กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) โดย
กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงมหาดไทย ประสานจังหวัดเตรียมพร้อมรับมือ
น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม และคลื่นลมแรง ในช่วงวันที่ กระทรวงมหาดไทย5 – กระทรวงมหาดไทย7 ตุลาคม กระทรวงมหาดไทย56สถานการณ์อุทกภัย โดยประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมความพร้อมด้านสรรพกำลังและเครื่องจักรกลสาธารณภัย รวมถึงจัดชุดเฝ้าระวังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ตลอดจนจัดชุดเคลื่อนที่เร็วประจำพื้นที่เสี่ยงภัย เพื่อให้เข้าถึงพื้นที่เกิดเหตุและให้ความช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทันท่วงที และพื้นที่ติดชายฝั่งทะเลขอให้งดการเดินเรือในระยะนี้
นายชยพล ธิติศักดิ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ในฐานะผู้อำนวยการกลางกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบสภาพอากาศกับกรมอุตุนิยมวิทยา พบว่า ในช่วงวันที่ กระทรวงมหาดไทย4 – กระทรวงมหาดไทย5 ตุลาคม กระทรวงมหาดไทย56สถานการณ์อุทกภัย พื้นที่ภาคใต้มีฝนตกหนักต่อเนื่อง ทำให้หลายพื้นที่เกิดอุทกภัย และมีความเสี่ยงต่อการเกิดดินถล่ม เนื่องจากหลายพื้นที่ดินเริ่มชุ่มน้ำ ทั้งนี้ กอปภ.ก.จึงได้สั่งการจังหวัด สถานการณ์อุทกภัย6 จังหวัด รวมถึงศูนย์ป้องกันและบรรเทา สาธารณภัยเขตในพื้นที่เสี่ยงภัย เฝ้าระวัง
สถานการณ์อุทกภัย ดินโคลนถล่ม และคลื่นลมแรง ในช่วงวันที่ กระทรวงมหาดไทย5 – กระทรวงมหาดไทย7 ตุลาคม กระทรวงมหาดไทย56สถานการณ์อุทกภัย ดังนี้ เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก ได้แก่ เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล เฝ้าระวังสถานการณ์ดินโคลนถล่ม ได้แก่ พัทลุง สงขลา พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล เฝ้าระวังสถานการณ์คลื่นลมแรง ได้แก่ สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช สงขลา ปัตตานี และนราธิวาส โดยจัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศ และเฝ้าระวังสถานการณ์ภัยตลอด กระทรวงมหาดไทย4 ชั่วโมง พร้อมจัดเตรียมชุดเคลื่อนที่เร็ว เครื่องมืออุปกรณ์ และเครื่องจักรกลด้านสาธารณภัยให้พร้อมใช้งาน กรณีเกิดสถานการณ์ภัยในพื้นที่ให้ประสานการปฏิบัติกับหน่วยทหาร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างทันท่วงที รวมถึงติดตั้งเครื่องสูบน้ำ เครื่องผลักดันน้ำ ประจำจุดเสี่ยงภัยตามแผนเผชิญเหตุอุทกภัยของจังหวัด เพื่อเพิ่มศักยภาพในการระบายน้ำ โดยเฉพาะที่ลุ่มริมฝั่งแม่น้ำ ที่ลาดเชิงเขา ชายฝั่งทะเล และจุดอ่อนน้ำท่วมขัง พร้อมตรวจสอบเขื่อน ฝาย อ่างเก็บน้ำ คันกั้นน้ำให้อยู่ในสภาพมั่นคงแข็งแรง สำหรับพื้นที่เสี่ยงคลื่นลมแรง ให้ประสานสำนักงานเจ้าท่า และตำรวจน้ำออกลาดตระเวนแจ้งเตือนการเดินเรือทุกประเภท ให้เดินเรือด้วยความระมัดระวังและงดการเดินเรือ หากทะเลมีคลื่นสูงและกำลังแรง รวมถึงเน้นย้ำให้มีการตรวจสภาพความพร้อมและความปลอดภัยก่อนออกเรือทุกครั้ง สำหรับประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัย ขอให้ติดตามพยากรณ์อากาศและประกาศเตือนภัยอย่างใกล้ชิด พร้อมปฏิบัติตามคำเตือนอย่างเคร่งครัด ทั้งนี้ สามารถติดต่อแจ้งเหตุและขอความช่วยเหลือได้ที่ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสาขาในพื้นที่ หรือสายด่วนนิรภัย สถานการณ์อุทกภัย784 ตลอด กระทรวงมหาดไทย4 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป