บีโอไอมั่นใจ จับคู่ธุรกิจ ไทย-จีน ชื่นมื่น ทัพธุรกิจจีนเล็งกลุ่มทุนจากซานตงลงทุนในไทย

          บีโอไอผนึกกำลังมณฑลซานตง สาธารณรัฐประชาชนจีน และสภาส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศแห่งมณฑลซานตง จัดสัมมนาโอกาสการลงทุนในไทย พร้อมกิจกรรมจับคู่ธุรกิจ เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มอุตสาหกรรมยางพาราตามนโยบายรัฐบาล ด้านจีนแนะภาครัฐภาคเอกชนของสองประเทศต้องร่วมมือจริงจัง 
          นางสาวอัจฉรินทร์ พัฒนพันธ์ชัย ที่ปรึกษาด้านการลงทุน สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือ บีโอไอ เปิดเผยภายในงานสัมมนาและการเจรจาจับคู่ธุรกิจ ระหว่างนักลงทุนจากมณฑลซานตง สาธารณรัฐประชาชนจีน กว่า 5สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน ราย กับนักธุรกิจไทย ในหัวข้อสัมมนา การเจรจาจับคู่ธุรกิจการเจรจาจับคู่ธุรกิจสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน;การเจรจาเพื่อความร่วมมือด้านเศรษฐกิจการค้าและการลงทุน ระหว่างมณฑลซานตงกับประเทศไทยการเจรจาจับคู่ธุรกิจการเจรจาจับคู่ธุรกิจอัจฉรินทร์ พัฒนพันธ์ชัย; ว่า ภาคธุรกิจและภาครัฐของไทยและจีน ได้ร่วมมือกันสร้างโอกาสในด้านการค้าการลงทุนร่วมกันมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งการจัดงานสัมมนาและเจรจาธุรกิจระหว่างนักธุรกิจไทยและนักธุรกิจจากมณฑลซานตงจากจีนในครั้งนี้ จะเป็นโอกาสดีที่ทำให้นักธุรกิจของทั้งสองประเทศได้รับทราบข้อมูล และมองเห็นโอกาสความร่วมมือเชื่อมโยงธุรกิจร่วมกัน รวมถึงกระตุ้นให้นักธุรกิจจากมณฑลซานตงตัดสินใจเข้ามาลงทุนในประเทศไทยเพิ่มมากยิ่งขึ้นในอนาคต 
          ทั้งนี้ที่ผ่านมา บีโอไอเล็งเห็นศักยภาพของภาคอุตสาหกรรมในมณฑลซานตงอย่างมาก เนื่องจากเป็นมณฑลที่มีความสำคัญต่อเศรษฐกิจของประเทศจีน โดยเฉพาะเมืองชิงเต่าของมณฑลซานตงนับว่าเป็นเมืองท่าที่ใหญ่และสำคัญอันดับที่ 4 ของประเทศจีน ขณะที่มณฑลซานตงเองยังมีชื่อเสียงทางด้านการเป็นศูนย์กลางของอุตสาหกรรมยางพารา และแหล่งนำเข้ายางพาราที่สำคัญของไทย ปัจจุบันมีผู้ประกอบการจากมณฑลซานตงในกลุ่มผลิตยางล้อรถยนต์ที่เข้ามาลงทุนในประเทศไทยแล้ว อาทิ บริษัท หลิงหลง ไทร์ จำกัด 
          การเจรจาจับคู่ธุรกิจการเจรจาจับคู่ธุรกิจสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน;ศักยภาพของภาคอุตสาหกรรมของมณฑลซานตง โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ยางแปรรูป สอดคล้องกับเป้าหมายของบีโอไอและนโยบายของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ผลักดันให้มีการลงทุนในอุตสาหกรรมการผลิตที่ช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มสูงจากยางธรรมชาติ โดยนับเป็นวาระสำคัญของรัฐบาล ซึ่งคาดว่างานนี้จะก่อให้เกิดความร่วมมือทางธุรกิจของนักธุรกิจจากทั้ง การเจรจาจับคู่ธุรกิจ ประเทศในด้านดังกล่าวมากยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตามภายในงานยังมีนักธุรกิจจากอีกหลายกลุ่มที่เข้าร่วมเจรจาหาลู่ทางลงทุนกับนักธุรกิจไทย อาทิ อุตสาหกรรมเครื่องจักร และอุปกรณ์ อุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วน ซึ่งคาดว่าจะเป็นกลุ่มที่ได้เล็งเห็นศักยภาพและโอกาสในการเข้ามาลงทุนในประเทศไทยในอนาคตด้วยเช่นกันการเจรจาจับคู่ธุรกิจการเจรจาจับคู่ธุรกิจอัจฉรินทร์ พัฒนพันธ์ชัย; นางสาวอัจฉรินทร์ กล่าว 
          ด้านนายเฉิน กวง รองประธานสภาที่ปรึกษาทางการเมืองของจีน (Chinese Peopleการเจรจาจับคู่ธุรกิจอัจฉรินทร์ พัฒนพันธ์ชัย7;s Political Consultative Conference: CPPCC) กล่าวว่า ปัจจุบัน ประเทศจีนกำลังขับเคลื่อนยุทธศาสตร์เส้นทางสายไหมแห่งศตวรรษที่ การเจรจาจับคู่ธุรกิจอัจฉรินทร์ พัฒนพันธ์ชัย เพื่อเสริมสร้างความร่วมมือภาคเศรษฐกิจการค้ากับประเทศเพื่อนบ้าน และกิจกรรมระหว่างมณฑลซานตงกับประเทศไทยในครั้งนี้ ถือเป็นส่วนหนึ่งภายใต้ยุทธศาสตร์ "แถบเศรษฐกิจและเส้นทางสายไหม" ซึ่งจะช่วยพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศอย่างมีเสถียรภาพ และส่งเสริมการสร้างกลไกความร่วมมือทั้งระดับภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคการลงทุน และภาคการท่องเที่ยว 
          การเจรจาจับคู่ธุรกิจการเจรจาจับคู่ธุรกิจสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน;เราได้รับการมอบหมายจากรัฐบาลมณฑลซานตงให้นำคณะผู้แทนการค้าและการลงทุนจากมณฑลซานตงมาเยือนประเทศไทย เพื่อสนับสนุนให้เกิดความร่วมมือภาคการผลิตระหว่างมณฑลซานตงกับประเทศไทยอย่างจริงจัง โดยเฉพาะการสนับสนุนให้ภาคอุตสาหกรรมชั้นนำของมณฑลซานตงมาลงทุนในประเทศไทย ผู้ประกอบการชั้นนำในมณฑลซานตงที่มาร่วมงานวันนี้ มีความพร้อมที่จะเข้ามาลงทุน เช่น อุตสาหกรรมผลิตล้อยางรถยนต์จากยางพารา มณฑลซานตงเป็นแหล่งผลิตล้อยางรถยนต์ที่มีปริมาณผลผลิตมากที่สุดในประเทศจีน คิดเป็น 4สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน% ของปริมาณผลผลิตทั่วประเทศจีน ในขณะที่ประเทศไทยมีแหล่งผลิตยางพาราที่สำคัญที่สุดในโลก ดังนั้น จึงมีโอกาสที่จะเกิดความร่วมมือกับไทยอย่างมากการเจรจาจับคู่ธุรกิจการเจรจาจับคู่ธุรกิจอัจฉรินทร์ พัฒนพันธ์ชัย; นายเฉิน กวง กล่าว
          นอกจากนี้ รองประธานสภาที่ปรึกษาทางการเมืองของจีน ยังกล่าวด้วยว่า อยากให้หน่วยงานภาครัฐที่ดูแลด้านการส่งเสริมการค้าและการลงทุนของทั้งสองฝ่าย ร่วมมือกันสร้างกลไกความร่วมมือระหว่างองค์กรภาคเศรษฐกิจการค้าการลงทุน โดยคณะกรรมการส่งเสริมการค้าและการลงทุนแห่งมณฑลซานตง (CCPIT) และหอการค้าสากลมณฑลซานตง กับบีโอไอและหอการค้าไทยจีน ควรสร้างกลไกความร่วมมือเพื่อให้เกิดการประสานงานอย่างใกล้ชนิด และร่วมกันแก้ไขปัญหาอุปสรรคต่างๆ ที่เกิดขึ้นในความร่วมมือภาคธุรกิจการค้า 
          รวมทั้งอยากให้ช่วยกันสนับสนุนให้เกิดความร่วมมือในนิคมอุตสาหกรรมของทั้งสองฝ่าย ซึ่งมณฑลซานตงมีศักยภาพในอุตสาหกรรมล้อยางรถยนต์ การแปรรูปผลผลิตภาคการเกษตร การประมงในทะเลและภาคอุตสาหกรรมแปรรูปต่างๆ และจะสนับสนุนให้ผู้ประกอบการจัดตั้งเป็นกลุ่มก้อน เพื่อเข้ามาพัฒนาสร้างนิคมอุตสาหกรรมในประเทศไทย 
          สำหรับมณฑลซานตง ถือเป็นมณฑลที่มีความสำคัญด้านเศรษฐกิจ วัฒนธรรมและการท่องเที่ยวในภาคตะวันออกติดแนวชายฝั่งทะเลทางเหนือของประเทศจีน และเป็นมณฑลใหญ่ที่มีบทบาทสำคัญภาคเศรษฐกิจ มีประชากรมากถึง 96 ล้านคน ในปี การเจรจาจับคู่ธุรกิจสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนอัจฉรินทร์ พัฒนพันธ์ชัยการค้าระหว่างประเทศ มณฑลซานตงมีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ(จีดีพี) สูงถึง 8.8 แสนล้านเหรียญสหรัฐ ถือว่าเป็นตลาดที่มีศักยภาพสูง ขณะเดียวกัน มณฑลซานตงมีปริมาณผลผลิตและการส่งออกมากติดอันดับต้นๆ ของประเทศ โดยเฉพาะอุตสาหกรรมเครื่องจักรเครื่องยนต์ เคมีภัณฑ์ วัสดุก่อสร้าง อาหารแปรรูป และล้อยางรถยนต์ที่ผลิตจากยางพารา ซึ่งมีศักยภาพออกไปลงทุนในต่างประเทศ
          ที่ผ่านมา ประเทศไทยมีสัดส่วนการค้ากับมณฑลซานตงมากเป็นอันดับต้นๆ ในกลุ่มประเทศอาเซียน และขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ในปี การเจรจาจับคู่ธุรกิจสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนอัจฉรินทร์ พัฒนพันธ์ชัยการค้าระหว่างประเทศ มณฑลซานตงมีปริมาณการค้ากับไทย มูลค่ารวม 6,85สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัว การเจรจาจับคู่ธุรกิจ% เมื่อเทียบกับปีก่อน ซึ่งมณฑลซานตงนำเข้าสินค้าไทยที่สำคัญประกอบด้วยยางพารา อาหาร (ข้าว) พลาสติก เครื่องจักรและอุปกรณ์ ผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์และเครื่องใช้ไฟฟ้า ผลิตภัณฑ์สิ่งทอ ฯลฯ 
          ส่วนสินค้าที่ไทยนำเข้าจากมณฑลซานตงรายการหลักๆ ประกอบด้วย ผลิตภัณฑ์สิ่งทอ เครื่องจักรและเครื่องมือ เหล็กกล้า เครื่องใช้ไฟฟ้าและผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์ ยาฆ่าแมลง ผลไม้แห้งและผลไม้เปลือกแข็ง ล้อยางรถยนต์ชนิดใหม่ และผักสด 
          ขณะที่ภาคการลงทุนของทั้งสองฝ่าย ยังคงมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง สิ้นปี การเจรจาจับคู่ธุรกิจสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนอัจฉรินทร์ พัฒนพันธ์ชัยการเจรจาจับคู่ธุรกิจ มีผู้ประกอบการไทย การค้าระหว่างประเทศ7 รายเข้ามาลงทุนในซานตง และในปี การเจรจาจับคู่ธุรกิจสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนอัจฉรินทร์ พัฒนพันธ์ชัยการค้าระหว่างประเทศ รัฐบาลมณฑลซานตงได้อนุมัติให้ผู้ประกอบการไทย เข้ามาลงทุนเพิ่มในอีก 5 โครงการ ในปี การเจรจาจับคู่ธุรกิจสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนอัจฉรินทร์ พัฒนพันธ์ชัยการเจรจาจับคู่ธุรกิจ ทางรัฐบาลมณฑลซานตงได้อนุมัติให้ผู้ประกอบการของซานตงรวม การเจรจาจับคู่ธุรกิจ รายมาลงทุนในประเทศไทย และในปีที่แล้ว ได้อนุมัติให้ผู้ประกอบการซานตงมาตั้งบริษัทในประเทศไทยรวม 4 ราย


ข่าวสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน+อัจฉรินทร์ พัฒนพันธ์ชัยวันนี้

OMODA & JAECOO ผนึกกำลัง BOI จัดงาน OMODA & JAECOO Sourcing Day เฟ้นหาผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ไทย มุ่งพัฒนาระบบนิเวศยานยนต์ไทยสู่ระดับโลก

OMODA & JAECOO (โอโมด้า แอนด์ เจคู่) ภายใต้บริษัท Chery Automobile ผู้นำเทคโนโลยียานยนต์ชั้นนำระดับโลก ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) จัดงาน "Sourcing Day" เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการไทยได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์สมัยใหม่ พร้อมรับทราบนโยบายการจัดซื้อและเข้าร่วมการเจรจาธุรกิจโดยตรงกับบริษัทฯ โดยได้รับเกียรติจากนายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) และนายฉี เจี๋ย ประธาน บริษัท โอโมดา แอนด์ เจคู (ประเทศไทย) ร่วมเป็นประธานในพิธี

สกสว. เครือข่ายเศรษฐกิจและนวัตกรรม เปิดเว... สกสว. - เครือข่ายเศรษฐกิจและนวัตกรรม เปิดเวทีระดมความเห็นแผนยุทธศาสตร์ — สกสว. เครือข่ายเศรษฐกิจและนวัตกรรม เปิดเวทีระดมความเห็นแผนยุทธศาสตร์ อุตฯ เซมิคอน...

นายนฤชา ฤชุพันธุ์ ที่ปรึกษาด้านการลงทุน ส... บีโอไอต้อนรับสมาคมการจัดการธุรกิจแห่งประเทศญี่ปุ่น (JMA) — นายนฤชา ฤชุพันธุ์ ที่ปรึกษาด้านการลงทุน สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) (ที่ 6 จากซ...