FIN19: ธปท.ชี้แจงฐานะและการเพิ่มทุนของบง.เอกธนกิจ

กรุงเทพ--26 พ.ค.--ธปท. ตามที่มีข่าวปรากฏในสื่อมวลชนแขนงต่าง ๆ ให้ภาพในลักษณะที่ว่า บริษัท เงินทุนเอกธนกิจ จำกัด (มหาชน) มีปัญหาทางการเงิน และฐานะการดำเนินงาน เสียหายมาก และทางการมิได้ดำเนินการลดทุนอันเป็นการกระทำที่เอื้อประโยชน์ แก่ผู้ถือหุ้นเดิมมากเกินไปนั้น ธนาคารแห่งประเทศไทยขอชี้แจงว่า 1. ฐานะการเงินของบริษัทเงินทุนเอกธนกิจ จำกัด (มหาชน) มิได้ เสื่อมลงถึงขนาดมีส่วนของผู้ถือหุ้นสุทธิ (Net Worth) ติดลบ เพราะแม้ธนาคารจะ ได้สั่งการให้บริษัทกันเงินสำรองสำหรับสินทรัพย์จัดชั้นสงสัยรวมทั้งผลขาดทุนจากเงิน ลงทุนในหลักทรัพย์ และผลขาดทุนที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตอย่างเต็มที่ ซึ่งมีผลเท่ากับ เป็นการลดเงินกองทุนของบริษัทแล้ว แต่บริษัทมีส่วนล้ำมูลค่าหุ้น ทุนสำรอง และ สำรองสำหรับสินทรัพย์จัดชั้นสงสัย อยู่เป็นจำนวนสูงถึง 12,888.7 ล้านบาท เพียงพอสำหรับลบล้างความเสียหาย บริษัทจึงยังคงมีความสามารถในการชำระหนี้ ได้ เพราะยังคงมีสินทรัพย์สุทธิสูงกว่าหนี้สินที่มีอยู่ จึงยังไม่มีสาเหตุเพียงพอที่ธนาคาร จะสั่งให้บริษัทลดทุนชำระแล้วที่มีอยู่จำนวน 4,141 ล้านบาท 2. อย่างไรก็ดี ถึงแม้ว่าบริษัทจะมีส่วนของผู้ถือหุ้นสุทธิ (Net Worth) เป็นบวกอยู่ก็ตาม แต่เพื่อให้บริษัทมีฐานะการเงินมั่นคงยิ่งขึ้น ธนาคารจึงได้ออกคำสั่ง ให้บริษัทเพิ่มทุนชำระแล้วอีก 8,282 ล้านบาท รวมเป็น 12,423 ล้านบาท โดยสั่ง ให้จำหน่ายหุ้นในราคาที่มีส่วนลดร้อยละ 25 เพื่อเป็นแรงจูงใจและปกป้องประโยชน์ ของผู้ถือหุ้นที่จะนำเงินมาลงทุนใหม่ 3. ในส่วนที่เกี่ยวกับการที่บริษัทเงินทุนเอกธนกิจ จำกัด (มหาชน) และ ธนาคารไทยทนุ จำกัด (มหาชน) ไม่สามารถดำเนินการควบกิจการกันได้สำเร็จ มิ ได้หมายความว่า การควบหรือรวมกิจการในกรณีอื่น ๆ มีอันต้องชะงักไปด้วย เท่าที่ ธนาคารได้รับรายงานเป็นระยะ ๆ ความสนใจในการควบหรือรวมกิจการยังคงเกิด ขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในขณะนี้ ธนาคารกำลังปรับปรุงเงื่อนไขและแรงจูงใจในการควบ หรือรวมกิจการให้ชัดเจนยิ่งขึ้น เพื่อให้เกิดผลในทางปฏิบัติโดยเร็ว 4. ธนาคารขอให้ผู้ฝากเงิน เจ้าหนี้ และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับบริษัทเงิน ทุนเอกธนกิจ จำกัด (มหาชน) มีความมั่นใจได้ว่า บริษัทจะดำเนินธุรกิจต่อไปได้ และทางการพร้อมที่จะเข้าร่วมทุนในบริษัทนี้ทันทีเมื่อได้รับการร้องขอ--จบ--

ข่าวธนาคารแห่งประเทศไทย+เงินทุนเอกธนกิจวันนี้

ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ดปรับลดประมาณการเศรษฐกิจไทยปี 2568 คาดกนง.มีมติลดดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมเดือนเมษายนนี้

ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ดปรับลดประมาณการการเติบโตของเศรษฐกิจไทย โดยคาดว่าในปี 2568 เศรษฐกิจไทยจะเติบโตร้อยละ 2.4 จากเดิมที่คาดไว้ร้อยละ 2.8 และคาดว่าคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงร้อยละ 0.25 ในการประชุมเดือนเมษายนนี้ "ความไม่แน่นอนที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นเรื่องที่ท้าทายสำหรับธนาคารกลางทุกแห่ง เราได้ปรับลดประมาณการการเติบโตของเศรษฐกิจไทยในปี 2568 ลงมาอยู่ที่ร้อยละ 2.4% จากเดิมที่คาดไว้ที่ร้อยละ 2.8 เนื่องจากปัจจัยเรื่องความไม่

สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล... PDPC ร่วมตำรวจ-ธปท. ทลายขบวนการใช้ข้อมูลบัตรเครดิตผิดกฎหมาย ยึดกว่า 3.3 ล้านรายการ — สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (สคส.) หรือ PDPC โดย พ.ต.อ....

ในยุคดิจิทัลที่ทุกอย่างต้องรวดเร็วทันใจ ก... อยากกู้เงินด่วนออนไลน์ เลือกที่ไหนดี มีขั้นตอนอย่างไรบ้าง — ในยุคดิจิทัลที่ทุกอย่างต้องรวดเร็วทันใจ การกู้เงินด่วนออนไลน์ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ได้รับคว...

ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด คาดว่าคณะกรรมกา... ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ดคาดเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวต่อเนื่องหนุน กนง. คงดอกเบี้ยนโยบาย — ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด คาดว่าคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ธนาคารแ...

ย้อนกลับไปในปี 2559 "พร้อมเพย์" ได้ถือกำเ... "พร้อมเพย์" 8 ปีแห่งการพลิกโฉมระบบการเงินไทย ระบบที่เปลี่ยนแปลงชีวิตคนไทยอย่างแท้จริง — ย้อนกลับไปในปี 2559 "พร้อมเพย์" ได้ถือกำเนิดขึ้นในฐานะโครงสร้างพื้...

ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ ธนา... EXIM BANK ออกมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ SMEs ปิดหนี้ได้ไว ไปต่อได้เร็ว — ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EX...