ส.ส.ร.: 25 องค์กรประชาธิปไตยยืนยันแสดงความคิดไม่เคยเคลื่อนไหวเพื่อชี้นำใคร

กรุงเทพฯ--10 มี.ค.--ศูนย์ข่าว ส.ส.ร. ตัวแทน 25 องค์กรเพื่อประชาธิปไตย นำโดย นายอดุลย์ เขียวบริบูรณ์ เดินทางเข้าพบ นายอานันท์ ปันยารชุน ประธานคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ (10 มี.ค. 2540) เพื่อชี้แจงความเข้าใจ เกี่ยวกับบทบาทหน้าที่ และการเคลื่อน ไหวขององค์กรเพื่อให้คลายความข้องใจ กรณีสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ โดยเฉพาะ นายอานันท์ ตั้งข้อสงสัยสมาชิกในองค์กร โดยยืนยันว่า 25 องค์กรเพื่อประชาธิป ไตย ซึ่งประกอบด้วย องค์กรประชาธิปไตย องค์กรประชาชน และองค์กรนักศึก ษารวมตัวกันเพื่อเป็นพลังนอกสภา สะท้อนความต้องการและนำเสนอความคิดเห็น ตลอดจนเป็นพลังตรวจสอบการทำงานของฝ่ายการเมือง ซึ่ง 25 องค์กรไม่เคย อ้างว่าเป็นตัวแทนของประชาชน โดยเฉพาะในการแสดงความคิดเห็นต่อร่างรัฐ ธรรมนูญ ไม่เคยชี้นำ แต่จะเป็นนักวิชาการมาร่วมให้ความรู้กับประชาชน เพื่อสะ ท้อนความเห็นกลับไปยังสภาร่างรัฐธรรมนูญเท่านั้น ด้าน นายอานันท์ ปันยารชุน ประธานกรรมาธิการฯ เห็นว่า บทบาทหน้า ที่ของ 25 องค์กรเพื่อประชาธิปไตย ซึ่งถือเป็นสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐานที่จะวิพากษ์วิ จารณ์กรณีใดกรณีหนึ่ง ได้ทั้งในทางบวกและทางลบหากมีเป้าหมายเพื่อนำไปสู่ข้อเท็จ จริงที่ถูกต้อง และปราศจากอคติ ซึ่งในส่วนของคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ ยินดีรับฟังความเห็นของประชาชน นับแต่นี้ จนกระทั่งจะยกร่างรัฐธรรมนูญแล้วเสร็จ เพราะขณะนี้กรอบการพิจารณาในร่างรัฐธรรมนูญ ทั้ง 3 กรอบ เป็นเพียงตุ๊กตาหรือ ตัวเลือก ที่สาธารณชนจะต้องถกเถียงกันต่อไป เพื่อให้ได้ร่างรัฐธรรมนูญที่สอดคล้อง กับความต้องการของประชาชนอย่างแท้จริง นอกจากนี้นายอานันท์ยังได้ยกตัวอย่างข้อเสนอของสถาบันวิจัยเพื่อการ พัฒนาประเทศ (TDRI) ในประเด็นการแยกอำนาจระหว่างฝ่ายบริหารและนิติบัญญัติ ที่ต้องคำนึงถึงกระบวนการคานอำนาจตามระบอบประชาธิปไตย เพื่อไม่ให้อำ นาจตกอยู่กับฝ่ายบริหารเพียงผู้เดียวด้วยว่าประเด็นนี้ นักวิชาการและประชาชน ควรให้ความสนใจ รวมทั้งสื่อมวลชนเองก็ควรปลุกกระแสให้ประชาชนหันมาให้ ความสนใจ ในสาระของร่างรัฐธรรมนูญ โดยไม่มุ่งแต่เสนอข่าวในแง่ลบ จากนั้นกลุ่ม 25 องค์กรเพื่อประชาธิปไตย ได้เข้าพบ นายอุทัย พิมพ์ใจ ชน ประธานสภาร่างรัฐธรรมนูญ เพื่อแสดงความเห็นถึงกรอบที่มาของสถาบันทาง การเมือง ซึ่งประเด็นที่ไม่เห็นด้วยคือ อำนาจหน้าที่ระหว่าง ส.ส.ที่มาจากการเลือก ตั้งแบบเขตเดียว เบอร์เดียว และส.ส. ในระบบสัดส่วนรายชื่อพรรคการเมือง ควรแบ่งแยกให้ชัดเจน พร้อมทั้งเห็นว่าควรยกเลิกวุฒิสภา และประชาชนควรมีอำ นาจตรวจสอบและถอดถอนนักการเมืองได้ ซึ่งประธานสภาร่างรัฐธรรมนูญ ก็รับว่าข้อ ท้วงติงดังกล่าวไว้ เพื่อนำไปเป็นส่วนหนึ่งในการพิจารณายกร่างรัฐธรรมนูญ และ ต้องการให้องค์กรอื่นออกมาเสนอความเห็นในลักษณะเช่นนี้ด้วย ส่วนข้อสังเกตที่ว่าในการรณรงค์รับฟังความคิดเห็น มีประชาชนเพียงจำ นวนน้อยที่สนใจเข้าร่วมแสดงความเห็นของ ส.ส.ร. ในการเปิดเวทีเสวนา ของคณะกรรมาธิการวิสามัญรับฟังความคิดเห็นและประชาสัมพันธ์ กรุงเทพฯ ทั้งที่บริ เวณท้องสนามหลวง และลานคนเมืองนั้น ประธานคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐ ธรรมนูญได้เรียกร้องให้ประชาชนออกมาแสดงพลังให้มากขึ้น และไม่ควรนิ่งเฉย เพราะเมื่อถึงเวลาต้องขอมติจากที่ประชุมรัฐสภา เสียงจากประชาชนถือว่าจำเป็นต่อ การผ่านความเห็นชอบของร่างรัฐธรรมนูญ ฉบับประชาชน--จบ--

• ข่าวอานันท์ ปันยารชุน
• ข่าวร่างรัฐธรรมนูญ
• ข่าวรัฐธรรมนูญ
• ข่าวกรุงเทพฯ
• ข่าวกรุงเทพ