กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ(สบส.) กระทรวงสาธารณสุข ส่งอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน(อสม.) ลงพื้นที่ แนะวิธีการปฏิบัติตนเฝ้าระวังสุขภาพในกลุ่มเสี่ยงโดยเฉพาะเด็ก ผู้สูงอายุ และผู้มีโรคประจำตัว ย้ำมาตรการ 3 อ กระทรวงสาธารณสุข ส. ป้องกัน การเกิดโรคที่มากับช่วงฤดูหนาวให้มีสุขภาพดี
นาวาอากาศตรีนายแพทย์บุญเรือง ไตรเรืองวรวัฒน์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กล่าวว่า ในช่วงเดือนธันวาคมถึงเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปีเป็นช่วงที่เข้าสู่ฤดูหนาวสภาพอากาศเปลี่ยนแปลง อาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน โดยเฉพาะในกลุ่มเสี่ยง คือกลุ่มเด็ก กลุ่มผู้สูงอายุและผู้มีโรคประจำตัว ซึ่งในช่วงปีที่ผ่านมาระหว่างเดือนตุลาคม กระทรวงสาธารณสุข556-กุมภาพันธ์ กระทรวงสาธารณสุข557 มีประชาชนได้รับผลกระทบจากอากาศหนาวกว่า กระทรวงสาธารณสุข5 ล้านคน ใน 45 จังหวัด และมีผู้เสียชีวิต จำนวน กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ47 ราย โดยโรคที่พบบ่อยได้แก่ โรคไข้หวัด โรคไข้หวัดใหญ่ โรคปอดบวม โรคหัด โรคหัดเยอรมัน โรคอีสุกอีใส และโรคอุจจาระร่วงในเด็กเล็ก รวมไปถึงความหลงเชื่อว่าการดื่มสุราแก้หนาวซึ่งเป็นอันตรายอาจเสียชีวิตได้ กรมสบส.มีความห่วงใยสุขภาพของประชาชน โดยมอบให้สำนักงานสนับสนุนบริการสุขภาพเขต ทั้ง กรมสนับสนุนบริการสุขภาพกระทรวงสาธารณสุข เขตทั่วประเทศ กำชับให้อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน(อสม.) ที่ปฏิบัติตนในพื้นที่เพิ่มให้คำแนะนำแก่ประชาชนในการปฏิบัติตนให้ห่างไกลโรคที่มาพร้อมกับฤดูหนาว โดยใช้มาตรการ 3 อ. กระทรวงสาธารณสุข ส. คือ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ. อ.อาหาร ด้วยการเลือกรับประทานอาหารที่มีสารอาหารครบทั้ง 5 หมู่ ควรรับประทานอาหารปรุงสุกใหม่ๆ ควรหลีกเลี่ยงอาหารสุกๆ ดิบๆ สำหรับอาหารค้างคืนควรอุ่นให้ร้อนจัดก่อนรับประทานทุกครั้ง ดื่มน้ำที่สะอาด เช่น น้ำต้มสุก น้ำที่ผ่านเครื่องกรองที่ได้มาตรฐานและเลือกรับประทานน้ำแข็งที่สะอาดถูกหลักอนามัย กระทรวงสาธารณสุข. อ.ออกกำลังกาย ควรออกกำลังกายให้ร่างกายแข็งแรงอย่างน้อยสัปดาห์ละ 3 วันๆ ละ 3บุญเรือง ไตรเรืองวรวัฒน์ นาที รักษาร่างกายให้อบอุ่นอยู่เสมอ เมื่ออากาศเย็นจัดหรือชื้นจัด หากต้องคลุกคลีกับผู้ป่วยควรสวมหน้ากากอนามัย หรือใช้ผ้าปิดปากและจมูก ล้างมือบ่อยๆ เมื่อต้องสัมผัสกับผู้ป่วยเพื่อลดการแพร่กระจายของเชื้อโรค และ 3. อ.อารมณ์ ทำจิตใจให้แจ่มใสอยู่เสมอ รวมทั้งพักผ่อนให้พอเพียงวันละ 6-8 ชั่วโมง กระทรวงสาธารณสุข ส. คือไม่สูบบุหรี่ และไม่ดื่มสุรา พบว่าประชาชนส่วนใหญ่มีความเชื่อที่ผิดว่า สุราจะช่วยเพิ่มความอบอุ่นให้แก่ร่างกายสามารถแก้หนาวได้ วิธีนี้ไม่ถูกต้องเพราะฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ไม่ได้สร้างความอบอุ่นให้แก่ร่างกาย แต่จะทำให้ร่างกายสูญเสียความร้อนและกดประสาททำให้ง่วงซึมและหมดสติได้โดยไม่รู้ตัวหรือหากมีโรคประจำตัวเสี่ยงต่อการเสียชีวิตได้
นอกจากนี้ นต.นพ.บุญเรืองฯ กล่าวย้ำว่า ในช่วงเทศกาลปีใหม่ที่ใกล้เข้ามาประชาชนมักจะรับประทานอาหาร ประเภท อาหารมัน ทอด ปิ้งย่าง และขนมหวานพร้อมกับดื่มสุรา ซึ่งมักจะรับประทานในช่วงกลางคืนซึ่งพฤติกรรมเหล่านี้ส่งผลเสียต่อร่างกายและอาจเกิดโรคตามมาเช่น โรคอ้วน โรคกรดไหลย้อน ดังนั้นควรเลือกรับประทานอาหารที่มีคุณค่าต่อร่างกาย ให้คำนึงถึงผลเสีย เป็นหลัก เพื่อการรักษาสุขภาพที่ดีเป็นของขวัญให้แก่ตนเองและครอบครัวในปีใหม่นี้
กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ เผยพฤติกรรมสุขภาพประชาชนอายุ 15 ปีขึ้นไป ในปี 2558 พบตื่นตัวป้องกันโรคติดต่อดีขึ้น ใช้ช้อนกลาง ล้างมือฟอกสบู่หลังใช้ส้วม ก่อนกินอาหารทุกครั้งเพิ่ม 6-20 เท่าตัว ส่วนพฤติกรรมการป้องกันโรคไม่ติดต่อ กว่าร้อยละ 80 ใส่ใจสุขภาพ พบแพทย์ แต่ต้องเพิ่มการกินผักผลไม้ ออกกำลังกาย ส่วนการดื่มสุรา สูบบุหรี่พบมีอัตราเพิ่มขึ้น นักสูบกว่าครึ่งเริ่มอัดบุหรี่ภายในครึ่งชั่วโมงหลังตื่นนอน นาวาอากาศตรีนายแพทย์บุญเรือง ไตรเรืองวรวัฒน์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (กรมสบส.) กระทรวงสาธารณสุข
กรมสบส.สร้าง “1.7 แสนอสม.ต้านโกง” ผุดล้านเครือข่ายคนดีต้นแบบชุมชนเป็นสุนัขเฝ้าบ้าน ปี59
—
กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข ร่วมมือกับสำนักงานป.ป.ช...
สบส. ขยายเวลาโครงการ “1 อสม. ขอ 1 คนเลิกสูบบุหรี่” ตลอดปี 59 คาดลดนักสูบหน้าใหม่ ร้อยละ 80
—
กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) กระทรวงสาธารณสุข ติดตามการดำเน...
สบส.ลงพื้นที่ตรวจสอบมาตรการรองรับผู้ป่วยโรคไวรัสเมอร์สในโรงพยาบาลเอกชน เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประเทศไทยในการรับมือโรคไวรัสเมอร์ส
—
กรมสนับสนุนบริการสุข...
สบส. เน้น 3 มาตรการในโรงพยาบาลเอกชนและคลินิก เตรียมความพร้อมรับมือการแพร่ระบาดโรคเมอร์สในประเทศไทย
—
กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) กระทรวงสาธารณสุข ร่วมก...
สบส.เตือนภัยโรคลมแดด ย้ำอสม.เฝ้าระวังกลุ่มเสี่ยงโดยเฉพาะผู้สูงอายุ แนะวิธีคลายร้อนแบบถูกวิธี
—
กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส) กระทรวงสาธารณสุข แนะประชาชนรั...