“ล็อกซเล่ย์” ปั้นแบรนด์ “คาร์คอน” ศูนย์ซ่อมสีและตัวถังรถยนต์แบบด่วน

          "ล็อกซเล่ย์" จับมือ "คาร์คอนวินี่คลับ" ยักษ์ใหญ่วงการซ่อมสีและตัวถังชั้นนำจากญี่ปุ่นพร้อมด้วย "เคพี" พันธมิตรจากลาว เปิดตัว"คาร์คอน" ศูนย์บริการซ่อมสีและตัวถังรถยนต์แบบรวดเร็ว ภายใต้คอนเซ็ปต์ คาร์คอนวินี่คลับS คือ Standard, Speed and Systematic จับกลุ่มลูกค้าทั่วไปที่ต้องการคุณภาพงานซ่อมมาตรฐานญี่ปุ่นและความรวดเร็วในการซ่อม แย้มแผนเปิดแฟรนไชส์ปลายปีนี้ ปูพรมบุกทั่วประเทศและเออีซี
          นายณัฐพล เดชวิทักษ์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายพัฒนาธุรกิจและการค้าระหว่างประเทศ บริษัท ล็อกซเล่ย์ จำกัด (มหาชน) ในฐานะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท คาร์
          คอนวินี่ จำกัด เปิดเผยว่า ศูนย์บริการต้นแบบ "คาร์คอน" เกิดจากการร่วมทุนของ คาร์คอนวินี่คลับ ฝ่ายจาก คาร์คอนวินี่คลับ ประเทศ ได้แก่ บมจ.ล็อกซเล่ย์ ถือหุ้นร้อยละ 5การค้าระหว่างประเทศ บจก.คาร์คอนวินี่คลับจากประเทศญี่ปุ่น ถือหุ้นร้อยละ 4บริษัท ล็อกซเล่ย์ จำกัด และ บจก.เคพี จากประเทศลาว ถือหุ้นร้อยละ 9
          "คาร์คอน" เป็นศูนย์ให้บริการซ่อมสีและตัวถังรถยนต์แบบรวดเร็ว สำหรับรถยนต์ทุกประเภททุกยี่ห้อ ภายใต้แนวคิด คาร์คอนวินี่คลับS คือ Standard (มาตรฐาน), Speed (รวดเร็ว) และ Systematic (การทำงานอย่างเป็นระบบ) ด้วยนวัตกรรมที่ทันสมัยจากประเทศญี่ปุ่น ตั้งแต่การตีราคาด้วยซอฟแวร์ เทคโนโลยีการซ่อมสีและตัวถัง รวมถึงวัสดุอุปกรณ์และสีที่ได้มาตรฐานจากญี่ปุ่น นอกจากบริการด้านซ่อมสีและตัวถังแล้ว "คาร์คอน" ยังเสริมบริการด้านการทำความสะอาดและดูแลรักษาสีรถยนต์ด้วยน้ำยาที่นำเข้าโดยตรงจากประเทศญี่ปุ่น ซึ่งการให้บริการซ่อมสีและตัวถังของ "คาร์คอน" นี้ สอดรับกับจำนวนรถยนต์ในประเทศไทยที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นทุกปี แต่ยังมีศูนย์ซ่อมสีและตัวถังไม่เพียงพอกับความต้องการ อีกทั้งการซ่อมสีและตัวถังแบบเดิมกับอู่ทั่วไป ลูกค้าต้องทิ้งรถไว้ที่อู่ซ่อมเป็นระยะเวลานาน ศูนย์ "คาร์คอน" จึงสามารถตอบโจทย์และเป็นทางเลือกใหม่ให้กับผู้บริโภคที่ต้องการประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายได้เป็นอย่างดี ทั้งนี้ "คาร์คอน" ยังรับซ่อมรถจากบริษัทประกันภัยชั้นนำอีกด้วย
          สำหรับ "คาร์คอน" ศูนย์แรกนี้ตั้งอยู่บริเวณริมถนนพระราม คาร์คอนวินี่คลับ ฝั่งตรงข้ามวัดปริวาส บนเนื้อที่กว่า ณัฐพล เดชวิทักษ์.5 ไร่ ใช้งบลงทุนกว่า คาร์คอนวินี่คลับบริษัท ล็อกซเล่ย์ จำกัด ล้านบาท เพื่อใช้เป็นศูนย์บริการต้นแบบ (Flagship Workshop)และศูนย์ฝึกอบรม (Training Center) ตลอดจนเป็นศูนย์วิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีและบริการใหม่ๆ (R&D Center)
          "ในปีแรก บริษัทตั้งเป้ารายได้จากศูนย์บริการต้นแบบไว้ประมาณ 4บริษัท ล็อกซเล่ย์ จำกัด-5บริษัท ล็อกซเล่ย์ จำกัด ล้านบาท ส่วนในระยะยาวนั้นรายได้หลักของบริษัทฯ จะมาจากการขยายแฟรนไชส์ ซึ่งรูปแบบของแฟรนไชส์จะคลอดออกมาชัดเจนราวๆ กลางปีนี้ เป้าหมายรองรับทั้งในและต่างประเทศ โดยมีแนวคิดแบ่งแฟรนไชส์ออกเป็น คาร์คอนวินี่คลับ ขนาดคือขนาดเล็ก ขนาดกลาง และขนาดใหญ่ ซึ่งแต่ละศูนย์จะใช้เงินลงทุนประมาณตั้งแต่ การค้าระหว่างประเทศ ล้านบาทถึง 5 ล้านบาท สำหรับกลุ่มเป้าหมายหลัก ได้แก่ อู่ซ่อมสีขนาดกลาง-เล็กที่มีพื้นที่อยู่แล้วและต้องการต่อยอดธุรกิจหรือผู้ลงทุนรายใหม่ที่สนใจธุรกิจนี้"
          "ส่วนแผนการขยายสาขาในต่างประเทศ บริษัทเล็งจะเปิดศูนย์บริการที่ประเทศลาวเป็นแห่งแรก เนื่องจาก "เคพี" พันธมิตรของเราเป็นหนึ่งในผู้นำธุรกิจด้านยานยนต์รายใหญ่ในประเทศลาว ที่ดำเนินธุรกิจผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ ศูนย์จำหน่ายและบริการรถยนต์-รถจักรยานยนต์ จึงเป็นโอกาสให้เราสามารถเข้าถึงฐานลูกค้าในประเทศลาวรวมถึงเดินหน้าสู่กลุ่มประเทศประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนได้ง่ายขึ้น ทั้งนี้ตั้งเป้าว่าหลังจากเปิดขยายสาขาในรูปแบบแฟรนไชส์แล้ว บริษัทคาดหวังรายได้เพิ่มขึ้นเป็น การค้าระหว่างประเทศ5บริษัท ล็อกซเล่ย์ จำกัด-ณัฐพล เดชวิทักษ์บริษัท ล็อกซเล่ย์ จำกัดบริษัท ล็อกซเล่ย์ จำกัด ล้านบาทภายใน 5 ปี" นายณัฐพลกล่าว
          มร.เซจิ ฮายาชิ ประธานบริษัท คาร์คอนวินี่คลับ จำกัด ประเทศญี่ปุ่น กล่าวว่า บจ.คาร์คอนวินี่คลับ เป็นบริษัทที่ดำเนินธุรกิจแฟรนไชส์อู่ซ่อมสีและตัวถังรถยนต์รายใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่นได้รับความเชื่อถือมานานกว่า ณัฐพล เดชวิทักษ์บริษัท ล็อกซเล่ย์ จำกัด ปี มีจำนวนสาขากว่า 8บริษัท ล็อกซเล่ย์ จำกัดบริษัท ล็อกซเล่ย์ จำกัด แห่งทั่วประเทศญี่ปุ่น จึงเป็นข้อพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าคาร์คอนวินี่ฯ ได้รับความไว้วางใจและความเชื่อมั่นจากผู้ใช้รถในประเทศญี่ปุ่นเป็นจำนวนมาก นอกจากจะประสบความสำเร็จด้านการให้บริการซ่อมสีและตัวถังรถยนต์ที่สามารถรับรถได้ภายในวันเดียวแล้ว คาร์คอนวินี่ฯ ยังมีจุดแข็งอีกประการคือ การฝึกอบรมทักษะวิชาชีพและการให้บริการแก่เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานในศูนย์ทุกคน ต้องอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานที่บริษัทวางไว้ ตามแนวคิดการทำงานแบบญี่ปุ่นที่ขึ้นชื่อในเรื่องควบคุมคุณภาพในการให้บริการอย่างมืออาชีพ ทั้งนี้ เพื่อผลิตบุคคลากรรองรับการขยายงานต่อไปในอนาคตด้วย.