กกพ.ประกาศ เรียกเก็บค่า Ft ประจำเดือนมกราคม – เมษายน 2556 เท่ากับ 52.04 สตางค์ต่อหน่วย และหากไม่มีปัจจัยอื่นกระทบจะตรึงค่า Ft ไว้จนถึงสิ้นปี 2556
กรุงเทพฯ--15 ม.ค.--กกพ.
ตามที่คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) มีมติเมื่อวันที่ 2 มกราคม 2556 เห็นชอบค่า Ft ประจำเดือนมกราคม – เมษายน 2556 เท่ากับ 52.04 สตางค์ต่อหน่วย และได้เปิดรับฟังความคิดเห็นในช่วงวันที่ 2 – 8 มกราคม 2556 ที่ผ่านมานั้น
ประธานกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (ศาสตราจารย์กิตติคุณ ดร.ดิเรก ลาวัณย์ศิริ) เปิดเผยว่า จากการรับฟังความคิดเห็นค่า Ft ตามมติดังกล่าว ผ่านทางเว็บไซต์สำนักงาน กกพ. ตั้งแต่วันที่ 2 – 8 มกราคม 2556 มีผู้สนใจเข้าชมรายละเอียดของการรับฟังความเห็น จำนวน 328 ราย มีผู้แสดงความคิดเห็น จำนวน 13 ราย ผู้ให้ข้อเสนอแนะ จำนวน 2 ราย โดยมีผู้ให้ความเห็นส่วนหนึ่งเห็นว่า สูตรและวิธีการคำนวณค่า Ft มีความยุ่งยากซับซ้อนเกินไป และมีผู้แสดงความเห็นบางส่วนไม่ประสงค์ให้มีการขึ้นค่า Ft เพราะกระทบต่อค่าครองชีพของประชาชนทั่วไป ซึ่ง กกพ. ในการประชุมเมื่อวันที่ 10 มกราคม 2556 รับทราบผลการรับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะดังกล่าว และเห็นว่า กกพ. ได้พิจารณาค่า Ft โดยให้ปรับเพิ่มขึ้น 4.04 สตางค์ต่อหน่วย จากค่า Ft งวดที่ผ่านมา (ค่า Ft งวดที่ผ่านมาเรียกเก็บที่ 48 สตางค์ต่อหน่วย) ทำให้ค่า Ft ที่เรียกเก็บในงวดนี้เป็น 52.04 สตางค์ต่อหน่วย (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) นั้น ได้คำนึงถึงภาระของประชาชนแล้ว โดยหากใช้ค่าประมาณการ Ft ที่คำนวณได้จริงจะต้องขึ้นถึง 61.57 สตางค์ต่อหน่วย ซึ่ง กกพ. ได้พิจารณาว่า หากส่งผ่านภาระดังกล่าวไปยังผู้ใช้ไฟฟ้าทั้งหมด จะเป็นภาระกับประชาชนที่สูงเกินไป จึงให้ กฟผ. รับภาระส่วนต่างไปก่อนเป็นการชั่วคราวประมาณ 5,131 ล้านบาท
ทั้งนี้ การปรับเพิ่มค่า Ft ในครั้งนี้ เป็นผลมาจากปริมาณการผลิตไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น ประกอบกับประมาณการราคาก๊าซธรรมชาติมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น รวมทั้ง ภาระจากการตรึงค่า Ft ในงวดที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม จากการพิจารณาค่า Ft ในปี 2556 พบว่า หากไม่มีปัจจัยอื่นกระทบ ค่า Ft จะตรึงอยู่ที่ 52.04 สตางค์ต่อหน่วย ไปจนถึงสิ้นปี 2556
เกี่ยวกับ กกพ.
คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน องค์กรหลักในการกำกับดูแลกิจการพลังงานด้านกิจการไฟฟ้า และก๊าซธรรมชาติ เพื่อส่งเสริมให้มีบริการอย่างมั่นคง และมีเสถียรภาพ ในราคาที่เหมาะสม โดยยึดมั่นในความยุติธรรม คุณธรรม และความโปร่งใส ส่งเสริมการมีส่วนร่วม และพึ่งพากันอย่างยั่งยืน ระหว่างกิจการพลังงาน สังคม ชุมชน และสิ่งแวดล้อม มุ่งมั่นตั้งใจพัฒนารากฐานพลังงานของประเทศ เพื่อให้เกิดความยั่งยืนในอนาคต
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
ฝ่ายกลยุทธ์และสื่อสารองค์กร
สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน
โทร. 02-207-3599-กภ-
ข่าวคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน+ดิเรก ลาวัณย์ศิริวันนี้
ภาพข่าว: สำนักงาน กปร.และสำนักงานกกพ. ลงนามความร่วมมือเพื่อการพัฒนาตามแนวพระราชดำริ
สำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ (สำนักงาน กปร.) โดยนายสุวัฒน์ เทพอารักษ์ เลขาธิการ กปร. และสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ. )โดยนายดิเรก ลาวัณย์ศิริ ประธานกรรมการกำกับกิจการพลังงาน ลงนามความร่วมมือเพื่อการพัฒนาตามแนวพระราชดำริ โดยมีนายกวิน ทังสุพานิช เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน และนายชัชชัย ภูวิชยสัมฤทธิ์ ที่ปรึกษาด้านการประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ร่วมเป็นสักขีพยาน การลงนามในบันทึกข้อตกลงนี้ ในการน้อมนำหลักการพัฒนาตาม