กรุงเทพฯ--29 ม.ค.--เอ็มดีเค คอนซัลแทนส์ (ประเทศไทย)
ผลการสำรวจซีอีโอในเอเชีย ชี้เศรษฐกิจฟื้นตัว มองโอกาสขยายธุรกิจในปีนี้
มั่นใจไม่หวั่นไหวต่อแนวโน้มสงคราม การก่อการร้าย ราคาตกต่ำ และตลาดหลักทรัพย์ผันผวน
ไพร้ซวอเตอร์เฮาส์คูเปอร์ส บริษัทที่ปรึกษาธุรกิจควบวงจร เผยผลการสำรวจความคิดเห็นของซีอีโอทั่วโลก (Global CEO Survey) ครั้งที่ 6 ซีอีโอในเอเชียแปซิฟิกมาแรงโชว์ความมั่นใจสูงสุดในศักยภาพการเติบโตปีนี้ แม้ต้องเผชิญกับกระแสสงครามและอุปสรรครอบด้าน
จากการสำรวจครั้งนี้ ผู้บริหารสูงสุดของบริษัทในเอเชียแปซิฟิกถึงร้อยละ 75 แสดงความมั่นใจในศักยภาพการเติบโตของบริษัทของตนในปีนี้ ส่วนปัญหาคุกคามที่สำคัญที่สุด 3 ประการ ได้แก่ สงครามและการก่อการร้ายทั่วโลก (54%) ราคาตกต่ำ (50%) และความผันผวนในตลาดหลักทรัพย์ (48%)
ไพร้ซวอเตอร์เฮาส์คูเปอร์สได้เผยแพร่ผลการสำรวจทั้งหมดไว้ในรายงาน Global CEO Survey ครั้งที่ 6 แล้ว ซึ่งรวมบทสัมภาษณ์ผู้บริหารสูงสุดในเอเชียแปซิฟิก จำนวน 283 คน จากจำนวนผู้บริหารสูงสุดที่ร่วมสำรวจทั้งหมดเกือบ 1,000 คน จากทั่วทวีปเอเชีย ยุโรป อาฟริกา และอเมริกา
เอียน ริคเวิร์ด ประธานไพร้ซวอเตอร์เฮาส์คูเปอร์ส ภาคพื้นเอเชีย กล่าวว่า "เป็นที่น่ายินดีที่ซีอีโอในเอเชียแปซิฟิกมองเห็นโอกาสใหม่ๆ และมั่นใจว่าบริษัทของตนมีความสามารถมากพอที่จะฉวยโอกาสท่ามกลางความไม่แน่นอนในปัจจุบัน โดยผู้บริหารสูงสุดถึงร้อยละ 80 มั่นใจว่าจะก้าวไปให้ถึงหรือสูงกว่าเป้าหมายการเติบโตทางรายได้ที่ตั้งไว้ ซึ่งมีความเป็นไปได้มากทีเดียว นี่แสดงให้เห็นว่าซีอีโอเหล่านี้สามารถปรับตัวรับการเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็วท่ามกลางบรรยากาศทางธุรกิจที่ท้าทายในปีที่ผ่านมา"
ทางด้านแนวโน้มการเติบโตทางธุรกิจ ซีอีโอในเอเชียแปซิฟิก ร้อยละ 83 มองเห็นโอกาสที่บริษัทของตนจะเติบโตได้ในสภาพเศรษฐกิจทั่วโลกปัจจุบัน และร้อยละ 80 เชื่อว่าบริษัทของตนตั้งหลักได้ดีพอที่จะฉวยโอกาสใหม่ๆ ถึงแม้จะมีแนวโน้มอุปสรรคทางด้านต่างๆ
ทางด้านบุคลากร ร้อยละ 9 ของซีอีโอในเอเชียแปซิฟิก คาดว่าจะมีการปลดพนักงานหรือลดจำนวนพนักงานในช่วง 12 เดือนข้างหน้า นับเป็นสัดส่วนที่ต่ำมากเมื่อเทียบกับในยุโรป ซึ่งมีแนวโน้มการปลดพนักงานสูงถึงร้อยละ 24 และร้อยละ 15 ในอเมริกาเหนือ อย่างไรก็ตาม ซีอีโอเกือบร้อยละ 50 คาดว่าจำนวนพนักงานจะอยู่ในระดับคงที่ ส่วนร้อยละ 19 คาดว่าจะมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น
นอกจากนี้ ผลการสำรวจยังตอกย้ำความเชื่อมั่นของซีอีโอในเอเชียแปซิฟิกในเรื่องการสร้างศรัทธาต่อสาธารณะ โดยร้อยละ 80 เชื่อว่าศรัทธาของสาธารณชนต่อบริษัทของตนเองไม่ได้ลดลง แต่เชื่อว่าศรัทธาของสาธารณชนต่อตลาดทุน องค์กร และนักวิเคราะห์ตลาดหลักทรัพย์อิสระเสื่อมถอยลง
อย่างไรก็ตาม ซีอีโอในเอเชียแปซิฟิกได้ปรับตัวเพื่อตอบสนองต่อวิกฤตศรัทธาที่เกิดขึ้น และใช้มาตรการเชิงรุกในการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงหลักการกำกับดูแลองค์กรของตนมาโดยตลอด มาตรการเสริมสร้างศรัทธาสาธารณชนที่สำคัญ ได้แก่ การปรับปรุงกระบวนการบริหารความเสี่ยงร้อยละ 68 การนำระบบปฏิบัติการใหม่ ๆ มาใช้ภายในองค์กร ร้อยละ 36 และการแต่งตั้งผู้อำนวยการอิสระที่ไม่ใช่ผู้บริหาร ร้อยละ 28 เกือบ 3 ใน 4 ของซีอีโอในเอเชียแปซิฟิก เห็นด้วยว่าการเติบโตอย่างยั่งยืนเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งต่อการสร้างผลกำไรของบริษัท โดยร้อยละ 65 ยอมเสียสละกำไรในระยะสั้นหากจำเป็น เพื่อแลกกับประโยชน์ระยะยาวของผู้ถือหุ้นในองค์กรของตน ทางด้านการรายงานความรับผิดชอบและความมั่นคงขององค์กรต่อสาธารณชน ปรากฏว่า ซีอีโอในเอเชียแปซิฟิก ร้อยละ 54 ยืนยันความถูกต้องของข้อมูลที่นำเสนอต่อสาธารณชน นับเป็นภูมิภาคที่มีอัตราส่วนสูงสุดในประเด็นนี้
"ซีอีโอในเอเชียแปซิฟิกจำนวนมากยังคงระแวดระวัง แต่ก็เปิดเผยความมั่นใจในศักยภาพการเติบโตของเศรษฐกิจทั่วโลกมากขึ้น พวกเขามองเห็นโอกาสในตลาดของตน แต่ก็ตระหนักถึงอุปสรรคปัญหาต่างๆที่อาจคุกคามเข้ามา ถึงกระนั้นผู้บริหารสูงสุดเหล่านี้ก็พร้อมที่จะขจัดความไม่แน่นอนต่างๆ และจดจ่อรอคอยการเติบโตครั้งใหม่ในปีนี้" นายริคเวิร์ด กล่าวในที่สุด
เกี่ยวกับการสำรวจ
- แบบสำรวจนี้เป็นการสำรวจความคิดเห็นของผู้นำองค์กรทั่วโลก ครั้งที่ 6 ที่จัดทำขึ้นโดยความร่วมมือของไพร้ซวอเตอร์เฮาส์คูเปอร์สกับเวิร์ลดอีโคโนมิคฟอรัม (World Economic Forum) โดยได้สอบถามจากผู้นำองค์กรทั่วโลกจำนวน 992 คน (แบ่งเป็นจากภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก 283 คน จากทวีปยุโรป 409 คน จากทวีปอเมริกาเหนือ 124 คน จากอเมริกาใต้และอเมริกากลาง 129 คน และจากแอฟริกา 47 คน)
- ร้อยละ 40 ของผู้นำองค์กรในเอเชียแปซิฟิกบริหารกิจการที่มีพนักงานมากกว่า 5,000 คน และร้อยละ 35 รับผิดชอบพนักงานตั้งแต่ 1,000 - 5,000 คน
- การสำรวจความคิดเห็นส่วนใหญ่เป็นการสอบถามทางโทรศัพท์ยกเว้นในประเทศญี่ปุ่นที่ใช้การถามตอบทางไปรษณีย์ และประเทศจีนที่สัมภาษณ์แบบตัวต่อตัว ใช้ระยะเวลาในการสำรวจตั้งแต่ปลายเดือนตุลาคม พ.ศ.2545 ที่ผ่านมาจนถึงต้นเดือนมกราคม พ.ศ. 2546 นี้ โดยทีมงานสำรวจระหว่างประเทศของไพร้ซวอเตอร์เฮาส์คูเปอร์ส (PricewaterhouseCoopers International Survey Unit) ซึ่งตั้งอยู่ในกรุงเบลฟาสต์ ไอร์แลนด์เหนือ ร่วมกับหน่วยงานอื่น ๆ ในอีกหลายประเทศ
ข้อมูลบรรณาธิการ
ไพร้ซวอเตอร์เฮาส์คูเปอร์ส www.pwcglobal.com เป็นบริษัทที่ปรึกษาทางธุรกิจระดับโลก ที่รวบรวมความรู้และความชำนาญของพนักงานกว่า 150,000 คน ใน 150 ประเทศทั่วโลก เพื่อช่วยลูกค้าแก้ปัญหาธุรกิจที่ซับซ้อนและเพิ่มขีดความสามารถในการสร้างมูลค่า บริหารความเสี่ยงและปรับปรุงผลประกอบการในโลกอินเตอร์เนต
ไพร้ซวอเตอร์เฮาส์คูเปอร์ส คือสมาชิกขององค์กร ไพร้ซวอเตอร์เฮาส์คูเปอร์ส ทั่วโลก--จบ--
-ศน-
ศูนย์บริการในบาห์เรนถือเป็นความสำเร็จครั้งใหม่สำหรับภาคบริการทางการเงินในราชอาณาจักร ศูนย์แห่งใหม่นี้คาดว่าจะสร้างงาน 250 ตำแหน่งให้กับชาวบาห์เรน บริษัท ไพร้ซวอเตอร์เฮาส์คูเปอร์ส ตะวันออกกลาง หรือ PwC Middle East เตรียมจัดตั้งศูนย์บริการแห่งใหม่ในกรุงมานามา ประเทศบาห์เรน ในช่วงไตรมาสที่ 1 ของปี 2567 โดยศูนย์ฯ ดังกล่าวจะให้บริการด้านการปฏิบัติตามกฎระเบียบเชิงกลยุทธ์และให้คำปรึกษาแก่สถาบันระดับโลกหลายแห่ง เป้าหมายของ PwC Middle East คือการขยายตลาดในภูมิภาคตะวันออกกลาง และศูนย์ฯ แห่งใหม่นี้จะช่วย
PwC ประเทศไทย (ไพร้ซวอเตอร์เฮาส์คูเปอร์ส) เครือข่ายบริษัทผู้ให้บริการทางด้านการตรวจสอบบัญชี บริการให้คำปรึกษาทางด้านกฎหมายและภาษี และบริการให้คำปรึกษาทางธุรกิจรายใหญ่ของโลก ขอเชิญสื่อมวลชนร่วมงานแถลงข่าว...
ภาพข่าว: สัมมนา “COSO”
—
นายสมภพ ศักดิ์พันธ์พนม ประธานกรรมการ บริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด (APM) ให้การต้อนรับนางวารุณี ปรีดานนทหุ้นส่วน สายงาน...
PwC ประเทศไทย (ไพร้ซวอเตอร์เฮาส์คูเปอร์ส) เครือข่ายบริษัทผู้ให้บริการทางด้านการตรวจสอบบัญชี บริการให้คำปรึกษาทางด้านกฎหมายและภาษี และบริการให้คำปรึกษาทางธุรกิจรายใหญ่ของโลก ขอเชิญสื่อมวลชนร่วมงานแถลงข่าว ผลสำรวจแนวโน้ม...