ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตองค์กร “บล. เพื่อธุรกิจหลักทรัพย์” ที่ “BB+” และปรับแนวโน้ม เป็น “Positive” จาก “Stable”

          ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตองค์กรของ บริษัท หลักทรัพย์ เพื่อธุรกิจหลักทรัพย์ จำกัด (มหาชน) ที่ระดับ ̶ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย;BB+̶เพื่อธุรกิจหลักทรัพย์; และปรับแนวโน้มอันดับเครดิตจาก ̶ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย;Stable̶เพื่อธุรกิจหลักทรัพย์; หรือ ̶ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย;คงที̶่เพื่อธุรกิจหลักทรัพย์; เป็น ̶ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย;Positive̶เพื่อธุรกิจหลักทรัพย์; หรือ ̶ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย;บวก̶เพื่อธุรกิจหลักทรัพย์; โดยอันดับเครดิตสะท้อนถึงความแข็งแกร่งของฐานทุน ตลอดจนความยืดหยุ่นทางการเงินที่เพิ่มขึ้น การปรับปรุงระบบบริหารความเสี่ยงด้านเครดิตขององค์กรอย่างต่อเนื่อง และการสนับสนุนทางการเงินจากผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัท คือ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ต.ล.ท.) อย่างไรก็ตาม อันดับเครดิตได้รับแรงกดดันจากภาวะการแข่งขันที่ทวีความรุนแรงในธุรกิจหลักของบริษัท คือ สินเชื่อเพื่อซื้อหลักทรัพย์ รวมถึงความเสี่ยงจากความผันผวนของตลาดหลักทรัพย์ของไทยและความสามารถในการทำกำไรที่ค่อนข้างอ่อนแอของบริษัท การพิจารณาอันดับเครดิตยังคำนึงถึงนโยบายของบริษัทในการทยอยให้สินเชื่อเพื่อเสริมสภาพคล่องระยะสั้นแก่บริษัทหลักทรัพย์ด้วย ทั้งนี้ ความสำเร็จของธุรกิจดังกล่าวยังเป็นสิ่งที่ต้องรอการพิสูจน์ต่อไป ในขณะที่แนวโน้มอันดับเครดิต ̶ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย;Positive̶เพื่อธุรกิจหลักทรัพย์; หรือ ̶ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย;บวก̶เพื่อธุรกิจหลักทรัพย์; สะท้อนถึงความคาดหมายของทริสเรทติ้งว่าภาวะตลาดหลักทรัพย์จะมีการเคลื่อนไหวในแนวโน้มที่คงที่และไม่มีปัจจัยเสี่ยงที่นอกเหนือจากความคาดหมายในระยะ 3-5 ปีข้างหน้า โดยที่บริษัทยังคงรักษาผลประกอบการและฐานะทางการตลาดในธุรกิจสินเชื่อเพื่อซื้อหลักทรัพย์ต่อไปได้ นอกจากนี้ ทริสเรทติ้งยังคาดว่าสินเชื่อเพื่อเสริมสภาพคล่องให้แก่ธุรกิจหลักทรัพย์จะสามารถสร้างผลกำไรให้แก่บริษัทในอนาคตได้ตามแผนโดยที่บริษัทจะยังคงได้รับการสนับสนุนจาก ต.ล.ท. อย่างต่อเนื่องต่อไป
          ภายหลังจากการเพิ่มทุนในเดือนกรกฎาคม 2557 บริษัทก็มีเงินทุนที่แข็งแกร่งขึ้น โดยในวันที่ 22 กรกฎาคม 2557 บริษัทได้เพิ่มทุนจำนวน 532 ล้านบาทโดยวิธีเฉพาะเจาะจง (Private Placement) จากผู้ถือหุ้นรายใหญ่ ได้แก่ ต.ล.ท. กระทรวงการคลัง และธนาคารออมสิน ทำให้ทุนจดทะเบียนของบริษัทเพิ่มขึ้นจาก เพื่อธุรกิจหลักทรัพย์,ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเพื่อธุรกิจหลักทรัพย์6 ล้านบาทเป็น เพื่อธุรกิจหลักทรัพย์,549 ล้านบาท โดย ต.ล.ท. เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดในสัดส่วน 4ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย.65% ตามด้วยกระทรวงการคลัง เพื่อธุรกิจหลักทรัพย์ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย.56% และธนาคารออมสิน 9.5% นอกจากนี้ ยังมีผู้ถือหุ้นอื่น ได้แก่ ธนาคารพาณิชย์ต่าง ๆ เพื่อธุรกิจหลักทรัพย์เพื่อธุรกิจหลักทรัพย์.89% บริษัทหลักทรัพย์ เพื่อธุรกิจหลักทรัพย์ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย.9% บริษัทจัดการกองทุน 9.7% บริษัทประกัน 2.82% และอื่น ๆ อีก ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย.ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย3% อัตราส่วนของผู้ถือหุ้นของบริษัทต่อสินทรัพย์รวมแข็งแกร่งขึ้นจาก 29.3% ในปี 2552 เป็น 53.เพื่อธุรกิจหลักทรัพย์% ณ เดือนกันยายน 2557
          บริษัทได้รับผลกระทบอย่างหนักจากวิกฤติการเงินเมื่อปี 255เพื่อธุรกิจหลักทรัพย์ จากการหักขาดทุนที่ยังไม่รับรู้จากการลงทุนในหลักทรัพย์เผื่อขาย ภายหลังจากการปรับโครงสร้างหนี้ในปี 2552 ผลการดำเนินงานของบริษัทก็ยังไม่ฟื้นตัวตามที่คาดการณ์ไว้ ทั้งนี้ สาเหตุมาจากความสามารถในการแข่งขันที่ลดลงในธุรกิจสินเชื่อเพื่อซื้อหลักทรัพย์ อย่างไรก็ตาม ผลการดำเนินงานของบริษัทปรับตัวดีขึ้นตั้งแต่ปี 2556 และแข็งแกร่งกว่าที่ทริสเรทติ้งคาดการณ์ไว้ ซึ่งฐานทุนที่แข็งแกร่งขึ้นของบริษัทจะช่วยสนับสนุนการขยายธุรกิจตามแผน โดยบริษัทสามารถทำกำไรจำนวน 25 ล้านบาทในปี 2556 และต่อเนื่องเป็น 23 ล้านบาทในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2557
          ณ เดือนกันยายน 2557 บริษัทมีสินทรัพย์รวมจำนวน 3,ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย46 ล้านบาท ซึ่งคิดเป็นเงินให้สินเชื่อเพื่อซื้อหลักทรัพย์ในสัดส่วน 94% หรือ 2,875 ล้านบาท บริษัทยังคงเผชิญกับความท้าทายในธุรกิจหลักด้วยเหตุผล 2 ประการ ได้แก่ ความไม่แน่นอนของปัจจัยแวดล้อมในการดำเนินธุรกิจและความท้าทายในตลาดหลังจากที่บริษัทกลับเข้าสู่ธุรกิจการให้สินเชื่อเพื่อซื้อหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์อื่น ๆ ได้ขยายพอร์ตสินเชื่อเพื่อซื้อหลักทรัพย์อย่างรวดเร็วในระหว่างปี 2553 ถึงเดือนกันยายน 2557 ซึ่งทำให้ขนาดของสินเชื่อเพื่อซื้อหลักทรัพย์ของทั้งอุตสาหกรรมขยายตัวจาก เพื่อธุรกิจหลักทรัพย์6,ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ล้านบาทในปี 2552 เป็น 56,ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ล้านบาท ณ เดือนกันยายน 2557 ผลกระทบจากวิกฤติการเงินเมื่อปี 2552 ทำให้พอร์ตสินเชื่อเพื่อซื้อหลักทรัพย์ของบริษัทลดลงอย่างอย่างมากจาก 6,377 ล้านบาทในเดือนกันยายน 255เพื่อธุรกิจหลักทรัพย์ เป็น 2,737 ล้านบาทในเดือนกันยายน 2557 ส่วนแบ่งทางการตลาดของบริษัทลดลงอย่างมากและอย่างต่อเนื่องจาก 24% ในเดือนกันยายน 255เพื่อธุรกิจหลักทรัพย์ เหลือ 5% ในเดือนกันยายน 2557 จากสาเหตุที่บริษัทมีต้นทุนทางการเงินที่สูงกว่าคู่แข่งรายอื่น ๆ
          ภายหลังการเพิ่มทุนในเดือนกรกฎาคม 2557 บริษัทก็สามารถลดต้นทุนทางการเงินให้ต่ำลงได้ โดยบริษัทได้ทำการหาแหล่งเงินกู้ระยะยาวใหม่ ๆ เพื่อนำมาจ่ายคืนเงินกู้ที่มีอัตราดอกเบี้ยสูงกว่า ปัจจุบันบริษัทมีความยืดหยุ่นทางการเงินมากขึ้นและมีต้นทุนทางการเงินที่ต่ำลง ณ เดือนกันยายน 2557 บริษัทได้รับวงเงินกู้จำนวน 53,3ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ล้านบาทจากสถาบันการเงินในประเทศหลายแห่ง
          ในด้านคุณภาพของสินทรัพย์นั้น ในปี 2556 บริษัทได้พัฒนาและใช้หลักเกณฑ์ที่เข้มงวดขึ้นในการจัดระดับของหลักทรัพย์ที่นำมาเป็นหลักประกันในการขอสินเชื่อเพื่อซื้อหลักทรัพย์ ทั้งนี้ หลักเกณฑ์ดังกล่าวช่วยสะท้อนระดับความเสี่ยงของหลักทรัพย์ที่นำมาค้ำประกันและช่วยจำกัดความเสี่ยงจากการกระจุกตัวของสินเชื่อด้วย ทริสเรทติ้งคาดว่าบริษัทจะสามารถควบคุมความเสี่ยงด้านเครดิตของลูกหนี้ได้โดยมีความเข้มงวดในการเรียกหลักประกันเพิ่ม (Margin Call) และการบังคับขาย (Force Sell) รวมทั้งคงเกณฑ์การพิจารณาสินเชื่อและหลักประกันที่เข้มงวดกวดขันต่อไป
          บริษัทมีแผนในการกลับมาทำธุรกิจให้สินเชื่อแก่บริษัทหลักทรัพย์อีกครั้งเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ในการจัดตั้งคือการให้สภาพคล่องแก่บริษัทหลักทรัพย์ อย่างไรก็ตาม การดำเนินธุรกิจดังกล่าวก็อาจสร้างความท้าทายในการบริหารความเสี่ยง นอกจากนี้ บริษัทก็ยังมีผลงานในธุรกิจดังกล่าวไม่มากนัก
??
บริษัทหลักทรัพย์ เพื่อธุรกิจหลักทรัพย์ จำกัด (มหาชน) (TSFC)
อันดับเครดิตองค์กร: BB+
แนวโน้มอันดับเครดิต: Positive


ข่าวตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย+ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศวันนี้

"เงินติดล้อ" ผนึกตลาดหลักทรัพย์ฯ แบ่งปันไอเดีย การสร้างสุขภาพทางการเงินที่ดีในองค์กร

บริษัท เงินติดล้อ จำกัด (มหาชน) หรือ TIDLOR โดย คุณมิ่งขวัญ ประเสริฐศิวพร (ที่ 2 จากขวา) ผู้จัดการ งานส่งเสริมการเรียนรู้ด้านการเงิน ร่วมเป็นวิทยากรในกิจกรรม "Happy Money Sharing: Financial Well-Being Journey 2025" จัดโดย ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เพื่อแบ่งปันประสบการณ์ส่งเสริมความรู้ทางการเงินในองค์กร แก่ผู้แทนองค์กรพันธมิตร ทั้งภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ และภาคเอกชน ทั้งหมด 28 องค์กร ให้สามารถไปปรับใช้เป็นแนวทางในการส่งเสริมความรู้ทางการเงินให้กับพนักงานในองค์กร สมาชิกในชุมชน หรือประชาชนทั่ว

มูลนิธิศูนย์สารสนเทศเครือข่ายไทย (ทีเอชนิ... THNIC จับมือ SET และ ICANN จัดงาน UA Day 2025 ใช้โดเมนและอีเมลภาษาไทย ปูทางธุรกิจไทยก้าวสู่สากล — มูลนิธิศูนย์สารสนเทศเครือข่ายไทย (ทีเอชนิค) ร่วมกับตลาดห...

นายสุรนาถ กิตติรัตนเดช ประธานเจ้าหน้าที่ฝ... RBF โชว์ศักยภาพธุรกิจ-แผนขยายตลาด ตปท. งาน "Thailand Earning Call" ปังธง ปี 68 รายได้รวม โต 10-15% — นายสุรนาถ กิตติรัตนเดช ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบัญชีและก...

นางสาวสุภากาญจน์ กิจโกศล ประธานเจ้าหน้าที... "MEDEZE" โชว์ศักยภาพธุรกิจ ในงาน Opp Day Year End 2024 — นางสาวสุภากาญจน์ กิจโกศล ประธานเจ้าหน้าที่สายบัญชีและการเงิน บริษัท เมดีซ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรื...

นพ.วิวัฒน์ กว้างคณานุรักษ์ (ซ้าย) ประธานเ... SAFE โชว์กำไรฯปี 67 แตะ 167.09 ลบ. จ่ายปันผล 0.62 บ./หุ้น — นพ.วิวัฒน์ กว้างคณานุรักษ์ (ซ้าย) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และ นางสาวชนิดา พัธโนทัย (ขวา) ประธา...

ดร.ธีรญา กฤษฎาพงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหา... "SNPS" ฉายภาพธุรกิจ งาน Opp Day โชว์กำไรปี 67 โตแรง 169% — ดร.ธีรญา กฤษฎาพงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร พร้อมด้วย นายอชิตเดช อาชาไพโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่...