นายเจน นำชัยศิริ ประธาน
สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยผลการสำรวจความเชื่อมั่นของ
ภาคอุตสาหกรรมไทย (Thai Industries Sentiment Index : TISI) ประจำธันวาคม กลุ่มอุตสาหกรรม56สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย จำนวน ภาคอุตสาหกรรมไทย,สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย76 ราย ครอบคลุม 45
กลุ่มอุตสาหกรรมของสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย แยกเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมขนาดย่อม อุตสาหกรรมขนาดกลาง และอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ ร้อยละ 3สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย.8, 35.4 และ 33.8 ของกลุ่มตัวอย่างทั้งหมด ตามลำดับ แบ่งเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมในภาคกลาง ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ ร้อยละ 44.7, ภาคอุตสาหกรรมไทยกลุ่มอุตสาหกรรม.7, ภาคอุตสาหกรรมไทย5.7, ภาคอุตสาหกรรมไทย3.5 และ ภาคอุตสาหกรรมไทย3.4 ตามลำดับ และแบ่งตามกลุ่มอุตสาหกรรมที่เน้นตลาดในประเทศ และกลุ่มอุตสาหกรรมที่เน้นตลาดต่างประเทศ ร้อยละ 77.สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และ กลุ่มอุตสาหกรรม3.สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ตามลำดับ
โดย ผลการสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมในเดือนธันวาคม กลุ่มอุตสาหกรรม56สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย อยู่ที่ระดับ 89.ภาคอุตสาหกรรมไทย ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากระดับ 87.สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ในเดือนพฤศจิกายน ทั้งนี้ค่าดัชนีฯ ที่เพิ่มขึ้นเกิดจากองค์ประกอบยอด คำสั่งซื้อโดยรวม ยอดขายโดยรวม ปริมาณการผลิต ต้นทุนประกอบการและผลประกอบการ
โดยในเดือนธันวาคม พบว่า อุปสงค์ของสินค้าอุตสาหกรรมยังส่งสัญญาณที่ดี สะท้อนจากยอด คำสั่งซื้อและยอดขายในประเทศที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้า โดยเฉพาะกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ ที่มียอดขายเพิ่มขึ้นจากงานมอเตอร์เอ็กซ์โป กลุ่มอุตสาหกรรมสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยภาคอุตสาหกรรมไทย7 รวมทั้งสินค้าที่เกี่ยวข้องกับของขวัญของฝาก ในช่วงเทศกาลปีใหม่ ขณะเดียวกันการฟื้นความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับสหภาพยุโรป ผู้ประกอบการเห็นว่าจะส่ง ผลดีต่อการค้าและการลงทุนระหว่างกัน
อย่างไรก็ตาม การแข็งค่าของเงินบาทเมื่อเทียบกับภูมิภาค ฉุดความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการส่งออก โดยเฉพาะผู้ประกอบการสินค้าเกษตรแปรรูป และสินค้าที่ใช้วัตถุดิบในประเทศ อีกทั้งความกังวลต่อการปรับขึ้นอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ ซึ่งกระทบต่อต้นทุนการผลิต โดยเฉพาะของผู้ประกอบการ SMEs
ขณะที่ ดัชนีความเชื่อมั่นคาดการณ์ 3 เดือนข้างหน้า อยู่ที่ระดับ ภาคอุตสาหกรรมไทยสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยกลุ่มอุตสาหกรรม.8 ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากระดับ ภาคอุตสาหกรรมไทยสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยกลุ่มอุตสาหกรรม.สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ในเดือนพฤศจิกายน เนื่องจากผู้ประกอบการเห็นว่าเศรษฐกิจไทยในปี กลุ่มอุตสาหกรรม56ภาคอุตสาหกรรมไทย มีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่อง โดยมีภาครัฐเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญในการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ รวมถึงการลงทุนในเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ขณะเดียวกันการส่งออกของไทยยังได้รับผลดีจากเศรษฐกิจโลกที่ฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการในประเทศยังมีความกังวลต่อต้นทุนการผลิตที่มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น
ดัชนีความเชื่อมั่นจำแนกตามขนาดของกิจการในเดือนธันวาคม จากการสำรวจพบว่าดัชนีความเชื่อมั่นฯ ของทุกขนาดอุตสาหกรรม ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเดือนพฤศจิกายน โดยมีรายละเอียดดังนี้ (ตารางที่ 5 และภาพที่ กลุ่มอุตสาหกรรม)
อุตสาหกรรมขนาดย่อม พบว่า ดัชนีความเชื่อมั่นฯ ในเดือนธันวาคม กลุ่มอุตสาหกรรม56สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย อยู่ที่ระดับ 73.สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากระดับ 7สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย.7 ในเดือนพฤศจิกายน โดยองค์ประกอบดัชนีฯ ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น ได้แก่ ยอดรับคำสั่งซื้อโดยรวม ยอดขายโดยรวม ต้นทุนประกอบการ และผลประกอบการ
สำหรับอุตสาหกรรมขนาดย่อมที่ค่าดัชนีฯ ปรับตัวเพิ่มขึ้น ได้แก่ อุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์, อุตสาหกรรมแก้วและกระจก, หัตถอุตสาหกรรม เป็นต้น
ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นฯ คาดการณ์ 3 เดือนข้างหน้าอยู่ที่ระดับ 96.6 ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากระดับ 95.8 ในเดือนพฤศจิกายน โดยองค์ประกอบดัชนีฯ คาดการณ์ที่เพิ่มขึ้น ได้แก่ ยอดรับคำสั่งซื้อโดยรวม ยอดขายโดยรวม ปริมาณการผลิต และผลประกอบการ
อุตสาหกรรมขนาดกลาง ดัชนีความเชื่อมั่นฯ ในเดือนธันวาคม กลุ่มอุตสาหกรรม56สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย อยู่ที่ระดับ 9สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย.สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากระดับ 88.7 ในเดือนพฤศจิกายน องค์ประกอบดัชนีฯ ที่เพิ่มขึ้น ได้แก่ ยอดรับคำสั่งซื้อโดยรวม ยอดขายโดยรวม ปริมาณการผลิต ต้นทุนประกอบการ และผลประกอบการ
สำหรับอุตสาหกรรมขนาดกลางที่ค่าดัชนีฯ ปรับตัวเพิ่มขึ้น ได้แก่ อุตสาหกรรมปูนซิเมนต์,อุตสาหกรรมการพิมพ์และบรรจุภัณฑ์, อุตสาหกรรมรองเท้า เป็นต้น
ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นฯ คาดการณ์ 3 เดือนข้างหน้าอยู่ที่ระดับ ภาคอุตสาหกรรมไทยสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย4.กลุ่มอุตสาหกรรม ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากระดับภาคอุตสาหกรรมไทยสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย3.7 ในเดือนพฤศจิกายน โดยองค์ประกอบดัชนีฯ คาดการณ์เพิ่มขึ้น ได้แก่ ยอดรับคำสั่งซื้อโดยรวม ต้นทุนประกอบการ และผลประกอบการ
อุตสาหกรรมขนาดใหญ่ ดัชนีความเชื่อมั่นฯ ในเดือนธันวาคม กลุ่มอุตสาหกรรม56สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย อยู่ที่ระดับ ภาคอุตสาหกรรมไทยสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยกลุ่มอุตสาหกรรม.8 ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากระดับ ภาคอุตสาหกรรมไทยสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยภาคอุตสาหกรรมไทย.7 ในเดือนพฤศจิกายน โดยองค์ประกอบดัชนีฯ ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น ได้แก่ ยอดรับคำสั่งซื้อโดยรวม ปริมาณการผลิตต้นทุนประกอบการ และผลประกอบการ
สำหรับอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ที่ค่าดัชนีฯ ปรับตัวเพิ่มขึ้น ได้แก่ อุตสาหกรรมปิโตรเคมี, อุตสาหกรรมอลูมิเนียม, อุตสาหกรรมชิ้นส่วนและอะไหล่ยานยนต์ เป็นต้น
ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นฯ คาดการณ์ 3 เดือนข้างหน้าอยู่ที่ระดับ ภาคอุตสาหกรรมไทยสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย7.กลุ่มอุตสาหกรรม ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากระดับภาคอุตสาหกรรมไทยสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย6.3 ในเดือนพฤศจิกายน โดยองค์ประกอบดัชนีฯ คาดการณ์เพิ่มขึ้น ได้แก่ ยอดรับคำสั่งซื้อโดยรวม ยอดขายโดยรวม ปริมาณการผลิต และผลประกอบการ
ผลสำรวจ ดัชนีความเชื่อมั่นฯ รายภูมิภาค ประจำเดือนธันวาคม กลุ่มอุตสาหกรรม56สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย จากการสำรวจพบว่า ค่าดัชนีความเชื่อมั่นฯ ของภาคกลาง ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเดือนพฤศจิกายน ขณะที่ค่าดัชนีความเชื่อมั่นฯ ของภาคใต้ ปรับตัวลดลงจากเดือนพฤศจิกายน โดยมีรายละเอียดมีดังนี้ (ตารางที่ 6)
ภาคกลาง ดัชนีความเชื่อมั่นฯ ในเดือนธันวาคม กลุ่มอุตสาหกรรม56สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย อยู่ที่ระดับ 9สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย.กลุ่มอุตสาหกรรม ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากระดับ 88.7 ในเดือนพฤศจิกายน องค์ประกอบดัชนีฯ ที่เพิ่มขึ้น ได้แก่ ยอดคำสั่งซื้อโดยรวม ยอดขายโดยรวมปริมาณการผลิต ต้นทุนประกอบการ และผลประกอบการ
อุตสาหกรรมในภาคกลางที่ส่งผลด้านบวกต่อค่าดัชนีฯ ได้แก่
อุตสาหกรรมพลาสติก (ผลิตภัณฑ์พลาสติก ประเภทถุงพลาสติกและฟิล์มพลาสติกถนอมอาหาร สินค้าประเภทพีวีซีพลาสติกคอมปาวด์ มียอดขายในประเทศเพิ่มขึ้น รวมทั้งมีคำสั่งซื้อเพิ่มขึ้นจากประเทศญี่ปุ่น, สหรัฐฯ และจีน)
อุตสาหกรรมอาหาร (อาหารสำเร็จรูป เครื่องดื่มน้ำหวานและแอลกอฮอลล์ มียอดขายในประเทศเพิ่มขึ้น จากความต้องการบริโภคสินค้าในช่วงเทศกาลปีใหม่ ขณะที่อุปสงค์ในตลาดโลกขยายตัวต่อเนื่อง ทำให้การส่งออกอาหารสำเร็จรูป อาหารทะเลกระป๋องและอาหารทะเลแปรรูป เครื่องปรุงรส มีคำสั่งซื้อเพิ่มขึ้นจากประเทศสหรัฐฯ และญี่ปุ่น)
อุตสาหกรรมยานยนต์ (รถยนต์นั่ง รถกระบะ และรถจักรยานยนต์ มียอดขายในประเทศเพิ่มขึ้น และได้รับผลดีจากงานมอเตอร์เอ็กซ์โปร์ กลุ่มอุตสาหกรรมสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยภาคอุตสาหกรรมไทย7 ขณะเดียวกันค่ายรถยนต์มีการออกรถยนต์รุ่นใหม่อย่างต่อเนื่อง)
อุตสาหกรรมในภาคกลางที่ส่งผลด้านลบต่อค่าดัชนีฯ ได้แก่
อุตสาหกรรมหนังและผลิตภัณฑ์หนัง (ผลิตภัณฑ์หนังเทียมพีวีซี สินค้าประเภทกระเป๋าหนังและรองเท้าหนัง มียอดสั่งซื้อในประเทศลดลง ขณะที่การส่งออกผลิตภัณฑ์หนังฟอก มียอดคำสั่งซื้อลดลงจากประเทศเวียดนาม จีน และฮ่องกง เนื่องจากประเทศคู่ค้าได้เร่งคำสั่งซื้อไปในช่วงเดือนก่อนหน้า)
ดัชนีความเชื่อมั่นฯ คาดการณ์ 3 เดือนข้างหน้าอยู่ที่ระดับ ภาคอุตสาหกรรมไทยสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย4.ภาคอุตสาหกรรมไทย ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากระดับ ภาคอุตสาหกรรมไทยสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย3.ภาคอุตสาหกรรมไทย ในเดือนพฤศจิกายน องค์ประกอบดัชนีฯ ที่คาดการณ์ที่เพิ่มขึ้น ได้แก่ ยอดคำสั่งซื้อโดยรวม ยอดขายโดยรวม ปริมาณการผลิต และผลประกอบการ