งานมอบรางวัล โครงการ “เยาวชนร่วมใจ ลดน้ำเสีย คืนน้ำใสให้เจ้าพระยา” เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ

เมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2552 ณ สนามใต้สะพานพระราม 8 (ฝั่งธนบุรี) นายภิมุข สิมะโรจน์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้มาเป็นประธานในงานแถลงข่าวและมอบรางวัล โครงการ “เยาวชนร่วมใจ ลดน้ำเสีย คืนน้ำใสให้เจ้าพระยา” เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ให้กับโรงเรียนนำร่อง 76 แห่ง ที่เข้าร่วมเป็นอีกหนึ่งพันธมิตรของการฟื้นฟูคุณภาพน้ำแม่น้ำเจ้าพระยา นายภิมุขฯ กล่าวว่า มีความภูมิใจและดีใจเป็นอย่างยิ่ง ที่เห็นเยาวชนของชาติเอาใจใส่และร่วมกันแก้ไขปัญหาคุณภาพน้ำที่เกิดขึ้นในพื้นที่ของตนเอง รวมทั้งมีการขยายผลไปสู่บ้านเรือนและสู่ชุมชน ซึ่งจะเกิดเป็นเครือข่ายการเฝ้าระวัง ป้องกัน และแก้ไขปัญหาคุณภาพน้ำอย่างยั่งยืน เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ รวมทั้งความรู้ที่ได้รับจากโครงการยังสามารถนำไปพัฒนาการเรียนการสอนแบบบูรณาการของโรงเรียนได้ ดร.ศักดิ์สิทธิ์ ตรีเดช ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวขอบคุณหน่วยงานต่างๆ ที่ร่วมกันดำเนินโครงการ ได้แก่ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) โดยเฉพาะคณะกรรมการตัดสินการประกวดเพื่อมอบรางวัลให้กับโรงเรียน อาทิเช่น กรมประชาสัมพันธ์ กรมส่งเสริม การปกครองท้องถิ่น กรุงเทพมหานคร สถาบันสิ่งแวดล้อมไทย คณะสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ผู้แทนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ประธาน ทสม. ในจังหวัดที่เกี่ยวข้อง และผู้แทนสื่อมวลชนท้องถิ่น จนทำให้โครงการนี้ ประสบผลสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรม ดร.สุพัฒน์ หวังวงศ์วัฒนา อธิบดีกรมควบคุมลพิษ กล่าวว่า ตลอดระยะเวลา 1 ปีเต็ม โรงเรียนนำร่องทั้ง 76 แห่ง ดำเนินงานกิจกรรมตามรูปแบบและวิธีการที่เสนอ มีการตรวจประเมินผลการดำเนินงาน 2 ครั้ง โดยพิจารณาจาก การจัดการและประสิทธิภาพการลดการใช้น้ำ การจัดการน้ำเสียของโรงเรียนทั้งการสร้างถังดักไขมันและจัดการไขมัน อย่างถูกวิธี การบำบัดน้ำเสียด้วยรูปแบบที่เหมาะสมและมีการนำน้ำไปใช้ประโยชน์ (Reuse) การตรวจวัดคุณภาพน้ำด้วย เครื่องมือของกรมควบคุมมลพิษและประเมินผลคุณภาพน้ำ การมีส่วนร่วมของนักเรียนในการทำกิจกรรมทุกด้าน การจัดกิจกรรมร่วมกับชุมชนให้ตระหนักถึงความสำคัญของการจัดการน้ำเสียและการดูแลรักษาแหล่งน้ำ รวมทั้ง การพิจารณาถึงความคุ้มค่า ความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ และการเป็นนวัตกรรม เป็นต้น นายภิมุขฯ ได้กล่าวในตอนท้ายว่า โรงเรียนใดที่ได้รับรางวัลในวันนี้ สมควรภาคภูมิใจ แต่ถึงแม้จะไม่ได้รับรางวัลก็ควรภูมิใจเช่นกัน ทั้งนี้ เยาวชน คือ กำลังสำคัญ เป็นอนาคตของชาติ และจะเป็นผู้สานต่อการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและการรักษาสิ่งแวดล้อมของประเทศสืบไป ขอฝากทุกคนและสื่อมวลชนทุกท่านช่วยประชาสัมพันธ์โครงการนี้และประโยชน์ที่ได้รับ ตลอดจนการดำเนินงานของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเพื่อขอความร่วมมือจากคนไทยทุกคนในการรักษาแม่น้ำเจ้าพระยาและแหล่งน้ำอื่นของประเทศเพื่อให้มีคุณภาพน้ำที่เหมาะสมกับ การนำไปใช้ประโยชน์และการดำรงชีวิตของสัตว์น้ำต่อไป โรงเรียนที่ชนะการประกวดในระดับพื้นที่ลุ่มน้ำ มีกิจกรรมเด่นที่สามารถเป็นต้นแบบให้กับโรงเรียนต่างๆ ทั่วประเทศในการจัดการสิ่งแวดล้อม ดังนี้ - โรงเรียนวัดเทียนถวาย จังหวัดปทุมธานี (รองชนะเลิศอันดับ 2 ระดับพื้นที่ลุ่มน้ำ ประเภทประถมศึกษา) มีห้องเรียนนักสืบที่เด็กๆ สืบหาความลับที่ซ่อนอยู่ที่รากของผักตบชวา สัตว์น้ำจืดขนาดเล็กที่พบ ก็คือ ดัชนีชี้วัดคุณภาพน้ำของแม่น้ำเจ้าพระยาอีกแบบหนึ่ง ช่วยสร้างความผูกพันระหว่างเด็กกับแหล่งน้ำ และกิจกรรม “พวกหนูรู้ใช้” เป็นกิจกรรมที่เชิญชวนให้ทุกคนช่วยกันประหยัดและใช้น้ำอย่างรู้คุณค่า โดยพี่ๆ ชั้น ป.4-5-6 จะทำหน้าที่สอนน้องเล็กๆ ในเรื่องการใช้น้ำ และทำให้ติดเป็นนิสัย - โรงเรียนประชากรรังสฤษฏ์ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา (รองชนะเลิศอันดับ 1 ระดับพื้นที่ลุ่มน้ำ ประเภทประถมศึกษา) มีการรณรงค์ประชาสัมพันธ์ในชุมชน เพื่อสร้างแรงจูงใจและกระตุ้นให้คนในชุมชนเห็นความสำคัญของการดูแลแหล่งน้ำ เช่น การจัดตั้งเครือข่ายชุมชนคนประหยัดน้ำ การประชาสัมพันธ์ผ่านหอกระจายข่าว มีการจัดทำระบบบำบัดน้ำเสีย บ่อดักไขมัน และการนำน้ำที่ผ่านการบำบัดแล้วมาใช้รดน้ำต้นไม้ - โรงเรียนวัดสุวรรณราชหงษ์ จังหวัดอ่างทอง (ชนะเลิศระดับพื้นที่ลุ่มน้ำ ประเภทประถมศึกษา) นำกากไขมันจากบ่อดักไขมันมาทำเป็นเทียนหอมสมุนไพรไล่แมลง จัดทำถังดักไขมันต้นแบบ นำไปติดตั้งให้กับชุมชน ร้านค้าและวัด และมีการให้คำแนะนำในการดูแลรักษาเป็นระยะ รวมทั้ง จัดทำโครงการหน้าบ้านสวยน้ำใส เป็นความร่วมมือระหว่าง บ้าน วัด โรงเรียน เพื่อลดน้ำเสีย คืนน้ำใสให้เจ้าพระยาที่ประสบความสำเร็จอย่างน่าพอใจ - โรงเรียนสตรีศรีสุริโยทัย กรุงเทพมหานคร (รองชนะเลิศอันดับ 2 ระดับพื้นที่ลุ่มน้ำ ประเภทมัธยมศึกษา) มีสายตรวจจุดรั่วไหล เพราะแต่ละวันหากไม่มีการตรวจสอบจะสูญเสียน้ำเป็นจำนวนมากไปกับการรั่วไหล จึงเป็นมาตรการลดการใช้น้ำอย่างได้ผล - โรงเรียนท่าช้างวิทยาคาร จังหวัดสิงห์บุรี (รองชนะเลิศอันดับ 1 ระดับพื้นที่ลุ่มน้ำ ประเภทมัธยมศึกษา) มีการนำกากไขมันจากบ่อดักไขมันมาเป็นส่วนประกอบในการทำเชื้อเพลิง สร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้อย่างน่าสนใจ มีการต่อท่อนำน้ำที่ใช้แล้วจากอ่างล้างมือมารดต้นไม้ ปั่นจักรยานสูบน้ำจากบ่อดักไขมันไปรดน้ำต้นไม้ มีการรณรงค์เรื่องการใช้น้ำในชุมชนและทำแบบสอบถามเพื่อเปรียบเทียบและศึกษาพฤติกรรมการใช้น้ำของแต่ละครัวเรือน รวมถึงปลูกพืชน้ำ เช่น ผักตบชวา กระจับ สร้างบรรยากาศริมน้ำให้สวยงามและช่วยดูดซับของเสียในแม่น้ำ - โรงเรียนคณะราษฎร์บำรุงปทุมธานี จังหวัดปทุมธานี (ชนะเลิศระดับพื้นที่ลุ่มน้ำ ประเภทมัธยมศึกษา) นักเรียนมีการจัดทำสปอตประชาสัมพันธ์รณรงค์การใช้น้ำอย่างประหยัด เผยแพร่ในโรงเรียนและเครือข่ายอินเตอร์เนต การรณรงค์กินข้าวหมดจาน เพื่อลดเศษอาหาร โดยมีการบันทึกปริมาณอาหารที่เหลือในแต่ละวัน มีการนำความบันเทิงมาผสมผสานเพื่อดึงดูดความสนใจ ผลที่ได้คือ ปริมาณของเสียลดลงอย่างชัดเจน และเมื่อแม่น้ำเจ้าพระยามีปัญหาคุณภาพน้ำ ชุมชนจะช่วยกันแจ้งให้โรงเรียนมาตรวจสอบคุณภาพน้ำ โรงเรียนชนะเลิศระดับพื้นที่ลุ่มน้ำ จะได้รับถ้วยพระราชทานจากสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ รองชนะเลิศอันดับ 1 และ 2 จะได้รับถ้วยรางวัลจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ส่วนโรงเรียนที่ชนะการประกวดในระดับจังหวัดและโรงเรียนนำร่องทั้ง 76 โรงเรียน จะได้รับโล่เชิดชูเกียรติและประกาศนียบัตรการมีส่วนร่วมรักษาแม่น้ำเจ้าพระยาจากปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมและเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ตามลำดับ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ กรมควบคุมมลพิษ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โทร.0-2298-2082 e-mail : pr@pcd.go.th

• ข่าวกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
• ข่าวจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ
• ข่าวสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์
• ข่าวสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ
• ข่าวกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ