กลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคิน-ภัทร ต่อยอด 3 ธุรกิจหลักขับเคลื่อนการเติบโต

กรุงเทพฯ--5 พ.ย.--ธนาคารเกียรตินาคิน

หลังไตรมาส 3 สินเชื่อรวมเติบโตกว่า 18% นายบรรยง พงษ์พานิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และประธานกรรมการบริหาร ธนาคารเกียรตินาคิน จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ทิศทางธุรกิจของกลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคิน-ภัทร จะมุ่งเน้นในธุรกิจที่ทั้งสองแห่งมีความเชี่ยวชาญ โดยใช้จุดแข็งที่มี วางแผนต่อยอดในการทำธุรกิจ เพื่อให้เกิดการพัฒนาศักยภาพร่วมกันอย่างสูงสุด ตลอดจนพิจารณาถึงข้อเสียเปรียบในการแข่งขัน อาทิ ขนาดสินทรัพย์ เครือข่ายสาขา ต้นทุนทางการเงิน จึงได้กำหนดกรอบเป้าหมายการดำเนินธุรกิจ โดยวางกลยุทธ์ให้สามารถแข่งขันได้และเป็นผู้นำในตลาด แบ่งเป็น 3 ธุรกิจหลัก ประกอบไปด้วย 1. ธุรกิจธนาคารพาณิชย์ (Commercial Banking) 2. ธุรกิจที่ปรึกษาการลงทุนให้แก่ลูกค้าบุคคลรายใหญ่ (Private Client) และ 3. ธุรกิจตลาดทุน (Investment Banking) นอกจากนี้ กลุ่มธุรกิจการเงินฯ จะมุ่งเน้นนโยบายการเพิ่มประสิทธิภาพขององค์กร และเพิ่มประเภทธุรกิจ รวมทั้งสินค้าและบริการที่สามารถแข็งขันได้ ซึ่งเชื่อว่าโมเดลดังกล่าวจะสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างครบวงจร” ธุรกิจธนาคารพาณิชย์ (Commercial Banking) ซึ่งเป็นธุรกิจหลักในการให้สินเชื่อของธนาคาร ยังคงมุ่งเน้นไปที่สินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ พร้อมกับความเชี่ยวชาญในด้านการติดตาม ตลอดจนขยายสินเชื่อในธุรกิจเอสเอ็มอีในกลุ่มที่ธนาคารมีความเชี่ยวชาญในพอร์ตสินเชื่อธุรกิจ 5 ประเภท ทั้งสินเชื่อธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ อพาร์ทเม้นท์ ฟลอร์แพลน ขนส่ง และธุรกิจสิ่งพิมพ์และบรรจุภัณฑ์ ซึ่งธนาคารมีความโดดเด่นในการเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับลูกค้า ส่วนการระดมเงินฝาก จะทำการขยายฐานลูกค้าในแต่ละสาขาอย่างต่อเนื่อง โดยเน้นไปที่การบริการด้วยผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย ธุรกิจที่ปรึกษาการลงทุนให้แก่ลูกค้าบุคคลรายใหญ่ (Private Client) ถือเป็นธุรกิจที่ต่อยอดพัฒนาโดยอาศัยความเชี่ยวชาญของทั้งสองแห่ง กล่าวคือเป็นธุรกิจที่ภัทรมีความเชี่ยวชาญ และธนาคารเองมีกลุ่มลูกค้าเงินฝากรายใหญ่อยู่มาก โดยใช้ความเชี่ยวชาญในการเป็นที่ปรึกษาด้าน การลงทุนในผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่หลากหลาย ผสานกับฐานลูกค้าและช่องทางการให้บริการของ ธนาคาร โดยแบ่งลูกค้าออกเป็น 3 กลุ่ม คือ High Net Worth (เงินลงทุนมากกว่า 30 ล้านบาท) Mass Affluent (เงินลงทุนตั้งแต่ 3-30 ล้านบาท) และสุดท้ายคือรายย่อยทั่วไป ซึ่งธุรกิจนี้ จะสามารถเพิ่มฐานรายได้ค่าธรรมเนียมได้อย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากทั้งเกียรตินาคินและภัทร มีลูกค้าในกลุ่ม High Net Worth และ Mass Affluent อยู่แล้ว ซึ่งในส่วนของลูกค้าภัทรจะมาจากด้านตลาดทุนที่มีความเข้าใจในความเสี่ยงของการลงทุนค่อนข้างดี แต่ในส่วนของลูกค้าที่เป็นฐานลูกค้าเกียรตินาคิน จะเน้นการฝากเงินเป็นหลัก จึงเป็นโอกาสที่จะนำเสนอผลิตภัณฑ์ให้ทั้งสองกลุ่ม ให้ได้รับผลตอบแทนในการออมและการลงทุนที่สูงขึ้น ด้วยผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายขึ้น เช่น Structured Note หรือ ตลาดพันธบัตร เป็นต้น ธุรกิจตลาดทุน (Investment Bank) ซึ่งดำเนินงานภายใต้ บล.ภัทร ที่เป็นผู้นำในธุรกิจตลาดทุน โดยมีส่วนแบ่งทางการตลาดด้านวาณิชธนกิจเป็นอันดับ 1 ด้วย กลยุทธ์เชิงรุกเพื่อรักษาความเป็นผู้นำ ในธุรกิจดังกล่าว ผสานกับความเชี่ยวชาญในการทำธุรกิจการลงทุนที่หลากหลาย อาทิ Arbitrage Trading Strategies และ Systematic Trading Strategy ที่สามารถสร้างรายได้ให้กับภัทรอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ ภายใต้ธุรกิจตลาดทุน ประกอบไปด้วย 3 ส่วนคือ บล.ภัทร ที่มุ่งเน้นลูกค้าสถาบันทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมถึงธุรกิจลงทุน บล.เกียรตินาคิน ที่ให้บริการกับลูกค้ารายย่อยเป็นหลัก และ บลจ.เกียรตินาคิน ซึ่งภายหลังจากการร่วมกิจการกับเกียรตินาคิน ส่งผลให้ธุรกิจตลาดทุนมีฐานเงินทุนที่เพิ่มขึ้น สามารถบริหารเงินลงทุนในด้านต่างๆ ได้เพิ่มมากขึ้น ทั้งนี้ ธุรกิจตลาดทุนนี้จะมีการเปิดสายงานใหม่คือการออกตราสารหนี้ในตลาดทุน (Debt Capital Market) อีกด้วย “การให้ข้อมูลในครั้งนี้ จะเน้นให้เห็นถึงโครงสร้างหลักทางธุรกิจ และกรอบการทำธุรกิจในภาพรวม ซึ่งธุรกิจหลักทั้ง 3 กลุ่มนี้ จะยังไม่ได้กำหนดเป้าหมายว่าจะเริ่มเห็นผลลัพธ์ภายในระยะเวลากี่ปี เพราะต้องการให้มีความยืดหยุ่นในการพัฒนาธุรกิจที่ดีที่สุด เพื่อเป็นการปูพื้นฐานให้เกิดความมั่นคงทางธุรกิจอย่างยั่งยืน โดยทีมผู้บริหารทั้งด้านตลาดเงิน และตลาดทุน โดยนายธวัชไชย สุทธิกิจพิศาล (ประธานธุรกิจธนาคารพาณิชย์และกรรมการผู้จัดการใหญ่) และนายอภินันท์ เกลียวปฏินนท์ (ประธานธุรกิจตลาดทุนและกรรมการผู้จัดการใหญ่) จะมีการแถลงเป้าหมายการเติบโตในส่วนของธุรกิจต่างๆ ให้ทราบอีกครั้ง” นายบรรยง กล่าวในตอนท้าย ผลการดำเนินงาน สิ้นสุด 30 กันยายน 2555 สินเชื่อของธนาคารมีการขยายตัวต่อเนื่อง โดยมีสินเชื่อรวมอยู่ที่ 160,277 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18.1% หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ยังควบคุมให้อยู่ในระดับต่ำที่ 3.6% ในส่วนของหนี้สินรวม (เงินฝาก หุ้นกู้ ตั๋วบีอี และหนี้สินอื่นๆ) มีจำนวน 218,417 ล้านบาท ด้านกำไรสุทธิใน 9 เดือนแรกอยู่ที่ 2,323 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.6% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยอยู่ที่ 3.9% สินทรัพย์รวมอยู่ที่ 252,097 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 32.7% จากสิ้นปี 2554 ทางด้าน บริษัททุนภัทร จำกัด (มหาชน) มีกำไรเบ็ดเสร็จใน 9 เดือนแรกของปี 2555 ทั้งสิ้น 698 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 59.6% จากงวด 9 เดือนของปีที่แล้ว แต่เนื่องจากบริษัททุนภัทรได้ควบรวมกับธนาคารเกียรตินาคิน เสร็จสิ้นเมื่อวันที่ 11 กันยายน 2555 จึงมีส่วนของกำไรเบ็ดเสร็จของบริษัททุนภัทรรวมคำนวณอยู่ในกำไรเบ็ดเสร็จของธนาคารจำนวน 55 ล้านบาท นายบรรยง พงษ์พานิช นำทีมผู้บริหาร กลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคิน-ภัทร แถลงทิศทางธุรกิจ เผย ใช้จุดแข็งของทั้งสองแห่ง ต่อยอด 3 ธุรกิจหลักอย่างครบวงจร ได้แก่ “ธุรกิจธนาคารพาณิชย์ ธุรกิจที่ปรึกษาการลงทุนให้แก่ลูกค้าบุคคลรายใหญ่ และธุรกิจตลาดทุน” ทั้งนี้ ผลการดำเนินงาน 9 เดือนแรกของปี สินเชื่อรวมเติบโตกว่า 18% และกำไรสุทธิอยู่ที่ 2,323 ล้านบาท -กภ- สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net

ข่าวธนาคารเกียรตินาคิน+กลุ่มธุรกิจการเงินวันนี้

เงินติดล้อ เปิดบ้านต้อนรับคณะผู้บริหาร จากกลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทร (KKP)

บริษัท เงินติดล้อ จำกัด (มหาชน) หรือ TIDLOR โดย นายปิยะศักดิ์ อุกฤษฎ์นุกูล (กลาง) กรรมการผู้จัดการใหญ่ นำทีมงานชาวเงินติดล้อ เปิดบ้านต้อนรับคณะผู้บริหารจาก กลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทร (KKP) ประกอบด้วย ธนาคารเกียรตินาคินภัทร (KKP) และบริษัทหลักทรัพย์ เคเคพี ไดม์ จำกัด (KKP Dime) มีจำนวน 20 คน ในกิจกรรม "TIDLOR Culture Wow" เพื่อแนะนำและแลกเปลี่ยนแนวคิด วิธีการสร้างค่านิยมและวัฒนธรรมองค์กร โดยการนำเทคโนโลยีมาใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อต่อยอดการสร้างค่านิยมในแบบฉบับเงินติดล้อ นอกจากนี้ยัง

ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ร่วมกับ ธนาคา... ตลาดหลักทรัพย์ฯ ร่วมกับ ธ. เกียรตินาคินภัทร สร้างพี่เลี้ยงการเงิน — ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ร่วมกับ ธนาคารเกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) จัดเวิร์กชอปอ...

ธนาคารเกียรตินาคิน จำกัด (มหาชน) บริษัทใน... ธนาคารเกียรตินาคิน ร่วมลงนามข้อตกลงโครงการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ บรรเทาวิกฤตการณ์ COVID-19 — ธนาคารเกียรตินาคิน จำกัด (มหาชน) บริษัทในกลุ่มธุรกิจการเงินเกียร...