบโตต่อเนื่อง มุ่งขยายธุรกิจดาวรุ่งที่มีศักยภาพ ตอกย้ำฐานะการเงินแข็งแกร่ง
—
"บมจ.เอสซีจี เจดับเบิ้ลยูดี โลจิสต...
"ชัวร์ก่อนแชร์ : โรคฝีดาษวานร" โรคติดต่อจากสัตว์สู่คนที่ยังต้องเฝ้าระวัง จุฬาฯ ชี้วิทยาการล่าสุดตรวจวินิจฉัยโรคโดยแพทย์จุฬาฯ
—
จากการเสวนาวิชาการ Chula th...
อาจารย์สัตวแพทย์ จุฬาฯ แนะนำการเตรียมพร้อมรับมือและป้องกัน "โรคฝีดาษลิง"
—
"โรคฝีดาษลิง" ซึ่งมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นในต่างประเทศเป็นโรคที่ใกล้ตัวเราเข้ามาท...
รู้จักโรคอุบัติใหม่ “กาฬโรคในม้า” สาเหตุทำให้ม้าตาย เกิดขึ้นในไทยเป็นครั้งแรก
—
จากกรณีที่มีข่าวการล้มตายของม้าอย่างเฉียบพลันเป็นจำนวนมากในพื้นที่ อ.ปากช่...