CEO Survey ทิศทางเศรษฐกิจอุตสาหกรรมครึ่งหลังปี 2561

          ศูนย์สำรวจความคิดเห็น "นิด้าโพล" สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) ร่วมกับ "สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย" (ส.อ.ท.) เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นของผู้ประกอบการในภาคอุตสาหกรรม เรื่อง "CEO Survey ทิศทางเศรษฐกิจอุตสาหกรรมครึ่งหลัง ปี 256สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย" โดยสอบถามความคิดเห็นจากผู้บริหารระดับสูง (CEO) ในภาคอุตสาหกรรมต่าง ๆ กระจายทั่วทุกภูมิภาค รวมทั้งสิ้นจำนวน 8สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ราย เกี่ยวกับทิศทางเศรษฐกิจอุตสาหกรรมครึ่งหลังปี 256สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ในมุมมองของผู้บริหาร (Chief Executive Officer: CEO) ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 25 มิถุนายน ถึง สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ กรกฎาคม 256สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย อาศัยการสุ่มตัวอย่างจากบัญชีรายชื่อผู้ประกอบการ ที่ขึ้นทะเบียนเป็นสมาชิกกับสภาอุตสาหกรรม แห่งประเทศไทย ด้วยวิธีแบบแบ่งชั้นภูมิ (Stratified Random Sampling) ตามภูมิภาค เก็บข้อมูลด้วยวิธีการสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ การส่งแฟกซ์ และการส่งแบบสอบถามทางออนไลน์ โดยกำหนดค่าความเชื่อมั่นที่ ร้อยละ 95.สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ 
          จากผลการสำรวจ เมื่อถามถึงความคิดเห็นของผู้บริหารระดับสูงต่อแนวโน้มเศรษฐกิจไทย ในช่วงครึ่งหลังปี 256สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย พบว่า ผู้บริหารระดับสูง ร้อยละ 4สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย.98 ระบุว่า แนวโน้มเศรษฐกิจไทยในช่วงครึ่งหลังปี 256สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย จะขยายตัว ร้อยละ 43.2สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ระบุว่า ทรงตัว และร้อยละ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย4.8สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ระบุว่า หดตัว โดยในจำนวนผู้ที่ระบุว่า แนวโน้มเศรษฐกิจไทยในช่วงครึ่งหลังปี 256สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย จะขยายตัวนั้น ร้อยละ 6สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย.77 ระบุว่า จะขยายตัว สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย% – 5% ร้อยละ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย4.7สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ระบุว่า ขยายตัว 6% – สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์% ร้อยละ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย.76 ระบุว่า ขยายตัวมากกว่า สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์% ขึ้นไป และไม่ระบุ/ไม่แน่ใจ ในสัดส่วนที่เท่ากัน ส่วนในจำนวนผู้ที่ระบุว่า แนวโน้มเศรษฐกิจไทยในช่วงครึ่งหลังปี 256สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย จะหดตัวนั้น ร้อยละ 4สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย.67 ระบุว่า จะหดตัว สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย% – 5% ร้อยละ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย6.67 ระบุว่า หดตัว 6% – สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์% ร้อยละ 33.33 ระบุว่า หดตัวมากกว่า สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์% ขึ้นไป และร้อยละ 8.33 ไม่ระบุ/ไม่แน่ใจ
          ด้านการคาดการณ์ของผู้บริหารระดับสูงต่อทิศทางแนวโน้มของภาคอุตสาหกรรม ในช่วงครึ่งหลังปี 256สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย พบว่า ผู้บริหารระดับสูง ร้อยละ 43.2สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ระบุว่า จะขยายตัว ร้อยละ 4สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์.74 ระบุว่า ทรงตัว และร้อยละ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย6.สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์5 ระบุว่า จะหดตัว โดยในจำนวนผู้ที่ระบุว่า ทิศทางแนวโน้มของภาคอุตสาหกรรม ในช่วงครึ่งหลังปี 256สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย จะขยายตัวนั้น ร้อยละ 54.29 ระบุว่า จะขยายตัว สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย% – 5% ร้อยละ 22.86 ระบุว่า จะขยายตัว 6% – สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์% ร้อยละ 5.7สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ระบุว่า จะขยายตัวมากกว่า สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์% ขึ้นไป และร้อยละ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย7.สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย4 ไม่ระบุ/ไม่แน่ใจ ส่วนในจำนวนผู้ที่ระบุว่า ทิศทางแนวโน้มของภาคอุตสาหกรรม ในช่วงครึ่งหลังปี 256สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย จะหดตัวนั้น ร้อยละ 38.46 ระบุว่า จะหดตัว สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย% – 5% ร้อยละ 23.สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์8 ระบุว่า จะหดตัว 6% – สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์% และจะหดตัวมากกว่า สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์% ขึ้นไป ในสัดส่วนที่เท่ากัน และร้อยละ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย5.38 ไม่ระบุ/ ไม่แน่ใจ
          สำหรับการคาดการณ์ของผู้บริหารระดับสูงต่อทิศทางแนวโน้มการส่งออกของภาคอุตสาหกรรม ในช่วงครึ่งหลังปี 256สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย พบว่า ผู้บริหารระดับสูงที่มีการส่งออก ร้อยละ 58.82 ระบุว่า ทิศทางแนวโน้มการส่งออกของภาคอุตสาหกรรม ในช่วงครึ่งหลังปี 256สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย จะเพิ่มขึ้น ร้อยละ 22.สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์6 ระบุว่า ทรงตัว และร้อยละ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย9.สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย2 ระบุว่า จะลดลง โดยในจำนวนผู้ที่ระบุว่า ทิศทางแนวโน้มการส่งออกของภาคอุตสาหกรรม ในช่วงครึ่งหลังปี 256สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย จะเพิ่มขึ้นนั้น ร้อยละ 4สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์.สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ ระบุว่า จะเพิ่มขึ้น สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย% – 5% ร้อยละ 35.สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ ระบุว่า จะเพิ่มขึ้น 6% – สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์% ร้อยละ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย5.สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ ระบุว่า จะเพิ่มขึ้นมากกว่า สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์% ขึ้นไป และร้อยละ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์.สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ ไม่ระบุ/ไม่แน่ใจ ส่วนในจำนวนผู้ที่ระบุว่า ทิศทางแนวโน้มการส่งออกของภาคอุตสาหกรรม ในช่วงครึ่งหลังปี 256สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย จะลดลงนั้น ร้อยละ 53.85 ระบุว่า จะเพิ่มขึ้น สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย% – 5% ร้อยละ 7.69 ระบุว่า จะเพิ่มขึ้น 6% – สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์% ร้อยละ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย5.38 ระบุว่า จะเพิ่มขึ้นมากกว่า สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์% ขึ้นไป และร้อยละ 23.สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์8 ไม่ระบุ/ไม่แน่ใจ 
          เมื่อถามถึงการคาดการณ์ของผู้บริหารระดับสูงต่อแผนการลงทุน ในช่วงครึ่งหลังปี 256สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย พบว่า ผู้บริหารระดับสูงส่วนใหญ่ ร้อยละ 4สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย.98 ระบุว่า ไม่มีแผนการลงทุน รองลงมา ร้อยละ 4สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์.74 ระบุว่า มีแผนการลงทุนในประเทศ ร้อยละ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย3.58 ระบุว่า มีแผนการลงทุนต่างประเทศ และร้อยละ 3.7สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ ระบุว่า มีแผนการลงทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศ
          ด้านประเทศที่ผู้บริหารระดับสูงมีแผนการลงทุน พบว่า ผู้บริหารระดับสูงส่วนใหญ่ ร้อยละ 64.29 ระบุว่า มีแผนการลงทุนใน CLMV ร้อยละ 2สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย.43 ระบุว่า มีแผนการลงทุนในสหภาพยุโรป และร้อยละ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย4.28 ระบุว่า มีแผนการลงทุนในประเทศจีน 
          สำหรับปัจจัยบวกที่ส่งผลต่อการประกอบกิจการ ในช่วงครึ่งหลังปี 256สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (3 อันดับแรก) พบว่า ผู้บริหารระดับสูงส่วนใหญ่ อันดับ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ร้อยละ 23.46 ระบุว่า การลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐ รองลงมา อันดับ 2 ร้อยละ 2สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย.สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย9 ระบุว่า ค่าเงินบาทที่มีแนวโน้มอ่อนค่า ช่วยสนับสนุนการส่งออก และอันดับ 3 ร้อยละ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย9.34 ระบุว่า การส่งออกที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ตามการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก 
          เมื่อถามถึงปัจจัยเสี่ยงที่ส่งผลต่อการประกอบกิจการ ในช่วงครึ่งหลังปี 256สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (3 อันดับแรก) พบว่า ผู้บริหารระดับสูงส่วนใหญ่ อันดับ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ร้อยละ 22.76 ระบุว่า กำลังซื้อในประเทศ และความไม่แน่นอนเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจ รองลงมา อันดับ 2 ร้อยละ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย9.5สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ระบุว่า ราคาน้ำมันในประเทศที่ปรับตัวสูงขึ้นตามราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่ส่งผลกระทบต่อต้นทุนการผลิตโดยรวม และอันดับ 3 ร้อยละ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์.77 ระบุว่า การแข่งขันที่รุนแรงขึ้นจากตลาดในประเทศ 
          ด้านการวางแผนของผู้บริหารระดับสูงในการดำเนินกิจการ ในช่วงครึ่งหลังปี 256สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (3 อันดับแรก) พบว่า ผู้บริหารระดับสูง ส่วนใหญ่ อันดับ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ร้อยละ 28.6สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ ระบุว่า ปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต และลดต้นทุนการผลิต รองลงมา อันดับ 2 ร้อยละ 22.43 ระบุว่า สร้างมูลค่าเพิ่มให้สินค้า การลงทุนพัฒนานวัตกรรม และเทคโนโลยีการผลิตใหม่ และอันดับ 3 ร้อยละ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย7.9สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ ระบุว่า เร่งพัฒนาคุณภาพ มาตรฐานสินค้า ให้สินค้าไทยสามารถแข่งขันได้ในระดับโลก 
          ท้ายที่สุด เมื่อถามถึงสิ่งที่ต้องการให้ภาครัฐออกมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการ (3 อันดับแรก) พบว่า ผู้บริหารระดับสูงส่วนใหญ่ อันดับ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ร้อยละ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย8.7สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ ระบุว่า ดูแลค่าเงินบาท ไม่ให้แข็งค่ากว่าประเทศอื่นในภูมิภาค เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน รองลงมา อันดับ 2 ร้อยละ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย7.89 ระบุว่า สนับสนุนผู้ประกอบการในการสร้างนวัตกรรม เพื่อยกระดับสินค้าไทยสู่ตลาดโลก และอันดับ 3 ร้อยละ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย3.82 ระบุว่า สนับสนุนการเตรียมความพร้อมด้านกำลังแรงงานและคุณภาพแรงงานให้เพียงพอต่อการรองรับการขยายตัวของภาคการผลิต 
          เมื่อพิจารณาลักษณะทั่วไปของตัวอย่าง พบว่า ร้อยละ 64.2สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ เป็นผู้ประกอบการจากภาคกลาง ร้อยละ 9.88 เป็นผู้ประกอบการ จากภาคเหนือ ร้อยละ 4.94 เป็นผู้ประกอบการจากภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ร้อยละ 7.4สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ เป็นผู้ประกอบการจากภาคตะวันออก ร้อยละ 9.88 เป็นผู้ประกอบการจากภาคใต้ และร้อยละ 3.7สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ ไม่ระบุภูมิภาค
          ตัวอย่าง ร้อยละ 8.64 เป็นผู้ประกอบการจากกลุ่มอุตสาหกรรมแฟชั่น ร้อยละ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย2.35 เป็นผู้ประกอบการจากกลุ่มอุตสาหกรรมก่อสร้าง ร้อยละ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย.สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เป็นผู้ประกอบการจากกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์และเครื่องจักรกล ร้อยละ 3.7สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ เป็นผู้ประกอบการจากกลุ่มอุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ ร้อยละ 22.22 เป็นผู้ประกอบการจากกลุ่มอุตสาหกรรมอาหารและยา ร้อยละ 29.63 เป็นผู้ประกอบการจากกลุ่มอุตสาหกรรมสนับสนุน และร้อยละ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย2.35 ไม่ระบุกลุ่มอุตสาหกรรมหลัก
          ตัวอย่าง ร้อยละ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย2.34 เป็นผู้ประกอบการขนาดเล็ก S (จำนวนแรงงาน น้อยกว่า 49 คน) ร้อยละ 38.27 เป็นผู้ประกอบการขนาดกลาง M (จำนวนแรงงาน 5สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ – สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย99 คน) ร้อยละ 39.5สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เป็นผู้ประกอบการขนาดใหญ่ L (จำนวนแรงงานมากกว่า 2สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ คน) และร้อยละ 9.88 ไม่ระบุขนาดอุตสาหกรรม