กระทรวงแรงงานฯ เร่งผลักดันประกันการว่างงาน

กรุงเทพฯ--26 มิ.ย.--กระทรวงแรงงานฯ กระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคม เร่งผลักดันพระราชกฤษฎีกาประกันการว่างงานเพื่อประกาศใช้ให้ทันภายในเดือนตุลาคม 2545 และจะเริ่มมีผลใช้บังคับในปี 2547 นางลดาวัลลิ์ วงศ์ศรีวงศ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคม กล่าวภายหลังการเป็นประธานประชุมคณะกรรมการเตรียมการประกันสังคมกรณีประกันการว่างงาน ว่า ที่ประชุมได้รับทราบผลการศึกษารูปแบบการประกันการว่างงานที่เหมาะสมสำหรับนำมาใช้กับประเทศไทย จากผลสรุปของสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย หรือ TDRI องค์กรแรงงานระหว่างประเทศ และธนาคารโลก ที่ได้ดำเนินการศึกษาเรื่องประกันการว่างงานและศึกษาถึงแนวทางการจัดเก็บเงินสมทบเข้ากองทุนประกันการว่างงาน โดยเห็นว่าการจ่ายเงินสมทบเข้ากองทุนประกันการว่างงานนั้น ควรเป็นหน้าที่ของนายจ้างและลูกจ้างเท่านั้น และเห็นด้วยที่ได้มีการกำหนดอัตราการจัดเก็บเงินสมทบในอัตราร้อยละ 1 ของเงินเดือน และมีจ่ายเงินประโยชน์ทดแทนในอัตราร้อยละ 50 ของค่าจ้างเป็นระยะเวลา 6 เดือน นับตั้งแต่เกิดการว่างงาน แต่อย่างไรก็ตาม ในระยะเริ่มแรกรัฐบาลก็จะให้การสนับสนุนเงินสมทบเข้ากองทุนด้วย จนกองทุนมั่นคง หลังจากนั้นจะเป็นผู้ให้การสนับสนุนด้านวิชาการและด้านการบริหารแทน ทั้งนี้คณะกรรมการประกันสังคมจะได้สรุปหลักเกณฑ์การจัดเก็บเงินโดยให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐานและให้เกิดความมั่นคงแก่กองทุนมากที่สุด นางลดาวัลลิ์ วงศ์ศรีวงศ์ กล่าวอีกว่า ขณะนี้สำนักงานประกันสังคม กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน และกรมจัดหางานได้มีการเตรียมความพร้อมโดยการตั้งคณะทำงานมารองรับเรื่องประกันการว่างงานแล้ว โดยได้เร่งให้มีการประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดทำเรื่องประกันการว่างงานให้แล้วเสร็จโดยเร็ว เพื่อจะได้นำเสนอคณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบและประกาศใช้ให้ทัน ภายในเดือนตุลาคม 2545 หลังจากนั้นจึงจะเริ่มเก็บเงินสมทบเข้ากองทุนประกันการว่างงานได้ในปี 2547--จบ-- -สส-

• ข่าวสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย
• ข่าวกระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคม
• ข่าวสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศ
• ข่าวสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนา
• ข่าวลดาวัลลิ์ วงศ์ศรีวงศ์