รัฐประศาสนศาสตร์ นิด้า หวั่นนโยบายกระตุ้นศก.ได้ผลไม่เต็มที่ระบุประชาชนขยาดใช้จ่าย-แห่ออม แนะอัดงบลงทุนเมกะโปรเจ็คท์

กรุงเทพฯ--13 ม.ค.--มาสเตอร์ มายด์ คอมมิวนิเคชั่นส์

รศ.ดร.มนตรี โสคติยานุรักษ์ รองคณบดีฝ่ายวางแผนและพัฒนา คณะรัฐประศาสนศาสตร์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยว่า โจทย์สำคัญของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ หลังจากที่รัฐบาลได้เพิ่มงบประมาณขาดดุลอีก 1.15 แสนล้านบาท อยู่ที่การทำให้การใช้จ่ายเงินงบประมาณมีประสิทธิภาพและเกิดผลต่อระบบเศรษฐกิจมากที่สุด อย่างไรก็ตาม ต้องยอมรับว่า หลายโครงการที่รัฐบาลนำมาใช้ยังไม่เข้ากับสถานการณ์ในเศรษฐกิจของประเทศในขณะนี้ ทั้งเรื่องของมาตรการลดหย่อนภาษี ที่จะช่วยเหลือได้แต่กลุ่มที่ยังมีงานทำ ซึ่งทำให้เป็นการช่วยเหลือที่ไม่ทั่วถึง อีกทั้งยังทำให้ประชาชนทั่วไปยังขาดความเชื่อมั่นในการจับจ่ายใช้สอย ขณะที่การอัดฉีดเงิน 2 ,000 บาท ให้กับข้าราชการและพนักงานบริษัทที่มีรายได้ต่ำนั้น ถือเป็นการแก้ปัญหาที่ไม่ตรงจุด และไม่สามารถวัดผลจากการดำเนินมาตรการดังกล่าวได้ เพราะประชาชนที่อยู่ในกลุ่มที่มีรายได้ต่ำ เป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงต่อการตกงานมากที่สุดและในสภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบันนี้ คนกลุ่มนี้อาจนำเงินที่ได้มาออมมากกว่าการนำออกมาจับจ่ายใช้สอย ซึ่งไม่ตรงต่อวัตถุประสงค์ของภาครัฐที่ต้องการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการจับจ่ายใช้สอย “การเลือกใช้มาตรการลดหย่อนภาษีที่ได้ผลมากที่สุด จะต้องเป็นช่วงที่เศรษฐกิจกำลังฟื้นตัว แต่จากสถานการณ์ขณะนี้ที่เศรษฐกิจชะลอตัวลงอย่างชัดเจน มีคนตกงานจำนวนมาก การลดหย่อนภาษีก็ไม่สามารถเข้าไปช่วยเหลือคนกลุ่มนี้ได้ หรือแม้แต่การแจกเงิน 2,000 บาท ให้กับผู้ที่มีรายได้ต่ำ แต่หากรัฐไม่สามารถสร้างความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจให้กับประชาชนได้ คนกลุ่มนี้ก็คงยังไม่กล้าใช้จ่ายเงินแน่นอน” รศ.ดร.มนตรี กล่าว รองคณบดีฝ่ายวางแผนและพัฒนา คณะรัฐประศาสนศาสตร์ นิด้า กล่าวด้วยว่า ภาครัฐควรเลือกแนวทางในการลงทุนโครงการเมกะโปรเจ็คท์ เช่น การลงทุนในระบบสาธารณูปโภคขนาดใหญ่ ทั้งการก่อสร้างรถไฟฟ้า การก่อสร้างถนน ซึ่งจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและสร้างงาน สร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนได้มากกว่า อย่างไรก็ตาม การดำเนินนโยบายการคลังเพียงอย่างเดียว อาจยังไม่เพียงพอ ภาครัฐควรใช้นโยบายทางด้านการเงินควบคู่กันไป ซึ่งมีความเป็นได้ว่า คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) จะประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงอีก 0.5-1% จากเดิม 2.75% เนื่องจากเงินเฟ้อค่อนข้างต่ำ และปัจจัยจากการดูแลเสถียรภาพค่าเงินบาทที่ไม่ให้แข็งค่าจนเกินไป จนส่งผลกระทบต่อการส่งออก อีกทั้งยังป้องกันการไหลเข้าของเงินทุนเพื่อเก็งกำไรจากส่วนต่างของอัตราดอกเบี้ย หลังจากที่ธนาคารกลางของสหรัฐได้ปรับลดอัตรานโยบายเหลือ 0.25% และธนาคารกลางของอังกฤษได้ปรับลดดอกเบี้ยเหลือ 1.5% ทั้งนี้ คาดว่าจะมีการปรับลดดอกเบี้ยนโยบายลงอย่างต่อเนื่องจนเหลือ 1% ในช่วงไตรมา ส 3 ของปีนี้ ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : ฝ่ายประชาสัมพันธ์ บริษัท มาสเตอร์ มายด์ คอมมิวนิเคชั่นส์ จำกัด (ในนามคณะรัฐประศาสนศาสตร์ นิด้า) พิภพ ฆ้องวง (ท๊อป) โทร. 02-248-7967-8 ต่อ 14, 08-1929-8864 โทรสาร. 02-248-7969

ข่าวสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์+สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตวันนี้

เวฟ เอกซ์โพเนนเชียล ผนึก NIDA เปิดการอบรมหลักสูตร "ผู้บริหารระดับสูงด้านเศรษฐกิจเพื่อสิ่งแวดล้อม"

นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เป็นประธานเปิดการอบรมหลักสูตร"ผู้บริหารระดับสูงด้านเศรษฐกิจเพื่อสิ่งแวดล้อม" หรือ NIDA Bio Circular Green Economy Executive Program (NIDA BCG) จัดโดย เวฟ บีซีจี (Wave BCG) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ บมจ.เวฟ เอกซ์โพเนนเชียล ร่วมกับสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (NIDA) โดยมีนายถิรพงศ์ คำเรืองฤทธิ์ (กลาง) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เวฟ เอกซ์โพเนนเชียล หรือ (WAVE) และรศ. ดร.ดนุวัศ สาคริก (ซ้าย) รองคณบดีฝ่ายวิชาการ คณะรัฐประศาสนศาสตร์

นางกลอยตา ณ ถลาง รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ... บางจากฯ แบ่งปันแนวคิดการจัดการงานสื่อสาร แนวคิดการบริหารธุรกิจอย่างมีสมดุล เพื่อความยั่งยืน — นางกลอยตา ณ ถลาง รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ งานบริหารความยั่งยื...

โบลท์ ร่วมฉลองวันปลอดรถโลก พร้อมการเติบโต... โบลท์ (Bolt) เผยสถิติ คนไทยมีแนวโน้มหันมาเลือกการเดินทางแบบปลอดมลพิษมากขึ้น — โบลท์ ร่วมฉลองวันปลอดรถโลก พร้อมการเติบโตอย่างก้าวกระโดดของหมวดรถยนต์ไฟฟ้า (...

บริษัท ผลธัญญะ จำกัด (มหาชน) หรือ PHOL ผู... PHOL เปิดบ้านต้อนรับนักศึกษาปริญญาตรีควบโท วิศวกรรมการเงิน KMITL-NIDA เยี่ยมชมบริษัท — บริษัท ผลธัญญะ จำกัด (มหาชน) หรือ PHOL ผู้ประกอบธุรกิจจัดจำหน่ายสิน...