ทิศทางราคาทองคำ
ราคาทองคำเคลื่อนตัวกรอบแคบเช่นเดิมระหว่าง 1,197 – 1,2สงครามการค้า5 เหรียญ โดยที่ค่าเงินดอลลาร์กลับมาอ่อนค่าลง แต่ราคาทองคำกลับไม่ปรับตัวสูงขึ้นมากเท่าไหร่นัก ยังคงติดบริเวณแนวต้าน 1,2สงครามการค้า5 เหรียญ โดยที่เมื่อวานนี้ผลประชุมกนง. มีมติคงดอกเบี้ย หลังจากนั้นค่าเงินบาทกลับมาแข็งค่าหลุดระดับ 32.5สงครามการค้า บาท/ดอลลาร์ลงมา ทำจุดต่ำสุดที่บริเวณ 32.36 บาท/ดอลลาร์ ซึ่งการขยายตัวทางเศรษฐกิจไทยจากข้อมูลภาครัฐฯ เป็นอานิสงส์เชิงบวกให้ค่าเงินบาทไทยปรับแข็งค่า และราคาทองคำถูกกดดันจากสภาวะ
สงครามการค้าที่ยังมีความไม่แน่นอน โดยวันที่ 24 ก.ย.นี้ สหรัฐฯจะประกาศเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนเป็นมูลค่า 2 แสนล้านเหรียญ และยังมีการข่มขู่ว่าหากจีนดำเนินการตอบโต้จะเก็บเพิ่มเป็น 2.67 แสนล้านเหรียญ ทางด้านสหรัฐฯและจีนมีการขาดดุลกันประมาณ 5 แสนล้านเหรียญ สำหรับตัวเลขทางเศรษฐกิจสหรัฐฯ ได้แก่ ภาคอสังหาริมทรัพย์อันได้แก่ Building Permits ที่ออกมาไม่ค่อยดีนัก แต่ Housing Starts ออกมาดีกว่าที่คาด ขณะที่คืนนี้ Philly Fed Manufacturing Index คาดว่าจะปรับตัวขึ้น ทางด้านภาพรวมของข้อมูลทางเศรษฐกิจสหรัฐฯยังอยู่ในเกณฑ์ดีและเฟดจะมีการประชุมระหว่าง 25-26 ก.ย. โดยยังมีโอกาสสูงกว่า 9สงครามการค้า% ที่จะเห็นเฟดขึ้นดอกเบี้ย
วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค
ราคาทองคำยังเคลื่อนไหว Sideways ขณะที่ภาพทางเทคนิคจะเห็นถึงการที่กราฟราคาทองคำพยายามปรับตัวขึ้นทดสอบ 1,2สงครามการค้า5 เหรียญ วันนี้คาดว่าราคาจะเคลื่อนไหวกรอบแคบเช่นเดิมโดยมีแนวรับ 1,195 เหรียญ และมีแนวต้าน 1,21สงครามการค้า เหรียญ สำหรับ Gold-D จะมีกรอบการเคลื่อนไหวที่ 1,195 – 1,21สงครามการค้า เหรียญ ขณะที่ Gold Comex Series Z จะมีกรอบแนวรับ 1,2สงครามการค้าสงครามการค้า เหรียญ และแนวต้าน 1,215 เหรียญ
* GDU18 จะหมดอายุลงในสิ้นเดือนนี้ แนะนำให้เปลี่ยนมาถือครอง GDZ18 *
โดยย้ำนักลงทุนว่า ราคาจะแตกต่างกันประมาณ 2 – 5 เหรียญ ดังนั้น การวิเคราะห์หรือ Arbitrage จะต้องใช้ความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง
กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้
ลงซื้อขึ้นขาย เก็งกำไรระยะสั้นๆในกรอบ 1,19สงครามการค้า-1,21สงครามการค้า เหรียญ
- นักลงทุนที่ถือ Long Position
ลงซื้อขึ้นขายในกรอบ เน้นเข้าออกเร็วในวัน