เอ็กไซต์ และเจจีซี คอร์ปอเรชัน เซ็นข้อตกลงความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ เดินหน้าลงทุนพัฒนาโครงการเทคโนโลยีขั้นสูงในตลาดเกิดใหม่ทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

เอ็กไซต์และเจจีซี คอร์ปอเรชัน จะสำรวจช่องทางพัฒนาธุรกิจและดำเนินโครงการ EPC ร่วมกัน โดยผนึกกำลังขยายสาขาธุรกิจให้กับโครงการโรงงานไฮเทคในตลาดเกิดใหม่ทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้แก่ อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ เวียดนาม และไทย ทั้งสองบริษัทรวมจุดแข็งของตนเข้าด้วยกันในความพยายามนี้ ซึ่งทางเอ็กไซต์มาพร้อมความเชี่ยวชาญที่สั่งสมมาอย่างกว้างขวางในการออกแบบและวางระบบวิศวกรรมโรงงานไฮเทค ทั้งยังเข้าถึงบริษัทชั้นนำของโลก ส่วนเจจีซีมีบทบาทอย่างมากในประเทศเป้าหมายและมีความเป็นเลิศในการส่งมอบโครงการในท้องถิ่น

ดร.โวล์ฟกัง บูเชลเล่ (Wolfgang Buechele) ซีอีโอของเอ็กไซต์ ได้เน้นย้ำถึงเหตุผลทางกลยุทธ์เบื้องหลังข้อตกลงดังกล่าวว่า "นับตั้งแต่ก่อตั้ง เอ็กไซต์ประสบความสำเร็จอย่างมากในกลยุทธ์ 'ตามความต้องการลูกค้า' เราอยู่ในจุดที่ลูกค้าของเราลงทุน โดยตลาดเกิดใหม่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีความน่าดึงดูดอย่างมากสำหรับการลงทุนพัฒนาโรงงานไฮเทค สำหรับเอ็กไซต์และเจจีซีแล้ว มีโอกาสทางธุรกิจที่คาดหวังได้มากมายในตลาดวันข้างหน้า เรายินดีที่ได้พบพันธมิตรที่เหมาะสมอย่างเจจีซี ซึ่งเคยดำเนินโครงการ EPC อื่น ๆ ในประเทศที่มากศักยภาพเหล่านี้จนประสบผลสำเร็จมาแล้ว"

ฟาร์ฮาน มูจิบ (Farhan Mujib) ประธานเจจีซี คอร์ปอเรชัน กล่าวเกี่ยวกับการลงนามข้อตกลงความร่วมมือครั้งนี้ว่า เอ็กไซต์และเจจีซีมีค่านิยมเหมือนกันในเรื่องความปลอดภัย คุณภาพ และความเป็นเลิศในการดำเนินงาน "ด้วยความร่วมมือนี้ เราจะนำเสนอโซลูชันที่มีเอกลักษณ์ด้วยความเชี่ยวชาญทางเทคนิคและความเข้าใจลูกค้าอันเป็นจุดแข็งของเอ็กไซต์ ควบคู่ไปกับความรู้และความสามารถในการส่งมอบโครงการของเจจีซีในระดับภูมิภาคสำหรับลูกค้าของเรา"

การเติบโตของตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

เอเชียตะวันออกเฉียงใต้โดดเด่นเพราะเป็นตลาดที่เติบโตอย่างรวดเร็วในระดับโลก ซึ่งเปิดรับโซลูชันเทคโนโลยีขั้นสูง รัฐบาลและธุรกิจทั่วทั้งภูมิภาคนี้กำลังริเริ่มความพยายามในการนำเทคโนโลยีเหล่านี้มาใช้ เพื่อให้ดำเนินงานได้ชาญฉลาดและมีประสิทธิภาพมากขึ้น เมื่อสังคมดิจิทัลพัฒนาก้าวหน้าแล้ว ขนาดตลาดของภาคการผลิตไฮเทคยังขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ตลาดนี้ได้รับการสนับสนุนจากนโยบายจูงใจของประเทศต่าง ๆ ในการเสริมสร้างความมั่นคงและซัพพลายเชน การลงทุนในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีขั้นสูงคาดว่าจะเติบโตอย่างมีนัยสำคัญในตลาดเกิดใหม่ทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เช่นเดียวกับในประเทศพัฒนาแล้ว เช่น ญี่ปุ่น ยุโรป สหรัฐอเมริกา และสิงคโปร์

วาระอนาคต "ระดับต่อไป" เพื่อเร่งการเติบโตโดยมีกำไรงอกงาม

เอ็กไซต์ยังคงดำเนินการตามกลยุทธ์ผลักดันการเติบโตอันทะเยอทะยานอย่าง "Pathway to Ten" (เส้นทางสู่หลักสิบ) โดยตั้งเป้าทำยอดขายให้ได้ 1 หมื่นล้านยูโรภายในปี 2570 เอ็กไซต์จึงได้ริเริ่มวาระเฉพาะในอนาคตเพื่อขับเคลื่อนบริษัทฯ ไปสู่การเติบโตโดยมีกำไรงอกงาม บริษัทฯ กำลังขยายตำแหน่งผู้นำตลาดอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของวาระ "Next Level" (ระดับต่อไป) องค์ประกอบหนึ่งของกลยุทธ์นี้คือการทำให้กิจกรรมทางธุรกิจเป็นสากลมากขึ้นในอุตสาหกรรมเป้าหมาย และในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เอ็กไซต์ประสบความสำเร็จในการดำเนินโครงการ EPC และลงทุนมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ในมาเลเซียและสิงคโปร์ ให้กับบริษัทบลูชิประดับนานาชาติในภาคเซมิคอนดักเตอร์ เภสัชกรรม และศูนย์ข้อมูล

เอ็กไซต์สร้างอนาคตที่ดีกว่า โดยนำเสนอโซลูชันที่ยั่งยืนให้โรงงานไฮเทค เพื่อให้ลูกค้าจัดหาผลิตภัณฑ์และบริการที่เป็นนวัตกรรมใหม่ที่ยกระดับคุณภาพชีวิตสมัยใหม่ได้ ด้วยเหตุนี้ บริษัทฯ จึงเดินหน้าตามเป้าหมายในการ "นำเทคโนโลยีโลกอนาคตมาสู่ชีวิตวันนี้" เพื่อตอบสนองความต้องการที่เพิ่มมากขึ้นของลูกค้า

เกี่ยวกับเอ็กไซต์

เอ็กไซต์ (Exyte) เป็นผู้นำระดับโลกในด้านการออกแบบ วิศวกรรม และการส่งมอบสิ่งอำนวยความสะดวกที่สะอาดเป็นพิเศษและยั่งยืนให้กับอุตสาหกรรมไฮเทค เอ็กไซต์มาพร้อมความเชี่ยวชาญที่ล้ำหน้าซึ่งสั่งสมขึ้นมากว่าศตวรรษ เพื่อให้บริการลูกค้าในตลาดเซมิคอนดักเตอร์ เซลล์แบตเตอรี่ เภสัชกรรม เทคโนโลยีชีวภาพ และศูนย์ข้อมูล เอ็กไซต์นำเสนอบริการครบวงจรตั้งแต่การให้คำปรึกษาไปจนถึงการดูแลจัดการโซลูชันแบบครบวงจร ด้วยมาตรฐานสูงสุดด้านความปลอดภัยและคุณภาพแก่ลูกค้าทั่วโลก เอ็กไซต์สร้างอนาคตที่ดีกว่าด้วยการช่วยให้อุตสาหกรรมหลักยกระดับคุณภาพชีวิตสมัยใหม่ได้ ในปี 2565 บริษัทฯ ทำยอดขายได้ 7.4 พันล้านยูโร โดยมีพนักงานประมาณ 9,000 คนทั่วโลก

www.exyte.net

โลโก้ - https://mma.prnewswire.com/media/1487100/Exyte_Logo.jpg

• ข่าวอินโดนีเซีย
• ข่าวการก่อสร้าง
• ข่าวความร่วมมือ
• ข่าวฟิลิปปินส์
• ข่าวมุ่งพัฒนา