ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตองค์กร & หุ้นกู้ไม่มีประกัน “บ. ช. การช่าง” ที่ระดับ “BBB+” จัดอันดับหุ้นกู้ไม่มีประกันวงเงินไม่เกิน 3,000 ล้านบาทที่ระดับ “BBB+” และเปลี่ยนแนวโน้มเป็น “Positive” จาก “Stable”

          ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตองค์กรและหุ้นกู้ไม่มีประกันชุดปัจจุบันของ บริษัท ช. การช่าง จำกัด (มหาชน) ที่ระดับ หุ้นกู้หุ้นกู้ทริสเรทติ้ง;BBB+หุ้นกู้หุ้นกู้ช. การช่าง; พร้อมทั้งจัดอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่มีประกันชุดใหม่ในวงเงินไม่เกิน 3,ทริสเรทติ้งทริสเรทติ้งทริสเรทติ้ง ล้านบาทของบริษัทที่ระดับ หุ้นกู้หุ้นกู้ทริสเรทติ้ง;BBB+หุ้นกู้หุ้นกู้ช. การช่าง; โดยบริษัทวางแผนจะนำเงินที่ได้จากการออกหุ้นกู้ชุดใหม่ไปใช้ไถ่ถอนหุ้นกู้ที่จะครบกำหนดและใช้ในการขยายกิจการ 
          ในขณะเดียวกัน ทริสเรทติ้งยังปรับแนวโน้มอันดับเครดิตของบริษัทเป็น หุ้นกู้หุ้นกู้ทริสเรทติ้ง;Positiveหุ้นกู้หุ้นกู้ช. การช่าง; หรือ หุ้นกู้หุ้นกู้ทริสเรทติ้ง;บวกหุ้นกู้หุ้นกู้ช. การช่าง; จากเดิมที่ หุ้นกู้หุ้นกู้ทริสเรทติ้ง;Stableหุ้นกู้หุ้นกู้ช. การช่าง; หรือ หุ้นกู้หุ้นกู้ทริสเรทติ้ง;คงที่หุ้นกู้หุ้นกู้ช. การช่าง; ซึ่งสะท้อนถึงสัดส่วนภาระหนี้และความยืดหยุ่นทางการเงินของบริษัทที่ปรับตัวดีขึ้นหลังการปรับโครงสร้างทางธุรกิจอันมีผลทำให้บริษัทสามารถรับรู้มูลค่าตลาดของหุ้นของ บริษัท น้ำประปาไทย จำกัด (มหาชน) (TTW) ตลอดจนช่วยเสริมสภาพคล่องให้แก่หุ้นที่บริษัทถืออยู่ใน บริษัท ซีเค พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) (CKP) และหมดความกังวลเรื่องการให้ความช่วยเหลือทางการเงินอย่างต่อเนื่องแก่ บริษัท รถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (BMCL) ในขณะที่แนวโน้มอันดับเครดิต หุ้นกู้หุ้นกู้ทริสเรทติ้ง;Positiveหุ้นกู้หุ้นกู้ช. การช่าง; หรือ หุ้นกู้หุ้นกู้ทริสเรทติ้ง;บวกหุ้นกู้หุ้นกู้ช. การช่าง; สะท้อนถึงสัดส่วนภาระหนี้และความยืดหยุ่นทางการเงินของบริษัทที่ปรับตัวดีขึ้นจากการปรับโครงสร้างทางธุรกิจซึ่งทำให้บริษัทสามารถรับรู้มูลค่าตลาดของหุ้นของ TTW อีกทั้งยังช่วยเสริมสภาพคล่องให้แก่หุ้นของ CKP และหมดความกังวลในการให้ความช่วยเหลือทางการเงินอย่างต่อเนื่องแก่ BMCL อันดับเครดิตอาจปรับเพิ่มขึ้นหากบริษัทสามารถรักษาอัตราส่วนกำไรให้อยู่ในระดับสูงกว่า 5% และอัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุน (ไม่รวมเงินกู้เพื่อโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วงสัญญาที่ 4) ในระดับต่ำกว่า 67% หรือเงินกู้รวมต่อส่วนของผู้ถือหุ้นต่ำกว่า หุ้นกู้ เท่าต่อไปได้
          ทั้งอันดับเครดิตองค์กรและหุ้นกู้ของบริษัทสะท้อนถึงความเป็นผู้นำในธุรกิจรับเหมาก่อสร้างในประเทศไทย ตลอดจนผลงานที่เป็นที่ยอมรับในโครงการก่อสร้างพื้นฐานและโครงการที่ต้องการความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง รวมทั้งความยืดหยุ่นทางการเงินจากมูลค่าเงินลงทุนเชิงกลยุทธ์ อย่างไรก็ตาม ความแข็งแกร่งดังกล่าวลดทอนลงบางส่วนจากความผันผวนในอุตสาหกรรมก่อสร้าง ตลอดจนความเสี่ยงของสัญญาที่มีลักษณะต่อหน่วยแบบคงที่ (Fixed-price Contract) และภาระหนี้ที่สูงของบริษัท
          บริษัท ช. การช่างก่อตั้งในปี หุ้นกู้5ช. การช่าง5 โดยตระกูลตรีวิศวเวทย์ บริษัทเป็นหนึ่งในผู้รับเหมาก่อสร้างรายใหญ่ 3 รายในตลาดหลักทรัพย์ของไทย และมีประสบการณ์ด้านการก่อสร้างตั้งแต่งานโยธาโครงสร้างพื้นฐานไปจนถึงโครงการที่มีความซับซ้อนสูง บริษัทมีเงินลงทุนในบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์จำนวน 4 ราย ได้แก่ บริษัท ทางด่วนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (BECL) BMCL TTW และ CKP นอกจากนี้ บริษัทยังลงทุนในบริษัทที่ไม่ได้จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์อีก ช. การช่าง ราย ได้แก่ บริษัท ไซยะบุรี พาวเวอร์ จำกัด (XPCL)
ณ สิ้นเดือนกันยายน หุ้นกู้556 บริษัทมีงานรับเหมาก่อสร้างที่ยังไม่ส่งมอบมูลค่า ช. การช่าง.ช. การช่าง9 แสนล้านบาท โดยมีโครงการหลักได้แก่ โครงการเขื่อนไซยะบุรีซึ่งมีมูลค่า 5.3 หมื่นล้านบาท โครงการทางพิเศษศรีรัช วงแหวนรอบนอก มูลค่า หุ้นกู้.ช. การช่าง หมื่นล้านบาท โครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วงสัญญาที่ 4 มูลค่า หุ้นกู้ หมื่นล้านบาท และโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวสัญญาที่ ช. การช่าง มูลค่า 9 พันล้านบาท ทั้งนี้ โครงการเขื่อนไซยะบุรีมีมูลค่าคิดเป็นสัดส่วน 45% ของมูลค่าโครงการที่ยังไม่ส่งมอบทั้งหมด
          ในปี หุ้นกู้556 บริษัทได้ปรับโครงสร้างธุรกิจเพื่อเพิ่มความแข็งแรงให้แก่โครงสร้างเงินทุนและเพิ่มความยืดหยุ่นทางการเงินโดยได้รับเงินประมาณ 3.9 พันล้านบาทจากการขายหุ้นบางส่วนของ TTW (หุ้นกู้.4 พันล้านบาท) ของ BMCL (ช. การช่าง.ช. การช่าง พันล้านบาท) และของ XPCL (4ทริสเรทติ้งทริสเรทติ้ง ล้านบาท) และคาดว่าจะได้รับเงินเป็นรายงวดอีก 9ช. การช่าง3 ล้านบาทจากการขายหุ้นของ TTW ภายในเดือนเมษายน หุ้นกู้558 บริษัทบันทึกกำไรรวมประมาณ 7.5 พันล้านบาทจากรายการข้างต้นและเปลี่ยนวิธีการบันทึกบัญชีมูลค่าเงินลงทุนใน TTW เป็นวิธีสะท้อนมูลค่าตลาดแทนวิธีส่วนได้ส่วนเสียเดิม บริษัทมีความยืดหยุ่นทางการเงินที่ปรับตัวดีขึ้นหลังจากที่ CKP จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ในขณะที่สถานะทางการเงินของ BMCL ก็ปรับตัวดีขึ้นหลังจากที่ BMCL ออกหุ้นเพิ่มทุน 8.55 พันล้านบาทและเปลี่ยนเงินกู้ที่ได้รับจากบริษัทมาเป็นส่วนทุนแทน ทั้งนี้ คาดว่า BMCL จะไม่จำเป็นต้องขอความช่วยเหลือทางการเงินจากบริษัทอีก
          ในช่วง 9 เดือนแรกของปี หุ้นกู้556 สถานะทางการเงินของบริษัทอยู่ในระดับตามประมาณการของทริสเรทติ้งโดยบริษัทมีรายได้อยู่ที่ หุ้นกู้.5ช. การช่าง หมื่นล้านบาท ภายใต้สมมติฐานพื้นฐาน ทริสเรทติ้งคาดว่ารายได้ของบริษัทน่าจะอยู่ในระดับไม่ต่ำกว่า 3.หุ้นกู้ หมื่นล้านบาทต่อปีในช่วงปี หุ้นกู้557-หุ้นกู้559 โดยจะเป็นรายได้จากโครงการเขื่อนไซยะบุรีประมาณ 8 พันล้านถึง ช. การช่าง หมื่นล้านบาทต่อปี ทั้งนี้ งานรับเหมาก่อสร้างในมือจำนวนมากที่บริษัทมีอยู่ในปัจจุบันคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 8ทริสเรทติ้ง% ของประมาณการรายได้ บริษัทมีอัตราส่วนกำไร (อัตราส่วนกำไรจากการดำเนินงานก่อนค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายต่อรายได้) ในช่วง 9 เดือนแรกของปี หุ้นกู้556 อยู่ที่ 7.8% โดยคาดว่าอัตราส่วนกำไรเฉลี่ยของบริษัทจะอยู่ที่ระดับสูงกว่า 5% ในช่วง 3 ปีข้างหน้า
          ทริสเรทติ้งมองว่าภาระหนี้ของบริษัทอยู่ในระดับที่สอดคล้องกับอันดับเครดิตในปัจจุบันแม้ว่าบริษัทจะมีภาระหนี้สูงกว่าค่าเฉลี่ยของผู้รับเหมาที่ได้รับอันดับเครดิตเท่ากัน ทั้งนี้ เนื่องจากโครงสร้างทางธุรกิจของบริษัทเป็นทั้งผู้รับเหมาและประกอบธุรกิจลงทุน โดย ณ สิ้นเดือนกันยายน หุ้นกู้556 อัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนของบริษัทปรับตัวดีขึ้นมาอยู่ที่ 67.3% จากระดับ 77.ทริสเรทติ้ง% ณ สิ้นปี หุ้นกู้555 อัตราส่วนเงินกู้รวมที่ปรับตัวดีขึ้นเป็นผลมาจากส่วนของผู้ถือหุ้นที่เพิ่มสูงขึ้นจากกำไรจากการขายหุ้นและการเปลี่ยนวิธีการบันทึกบัญชีมูลค่าเงินลงทุนใน TTW เป็นวิธีสะท้อนมูลค่าตลาด อย่างไรก็ตาม เงินกู้รวมของบริษัทยังคงเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจาก หุ้นกู้.86 หมื่นล้านบาท ณ สิ้นปี หุ้นกู้555 มาอยู่ที่ 3.4ช. การช่าง หมื่นล้านบาท ณ สิ้นเดือนกันยายน หุ้นกู้556 เนื่องมาจากเงินทุนหมุนเวียนและค่าใช้จ่ายฝ่ายทุนสำหรับโครงการเขื่อนไซยะบุรีเป็นหลัก ในช่วงไตรมาสข้างหน้า 
          ทริสเรทติ้งคาดว่ามูลค่าลูกหนี้ที่ยังไม่ได้เรียกชำระของบริษัทจะลดลงอย่างมีนัยสำคัญจากการที่ XPCL จะเร่งเรียกชำระค่าหุ้นเพิ่มทุนและเบิกเงินกู้เพื่อชำระคืนต้นทุนก่อสร้างโครงการไซยะบุรีที่บริษัทลงทุนไปล่วงหน้า ต้นทุนก่อสร้างล่วงหน้าดังกล่าวทำให้ลูกหนี้ที่ยังไม่ได้เรียกชำระของบริษัทเพิ่มสูงขึ้นจาก ช. การช่าง หมื่นล้านบาทในปี หุ้นกู้555 เป็น ช. การช่าง.4หุ้นกู้ หมื่นล้านบาท ณ สิ้นเดือนกันยายน หุ้นกู้556 ทริสเรทติ้งคาดว่าอัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุน (ไม่รวมเงินกู้เพื่อโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วงสัญญาที่ 4) ของบริษัทจะอยู่ในระดับที่ต่ำกว่า 67% ในช่วง 3 ปีข้างหน้า
          ในช่วงปี 2557-2559 เงินทุนจากการดำเนินงาน (รวมเงินปันผลจาก BECL และ TTW) ของบริษัทคาดว่าจะอยู่ในระดับไม่ต่ำกว่า 1.7 พันล้านบาทต่อปี ซึ่งน่าจะเพียงพอสำหรับค่าใช้จ่ายฝ่ายทุนประมาณ 1 พันล้านบาทต่อปีและแผนลงทุนใน XPCL ประมาณ 800-1,000 ล้านบาทต่อปี ณ สิ้นเดือนกันยายน 2556 เงินลงทุนในหลักทรัพย์จดทะเบียนของบริษัทมีมูลค่ายุติธรรมที่ 1.8 หมื่นล้านบาท หรือประมาณ 54% ของภาระหนี้รวมของบริษัท ทั้งนี้ บริษัทมีเงินสดในมือและเงินลงทุนในหลักทรัพย์ระยะสั้นอยู่ที่ 8 พันล้านบาทและมีหนี้ระยะยาวที่จะถึงกำหนดชำระใน 12 เดือนข้างหน้าจำนวน 1.12 หมื่นล้านบาท โดยหนี้ดังกล่าวคาดว่าจะชำระคืนด้วยกระแสเงินสดจากโครงการก่อสร้างหรือจากการออกหุ้นกู้ชุดใหม่ 

          บริษัท ช. การช่าง จำกัด (มหาชน) (CK)
          อันดับเครดิตองค์กร: BBB+
          อันดับเครดิตตราสารหนี้:
          CK142A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 883.8 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2557 BBB+
          CK143A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 1,100 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2557 BBB+
          CK154A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 2,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2558 BBB+
          CK167A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 2,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2559 BBB+
          CK174A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 2,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2560 BBB+
          CK187A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 1,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2561 BBB+
          CK193A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 4,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2562 BBB+
          หุ้นกู้ไม่มีประกันในวงเงินไม่เกิน 3,000 ล้านบาท ไถ่ถอนภายในปี 2563 BBB+
          แนวโน้มอันดับเครดิต: Positive

ข่าวทริสเรทติ้ง+ช. การช่างวันนี้

กลุ่มทิสโก้ แจ้งผลประกอบการไตรมาส 1/2568 กำไรสุทธิ 1,643 ล้านบาท ลดลง 5.2%

กลุ่มทิสโก้ เผยผลประกอบการไตรมาส 1/2568 กำไรสุทธิ 1,643 ล้านบาท ลดลง 5.2% จากปีก่อน สะท้อนภาวะเศรษฐกิจที่ยังคงเปราะบาง ขณะที่สถานะการเงินยังคงแข็งแกร่ง โดยกลุ่มทิสโก้ และ ธนาคารทิสโก้ ได้รับการเพิ่มอันดับเครดิตองค์กรจาก ทริสเรทติ้ง เป็นระดับ "A" และ "A+" ตามลำดับ นายศักดิ์ชัย พีชะพัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มทิสโก้ (Mr. Sakchai Peechapat, Group Chief Executive, TISCO Financial Group Public Company Limited) เปิดเผยว่า เศรษฐกิจไทยในช่วงไตรมาสแรกของปี 2568 เผชิญกับความท้าทายจากหลายปัจจัยทั้ง

เคทีซีได้รับการปรับเพิ่มอันดับเครดิตองค์ก... เคทีซียิ้มรับเรตติ้งใหม่ "AA" จากการจัดอันดับองค์กรโดยทริสเรตติ้ง รุกธุรกิจโตต่ออย่างยั่งยืน — เคทีซีได้รับการปรับเพิ่มอันดับเครดิตองค์กรและตราสารหนี้จากท...

สะท้อนโครงสร้างหนี้ที่แข็งแกร่งขึ้น เสถีย... "CKPower" ได้รับการปรับเพิ่มอันดับเครดิตหุ้นกู้ เป็น "A-" จาก "BBB+" โดยทริสเรทติ้ง — สะท้อนโครงสร้างหนี้ที่แข็งแกร่งขึ้น เสถียรภาพทางการเงินและกลุ่มโรงไฟ...

ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ เตรียมขายหุ้นกู้ 2... ORI เสนอขายหุ้นกู้ 2 รุ่น ชูดอกเบี้ย 5.20% - 5.50% ต่อปี ระหว่างวันที่ 1-2 และ 10-11 เม.ย.นี้ — ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ เตรียมขายหุ้นกู้ 2 รุ่น อัตราดอกเบี...

IRPC เตรียมเสนอขายหุ้นกู้และหุ้นกู้ดิจิทั... IRPC เตรียมเสนอขายหุ้นกู้และหุ้นกู้ดิจิทัล ให้แก่ผู้ลงทุนประชาชนทั่วไป — IRPC เตรียมเสนอขายหุ้นกู้และหุ้นกู้ดิจิทัล ให้แก่ผู้ลงทุนประชาชนทั่วไป อายุหุ้นกู...

บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ห... SENA เตรียมเสนอขายหุ้นกู้ชุดใหม่ เสริมความแข็งแกร่งและต่อยอดธุรกิจ ปี 2568 — บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ "SENA" พร้อมรุกธุรกิจปี 2568 เดิ...