“อาหารออร์แกนิค” นวัตกรรมอาหาร ที่จะเปลี่ยนโลกไปตลอดกาล

          ปัจจุบันอาหารออร์แกนิคเข้ามามีบทบาทกับชีวิตของคนมากยิ่งขึ้น ต่างจากสมัยก่อนที่มองว่าอาหารออร์แกนิคนั้นเป็นเรื่องสิ้นเปลือง แต่เมื่อเวลาผ่านไปพบว่าประโยชน์ของอาหารออร์แกนิคมีมากมายไม่ได้เป็นเพียงกระแสความนิยมหรือแฟชั่นการเลือกรับประทานอาหาร แต่เป็นเพราะคนส่วนใหญ่ให้ความสำคัญในเรื่องของการดูแลสุขภาพมากยิ่งขึ้นนั่นเอง ถึงแม้ว่าราคาจะสูงกว่าอาหารทั่วไปแต่สำหรับคนกลุ่มนี้เลือกลงทุนเพื่อสุขภาพดีกว่าการเสียเงินรักษาความเจ็บป่วยของตัวเองในอนาคต ยิ่งความสนใจเรื่องการดูแลสุขภาพมากขึ้นเท่าไร อาหารออร์แกนิคก็มีความต้องการสูงขึ้นเช่นเดียวกัน และยิ่งรอบตัวมีแต่มลภาวะทั้งด้านสิ่งแวดล้อมและอารมณ์ความเครียดด้วยแล้ว การกินก็จะกลายเป็นการบำบัดอย่างหนึ่งไปในตัว เพราะฉะนั้นจึงไม่สามารถปฏิเสธได้ว่านวัตกรรมอาหารประเภทเกษตรอินทรีย์ หรือ ออร์แกนิค นั้นได้เข้ามาแทรกซึมในการเลือกอาหารของคนในวันนี้อย่างแนบเนียนและคาดว่าจะกลายเป็นส่วนหนึ่งที่ขาดไม่ได้ของวิถีชีวิตผู้คนในอนาคต
          กลุ่มอาหารออร์แกนิค (Organic Food) หรือที่เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า ̶กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ;อาหารเกษตรอินทรีย์̶อาหารออร์แกนิค; ถือเป็นอาหารออร์แกนิค ใน 4 กลุ่มของนวัตกรรมอาหาร ที่ผู้คนให้ความสนใจอย่างมากในปัจจุบัน นอกเหนือจากกลุ่มอาหารและเครื่องดื่มเสริมสุขภาพ หรือ Functional Foods กลุ่มอาหารทางการแพทย์ หรือ Medical Foods และสุดท้ายกลุ่มอาหารที่ผลิตขึ้นมาใหม่ทางนวัตกรรม หรือ Novel Foods สำหรับกลุ่มอาหารออร์แกนิค (Organic Food) นั้นคือ อาหารที่ผ่านการผลิตทางการเกษตรโดยไม่ใช้สารเคมี ปุ๋ยเคมี หรือวัตถุสังเคราะห์ใดๆ ทั้งสิ้น กระบวนการผลิตไม่มีการใช้สารเคมีในการกำจัดศัตรูพืช ก่อนการปลูกจะต้องเตรียมหน้าดินก่อนด้วยวิธีธรรมชาติ ทุกขั้นตอนการผลิตจะไร้สารปนเปื้อนที่เกิดจากโรงงานอุตสาหกรรมหรือมนุษย์ จะไม่ผ่านการฉายรังสี ไม่เพิ่มเติมสิ่งปรุงแต่งลงไปในอาหาร ถ้าเป็นอาหารที่มาจากการทำปศุสัตว์ก็จะต้องไม่มีการใช้สารปฏิชีวภาพ ไม่ใช้สารเร่งฮอร์โมน และต้องเลี้ยงสัตว์ด้วยอาหารที่มีสุขอนามัย กล่าวสรุปคือโดยหลักการสำคัญของการเกษตรแบบออร์แกนิค ต้องปลอดสารพิษในทุกขั้นตอน โดยการปลูกนั้นจะต้องใช้ความอุดมสมบูรณ์ของดินที่ปลอดสารพิษเป็นตัวแปรสำคัญ รวมทั้งหลีกเลี่ยงการใช้สารเคมี การใช้ฮอร์โมนเร่งการเจริญเติบโตและการตัดต่อพันธุกรรมต่างๆ ที่สำคัญ เน้นให้ผลิตผลต่างๆ ออกตามฤดูกาลเท่านั้น ทั้งนี้เกษตรกรออร์แกนิคต้องทำงานหนักในทุกขั้นตอนของการเพาะปลูก รวมทั้งอาศัยความรักและการทุ่มเทแรงกายพร้อมระบบการจัดการที่ดีเพื่อให้ได้ผลผลิตคุณภาพเยี่ยม ซึ่งในด้านการเพิ่มผลผลิตและการเก็บรักษาผลิตผลภายใต้กรอบจำกัดของมาตรฐานเกษตรอินทรีย์นั้นจำเป็นต้องพึ่งพานวัตกรรมสมัยใหม่เพียงแต่เป็นนวัตกรรมที่นำย้อนสู่รากฐานดั้งเดิมที่มีมาช้านานนั่นคือคือการเกษตรโดยวิถีธรรมชาติ
          คุณแซม พีรโชติ จรัญวงศ์ นายกสมาคมการค้าเกษตรอินทรีย์ ให้ความเห็นเพิ่มเติมว่า ̶กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ;เราคงปฏิเสธไม่ได้ว่าผลิตภัณฑ์ออร์แกนิคนั้นมีราคาสูงกว่าอาหารอื่นๆทั่วไป เนื่องจากมีต้นทุนการผลิตที่สูงตั้งแต่ขั้นตอนการเตรียมดินที่ต้องใช้เวลานาน การเลือกปลูกแต่พืชผักตามฤดูกาล การหลีกเลี่ยงการใช้สารเคมีในทุกขั้นตอน การเก็บเกี่ยวและการจัดส่งที่คำนึกถึงความสดใหม่อยู่เสมอ แต่หากพิจารณาให้ลึกซึ้งถึงข้อดีที่จะได้รับกลับคืนมานั้นมีมากมาย อีกทั้งในปัจจุบันหลายหน่วยงานพยายามมุ่งให้ความรู้เกษตกรถึงข้อดีของการเกษตรกรออร์แกนิคในระยะยาวที่จะให้ผลผลิตในปริมาณสูงกว่าการเกษตรกรทั่วไป และมีการนำเข้าสินค้าออร์แกนิคหลายประเภทจากทั่วโลกเพื่อจำหน่าย ทำให้ผลิตภัณฑ์ออร์แกนิคในท้องตลาดมีราคาไม่แพงจนเกินไป เพื่อให้เป็นทางเลือกใหม่สำหรับผู้บริโภคที่จะสามารถใช้ชีวิตในแบบออร์แกนิคได้อย่างยั่งยืนและมีสุขภาพดีอีกด้วย รวมทั้งแนวโน้มและทิศทางของการทำนวัตกรรมในอุตสาหกรรมอาหารแห่งอนาคต บ้านเรามีความได้เปรียบอยู่แล้วในเชิงวัตถุดิบ และฝีมือสะสม จึงเชื่อได้ว่าหากเกษตรกรไทยและผู้ประกอบการไทยหันมาทำนวัตกรรมในเรื่องอาหารแบบใหม่ๆ กันให้มากขึ้น โอกาสทางเศรษฐกิจทั้งของเกษตรกรหรือของประเทศจะดีขึ้นอย่างเป็นรูปธรรมอย่างแน่นอน̶อาหารออร์แกนิค; 
          ปัจจุบันหน่วยงานภาครัฐและเอกชนต่างให้ความสำคัญในเรื่องนี้เป็นอย่างมากจะเห็นได้จากการจัดงานแสดงสินค้าต่างๆ มากมาย เพื่อให้ผู้ประกอบการของไทยได้มีโอกาสแลกเปลี่ยนซึ่งกันและกัน รวมไปถึงการขยายฐานตลาดไปยังตลาดนานาประเทศได้อีกทางหนึ่งด้วย ล่าสุด กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เตรียมความพร้อมจัดงาน THAIFEX Rอาหารออร์แกนิคอาหารออร์แกนิค; World of Food Asia 2กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศอาหารออร์แกนิค5 ซึ่งเป็นงานแสดงสินค้าครั้งยิ่งใหญ่ระดับต้นๆ ของโลก โดยจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 2กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ-24 พฤษภาคม 2558 ณ ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี ด้วยเชื่อมั่นในศักยภาพของสินค้าอาหารที่มีคุณภาพ มีมาตรฐาน และได้รับการยอมรับ รวมถึงผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมไทยมีความสามารถ และมีความคิดสร้างสรรค์ในการพัฒนานวัตกรรมอาหารในรูปแบบใหม่ๆ รวมทั้งอาหารออร์แกนิค ได้เป็นอย่างดี ตลอดจนภาครัฐเองได้ให้การส่งเสริม สนับสนุน และเปิดโอกาสโดยการสร้างช่องทางในการเจรจาการค้าและธุรกิจเพื่อสร้างความเชื่อมโยงทางการค้ากับนานาประเทศอย่างต่อเนื่อง เชื่อว่าปัจจัยหลักเหล่านี้จะสามารถผลักดันให้อุตสาหกรรมอาหารไทยได้เติบโตในภูมิภาคเอเชีย และในตลาดโลกได้อย่างมีต่อเนื่อง
 

ข่าวกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ+การค้าระหว่างประเทศวันนี้

DITP ประชุมผู้จัดแสดงสินค้า เตรียมความพร้อมสู่เวที "THAIFEX - ANUGA ASIA 2025"

กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระทรวงพาณิชย์ ร่วมกับหอการค้าไทย และโคโลญเมสเซ่ เยอรมนี จัดประชุมผู้ประกอบการที่เข้าร่วมจัดแสดงสินค้าในงาน THAIFEX ANUGA ASIA 2025 โดยเป็นการชี้แจงรายละเอียดเกี่ยวกับภาพรวมการจัดงาน การเข้าร่วมงาน การก่อสร้าง การตกแต่งคูหา การจราจร ระเบียบข้อบังคับการเข้าร่วมงาน รวมถึงมาตรการรับมือภัยพิบัติ เพื่อให้เกิดความเรียบร้อยในช่วงระหว่างการ เตรียมงานและพร้อมต้อนรับการเข้าชมงานในปีนี้ งาน THAIFEX ANUGA ASIA 2025 เป็นงานแสดงสินค้าอาหารและเครื่องดื่มที่ยิ่งใหญ่ ครบวงจร

กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) จัด... "พาณิชย์" จัดงาน Thai Night ส่งเสริมภาพยนตร์-บันเทิงไทยสู่สายตาชาวโลก — กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) จัดงาน Hong Kong Thai Night 2025 งานสร้างเคร...

สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่... สสว. จัดงาน "ปลดล็อคความสำเร็จ SME" ปี 2568 — สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) จะจัดงานเผยแพร่นโยบาย/โครงการ ภายใต้แผนปฏิบัติการส่ง...