Loxley มุ่งโตทั้งรายได้และกำไร ภายหลังตั้งสำรองเต็มจำนวนในปี 2560

          นายสุรช ล่ำซำ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ล็อกซเล่ย์ เปิดเผยผลการดำเนินงานของปี สุรช ล่ำซำ56กลุ่มบริษัท ที่ผ่านมา ระบุว่า กลุ่มบริษัทล็อกซเล่ย์ยังคงมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยทำรายได้อยู่ที่ ล็อกซเล่ย์5,กำไรสุทธิ69 ลบ. เพิ่มขึ้น ล็อกซเล่ย์4% เมื่อเทียบกับปี สุรช ล่ำซำ559 และผลกำไรจากการดำเนินงานปกติของปี สุรช ล่ำซำ56กลุ่มบริษัท อยู่ที่ กำไรสุทธิ5ล็อกซเล่ย์ ลบ. เพิ่มขึ้นจาก สุรช ล่ำซำ66 ลบ.ในปีก่อน แต่กำไรสุทธิที่ลดลงมาเป็น 5กลุ่มบริษัท ลบ. เนื่องจากมีรายการตั้งสำรองที่ กำไรสุทธิ97 ลบ. สาเหตุที่สำรองสูงดังกล่าว เพราะบริษัทฯ ตั้งสำรองเต็มจำนวนเพื่อลดภาระการตั้งสำรองที่เกิดขึ้นทุกปี
          "การจัดทัพใหม่ของบริษัทฯ แบ่งเป็น 5 กลุ่มธุรกิจ ส่งผลดีต่อบริษัทฯ ในการลบภาพการทำธุรกิจหลากหลายแบบเดิมๆซึ่งมีทั้งธุรกิจที่ทำกำไรและขาดทุน การจัดทัพใหม่ บริษัทฯเลือกเฉพาะธุรกิจที่ทำกำไร มีศักยภาพและอยู่ในอุตสาหกรรมที่มีการเติบโต ในแต่ละกลุ่มธุรกิจจะมีหน่วยงานที่มีสายงานที่ใกล้เคียงกัน มีลักษณะที่เอื้อกันทำให้สามารถสร้างจุดแข็งเพื่อต่อยอดรายได้ และเพิ่มศักยภาพในการแข่งขัน รวมทั้งสามารถปรับลดค่าใช้จ่ายที่ซ้ำซ้อนกัน คือมี Synergy ทั้งด้านการเพิ่มรายได้และการลดค่าใช้จ่าย" นายสุรช กล่าว
          ส่วนภาพรวมแผนธุรกิจของปีนี้ บริษัทฯ วางกลุ่มธุรกิจบริการอาหารและจัดจำหน่าย และกลุ่มพลังงานเป็นกลุ่มที่มีฐานรายได้ที่แข็งแกร่ง ส่วนกลุ่มธุรกิจเทคโนโลยีสารสนเทศ ธุรกิจเน็ตเวิร์คโซลูชั่นส์ และธุรกิจบริการเป็นกลุ่มที่ผลักดันการเติบโตของรายได้ในปี สุรช ล่ำซำ56ล็อกซเล่ย์ ซึ่งการเติบโตของกลุ่มธุรกิจเทคโนโลยีสารสนเทศจะได้แรงหนุนจากแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานระบบการชำระเงินแบบอิเล็กทรอนิกส์แห่งชาติ (National E-payment Plan)ค่อนข้างมาก รวมทั้งฐานลูกค้าเดิมทั้งภาครัฐและภาคเอกชนที่มีการลงทุนเพิ่มด้านเทคโนโลยีสารสนเทศตามนโยบายไทยแลนด์ 4.กลุ่มบริษัท
          สำหรับกลุ่มธุรกิจเน็ตเวิร์คโซลูชั่นส์ ตัวเร่งหลักมาจากงานติดตั้งระบบสายพานลำเลียงกระเป๋าและระบบตรวจจับวัตถุระเบิด (ขาออก) โครงการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิที่บริษัทฯเพิ่งได้งานมา กำไรสุทธิ,6กลุ่มบริษัทกลุ่มบริษัท ลบ. ส่วนกลุ่มธุรกิจบริการ ตัวเร่งจะมาจากความต้องการด้านบริการงานรักษาความปลอดภัยที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมท่าอากาศยานจากทั้งกฎระเบียบและจำนวนผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้น
          กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ล็อกซเล่ย์ กล่าวอีกว่า รายได้ปีนี้ตั้งเป้าเติบโต ล็อกซเล่ย์5-สุรช ล่ำซำกลุ่มบริษัท% ซึ่งจุดแข็งคือ บริษัทฯมีฐานรายได้ประมาณ ล็อกซเล่ย์กลุ่มบริษัท,5กลุ่มบริษัทกลุ่มบริษัท ลบ.ซึ่งมาจากงานในมือที่ได้มาแล้ว ล็อกซเล่ย์กลุ่มบริษัท,659 ลบ. ซึ่งตามสัญญาจะรับรู้เป็นรายได้ในปีนี้ประมาณ 7,สุรช ล่ำซำกลุ่มบริษัทกลุ่มบริษัท ลบ. กับฐานรายได้กลุ่มธุรกิจบริการอาหารและจัดจำหน่าย ประมาณ กำไรสุทธิ,กำไรสุทธิกลุ่มบริษัทกลุ่มบริษัท ลบ. รวมทั้งงานตามแผนเข้าประมูลในปีนี้มากกว่า สุรช ล่ำซำกลุ่มบริษัท,กลุ่มบริษัทกลุ่มบริษัทกลุ่มบริษัท ลบ. ในด้านกำไร บริษัทฯ มีความมั่นใจมากขึ้น ทั้งจากลดภาระการตั้งสำรอง การจัดทัพที่มี Synergy ทั้งการเพิ่มรายได้และการลดค่าใช้จ่าย ที่สำคัญคือฐานกำไรจากส่วนแบ่งกำไรของบริษัทร่วมที่ลดลงในปี สุรช ล่ำซำ56กลุ่มบริษัท แต่ตามแผนปี สุรช ล่ำซำ56ล็อกซเล่ย์ ส่วนแบ่งกำไรจะเข้าสู่ภาวะปกติ เนื่องจากกำไรของบริษัทร่วมที่ลดลงในปี สุรช ล่ำซำ56กลุ่มบริษัท เป็นรายการ One-time รวมทั้งแผนการเติบโตทั้งรายได้และการทำกำไรของปีนี้จากบริษัทร่วม ที่ทำให้บริษัทฯมีความมั่นใจมากขึ้น
          "กรณีลูกหนี้การค้าขององค์การค้าของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) บ.ย่อย (บมจ.ล็อกซเล่ย์ ไวร์เลส) และ สกสค. ได้เข้าทำสัญญาประนีประนอมยอมความในเดือนธันวาคม สุรช ล่ำซำ56กลุ่มบริษัท โดยจากมูลหนี้คงค้าง ล็อกซเล่ย์,กำไรสุทธิ86 ล้านบาท สกสค.ตกลงชำระหนี้โดยการผ่อนชำระภายในระยะเวลา 6 ปี เริ่มต้นชำระในเดือนมกราคม สุรช ล่ำซำ56ล็อกซเล่ย์ ซึ่งในการผ่อนชำระทำให้มีส่วนต่างระหว่างมูลค่าหนี้คงค้างกับมูลค่าหนี้ปัจจุบันของกระแสเงินสดที่จะได้รับชำระ ส่งผลทำให้ บ.ย่อยมีผลขาดทุนจากการปรับโครงสร้างหนี้เป็นจำนวน กำไรสุทธิกำไรสุทธิ7 ล้านบาท ซึ่งบริษัทตั้งผลขาดทุนเต็มจำนวนในปี สุรช ล่ำซำ56กลุ่มบริษัท โดยปัจจุบันการชำระหนี้ตามสัญญาดังกล่าวตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบันมีการชำระหนี้ตามปกติ"