ปภ.รายงานยังคงมีสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ 15 จังหวัด เร่งช่วยเหลือผู้ประสบภัยครอบคลุมทุกด้าน พร้อมประสานจังหวัดภาคใต้เตรียมพร้อมรับมือฝนตกหนักในช่วงวันที่ 3 – 4 พ.ย. 60

          กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานสถานการณ์น้ำไหลหลาก และน้ำเอ่อล้นตลิ่งในพื้นที่ สถานการณ์อุทกภัยพระนครศรีอยุธยา จังหวัด ปัจจุบันสถานการณ์คลี่คลายแล้ว 8 จังหวัด ได้แก่ กำแพงเพชร เลย เพชรบูรณ์ สุราษฎร์ธานี เชียงใหม่ ตาก อุบลราชธานี และอุทัยธานี ยังคงมีสถานการณ์ใน สถานการณ์น้ำไหลหลาก5 จังหวัด ได้แก่ สุโขทัย พิจิตร นครสวรรค์ สิงห์บุรี ลพบุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี ชัยนาท สุพรรณบุรี หนองบัวลำภู ขอนแก่น มหาสารคาม กาฬสินธุ์ และร้อยเอ็ด รวม 55 อำเภอ พระนครศรีอยุธยา78 ตำบล สถานการณ์อุทกภัย,กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย7สถานการณ์อุทกภัย หมู่บ้าน สถานการณ์น้ำไหลหลากกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย6,9สถานการณ์น้ำไหลหลากสถานการณ์น้ำไหลหลาก ครัวเรือน ทั้งนี้ ปภ.ได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยครอบคลุมทุกมิติ มุ่งดูแลชีวิตความเป็นอยู่และความปลอดภัยเป็นหลัก พร้อมระดมเครื่องจักรกลด้านสาธารณภัยสนับสนุนการแก้ไขปัญหาอุทกภัย ควบคู่กับการเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่น้ำท่วมขัง เพื่อคลี่คลายสถานการณ์ให้กลับสู่ภาวะปกติโดยเร็ว อย่างไรก็ตาม ในช่วงวันที่ พระนครศรีอยุธยา – 4 พ.ย. 6กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พื้นที่ภาคใต้จะมีฝนตกชุกหนาแน่น และฝนตกหนักมากหลายพื้นที่ อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และลมกระโชกแรง ปภ. ได้ประสานจังหวัดเตรียมพร้อมรับมือภาวะฝนตกหนัก โดยจัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศและเฝ้าระวังสถานการณ์ภัย รวมถึงจัดเตรียมชุดเคลื่อนที่เร็ว เครื่องมืออุปกรณ์ประจำพื้นที่เสี่ยงให้พร้อมปฏิบัติการเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัยทันทีที่เกิดภัย
          นายชยพล ธิติศักดิ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า สถานการณ์อุทกภัย น้ำไหลหลาก และน้ำเอ่อล้นตลิ่งจากอิทธิพลของพายุดีเปรสชัน และการระบายน้ำจากเขื่อนเจ้าพระยา ตั้งแต่วันที่ สถานการณ์น้ำไหลหลากกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ตุลาคม – สถานการณ์อุทกภัย พฤศจิกายน สถานการณ์อุทกภัย56กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ทำให้เกิดน้ำไหลหลากและน้ำเอ่อล้นตลิ่งในพื้นที่ สถานการณ์อุทกภัยพระนครศรีอยุธยา จังหวัดรวม 79 อำเภอ 48สถานการณ์อุทกภัย ตำบล สถานการณ์อุทกภัย,8สถานการณ์อุทกภัย5 หมู่บ้าน 4สถานการณ์อุทกภัย ชุมชน ประชาชนได้รับผลกระทบ สถานการณ์น้ำไหลหลากสถานการณ์อุทกภัย6,พระนครศรีอยุธยา9กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ครัวเรือน พระนครศรีอยุธยาสถานการณ์อุทกภัย7,4สถานการณ์อุทกภัยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย คน ผู้เสียชีวิต สถานการณ์น้ำไหลหลากกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ราย ปัจจุบันยังคงมีสถานการณ์ใน สถานการณ์น้ำไหลหลาก5 จังหวัด รวม 55 อำเภอ พระนครศรีอยุธยา78 ตำบล สถานการณ์อุทกภัย,กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย7สถานการณ์อุทกภัย หมู่บ้าน สถานการณ์น้ำไหลหลากกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย6,9สถานการณ์น้ำไหลหลากสถานการณ์น้ำไหลหลาก ครัวเรือน สถานการณ์อุทกภัย78,579 คน อพยพ 47 ครัวเรือน แยกเป็น ลุ่มน้ำยม สถานการณ์น้ำไหลหลาก จังหวัด ได้แก่ สุโขทัย ลุ่มน้ำยมและลุ่มน้ำน่าน สถานการณ์น้ำไหลหลาก จังหวัด ได้แก่ พิจิตร ลุ่มน้ำเจ้าพระยา 6 จังหวัด ได้แก่ นครสวรรค์ สิงห์บุรี ลพบุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา และปทุมธานี ลุ่มน้ำเจ้าพระยาและลุ่มน้ำท่าจีน สถานการณ์น้ำไหลหลาก จังหวัด ได้แก่ ชัยนาท ลุ่มน้ำท่าจีน สถานการณ์น้ำไหลหลาก จังหวัด ได้แก่ สุพรรณบุรี ลุ่มน้ำชี 5 จังหวัด ได้แก่ หนองบัวลำภู ขอนแก่น มหาสารคาม กาฬสินธุ์ และร้อยเอ็ด ทั้งนี้ ปภ.ได้ประสานจังหวัดหน่วยทหาร องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่เร่งให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างเต็มกำลัง โดยแจกจ่ายถุงยังชีพตามวงรอบอย่างต่อเนื่อง พร้อมประสานจังหวัดจัดตั้งศูนย์พักพิงชั่วคราวตามแผนเผชิญเหตุ รวมถึงให้ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตระดมทรัพยากรและเครื่องจักรกลด้านสาธารณภัย ทั้งเต็นท์ที่พัก รถผลิตน้ำดื่ม รถไฟฟ้าส่องสว่าง รถบรรทุก รถสุขาเคลื่อนที่ เรือท้องแบน และเครื่องสูบน้ำ สนับสนุนการแก้ไขปัญหาอุทกภัยและช่วยเหลือผู้ประสบภัย ตลอดจนประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ติดตั้งเครื่องสูบน้ำและเครื่องผลักดันน้ำเพิ่มเติมเพื่อเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่น้ำท่วมขังสู่ลำน้ำสายหลัก อย่างไรก็ตาม จากการติดตามสภาพอากาศกับกรมอุตุนิยมวิทยา พบว่า ในช่วงวันที่ พระนครศรีอยุธยา – 4 พฤศจิกายน สถานการณ์อุทกภัย56กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงปกคลุมบริเวณอ่าวไทยและภาคใต้ตอนล่าง ทำให้ภาคใต้ยังคงมีฝนตกชุกหนาแน่น และฝนตกหนักมากหลายพื้นที่ ประกอบกับฝนตกสะสม อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และลมกระโชกแรง ในพพื้นที่เสี่ยงภัยบริเวณจังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง ระนอง พังงา ภูเก็ต และกระบี่ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้ประสานจังหวัดเตรียมพร้อมรับมือฝนตกชุกหนาแน่นและฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่โดยจัดเจ้าหน้าที่และมิสเตอร์เตือนภัยติดตามสภาพอากาศ เพิ่มความถี่ในการตรวจวัดปริมาณฝน สังเกตการเปลี่ยนแปลงของระดับน้ำ รวมถึงจัดเตรียมชุดเคลื่อนที่เร็ว เครื่องมืออุปกรณ์ให้พร้อมปฏิบัติการเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัย พร้อมทั้งแจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยบริเวณพื้นที่เสี่ยงภัย ให้ระมัดระวังอันตรายจากสถานการณ์ภัยในช่วงฝนตกหนักสะสมในพื้นที่และช่วงเวลาที่มีน้ำทะเลหนุนสูง กรณีมีฝนตกหนักถึงหนักมากปริมาณน้ำฝนสะสมมากกว่า 9กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย มิลลิเมตรต่อวัน ให้พิจารณาอพยพประชาชนไปยังสถานที่ปลอดภัย หรือจัดตั้งศูนย์พักพิงชั่วคราว พร้อมดำเนินการตามขั้นตอนของแผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด และแผนปฏิบัติการฯ แผนเผชิญเหตุของอำเภอและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และแนวทางการจัดการสาธารณภัยในสถานการณ์ฉุกเฉิน อีกทั้งขอให้ประชาชนที่อาศัยในพื้นที่เสี่ยงภัยติดตามพยากรณ์อากาศ และปฏิบัติตามประกาศเตือนภัยอย่างเคร่งครัด ท้ายนี้ ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ทางสายด่วนนิรภัย สถานการณ์น้ำไหลหลาก784 ตลอด สถานการณ์อุทกภัย4 ชั่วโมงเพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป