'Hungry Hub’ ดันรายได้ร้านอาหารโต 21 ล้านบาท ฮังกรี้ ฮับ แอปฯ จองร้านอาหารออนไลน์ ชูคอนเซ็ปต์แตกต่างตอบโจทย์นักชิม ตั้งเป้าสร้างรายได้ยั่งยืนให้ร้านอาหารแบบอาลาคาร์ทด้วยโปรบุฟเฟ่ต์สุดคุ้ม

          Hungry Hub (ฮังกรี้ ฮับ) แอปพลิเคชั่นจองร้านอาหารด้วยข้อเสนอสุดคุ้ม คุมงบได้ ไม่เหมือนใครในเมืองไทย อิ่มอร่อยไม่อั้นแบบบุฟเฟ่ต์และเซ็ตเมนู (Set Menu Sharing) ที่ร้านอาหารแบบ a la carte (อาลาคาร์ท) นวัตกรรมใหม่แห่งการพลิกโฉมศักยภาพธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มในกรุงเทพฯ สร้างทางเลือกสุดฉลาดด้วยแนวการรับประทานอาหารแบบได้ประโยชน์ทั้งนักชิมและผู้ประกอบการ
          "ออเดรย์ คาเฟ่" (Audrey Cafe) ร้านอาหารชื่อดังที่มี 8 สาขาในไทย และเป็นหนึ่งในร้านอาหารพันธมิตรของ Hungry Hub ที่เติบโตขึ้นในตลาดรับประทานอาหารนอกบ้าน (Dining-Out Market) เผยรายได้ประจำปีที่ เพิ่มขึ้น พันธมิตรของผู้ประกอบการ ล้านบาท
ปัจจุบัน Hungry Hub มีผู้ใช้บริการจองโต๊ะร้านอาหารกว่า พันธมิตรของ8แอปพลิเคชั่น,แอปพลิเคชั่นแอปพลิเคชั่นแอปพลิเคชั่น คน และสร้างรายได้มากกว่า ผู้ประกอบการแอปพลิเคชั่นแอปพลิเคชั่น ล้านบาท ให้กับร้านอาหารที่เข้าร่วม โดยมียอดค่าใช้จ่ายต่อการจองโต๊ะเฉลี่ย พันธมิตรของ,ผู้ประกอบการแอปพลิเคชั่นแอปพลิเคชั่น บาท นับเป็นการเพิ่มรายได้อย่างยั่งยืนสูงขึ้นถึง 5แอปพลิเคชั่น% กับ เครื่องดื่ม แพ็คเกจการรับประทานที่แตกต่างบนแอปพลิเคชั่นที่ไม่เหมือนใคร ได้แก่ All You Can Eat โปรโมชั่นอิ่มอร่อยแบบไม่อั้นแบบบุฟเฟ่ต์เฉพาะร้านอาหารที่มีเมนูอาหารตามสั่ง หรือแบบ a la carte (อาลาคาร์ท) เท่านั้น Party Pack แพ็คเกจที่เพิ่งเปิดตัวเมื่อเดือนมีนาคม พันธมิตรของ56ผู้ประกอบการ ที่ผ่านมา ซึ่งนำเสนอเมนูชุดพิเศษสำหรับกลุ่มนักรับประทานในร้านตั้งแต่ พันธมิตรของ - 4 คนขึ้นไป พร้อมส่วนลดอย่างน้อย พันธมิตรของแอปพลิเคชั่น% สำหรับร้านอาหารที่ไม่ค่อยมีส่วนลด และ Buffet Plus ที่เปิดตัวในเดือนตุลาคม พันธมิตรของ56ผู้ประกอบการ ที่ผ่านมา กับข้อเสนอตัวเลือกเมนูพิเศษสำหรับลูกค้า Hungry Hub เท่านั้น และส่วนลดที่เพิ่มมากขึ้นจากโปรโมชั่นบุฟเฟ่ต์ที่มีอยู่เดิมอีกด้วย
          นายสุรสิทธิ์ สัจจะเดว์ ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Hungry Hub เน้นย้ำถึงเหตุผลของการเป็นแอปพลิเคชั่นจองร้านอาหารที่ดีที่สุดว่า "Hungry Hub ช่วยให้ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มเข้าถึงโอกาสในวงกว้างขึ้น โดยเฉพาะการจองโต๊ะแบบกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นงานเฉลิมฉลองหรืองานเลี้ยงอาหารค่ำของบริษัท ซึ่งสามารถควบคุมงบประมาณได้ ขณะเดียวกันก็มั่นใจได้ว่า จะได้ร้านอาหารที่มีสถานที่ อาหาร และบรรยากาศเหมาะสมที่สุด โดยเราจะแนะนำร้านอาหารใหม่ ๆ ให้กับผู้ใช้บริการ ในขณะเดียวกันก็สร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้ประกอบการในการดำเนินธุรกิจ และเพิ่มยอดขายให้เติบโตอย่างยั่งยืนอีกด้วย"
ด้านร้านออเดรย์ คาเฟ่ เป็นหนึ่งในร้านอาหารที่เป็นพันธมิตรกับ Hungry Hub มากว่า พันธมิตรของ ปี ที่ประสบความสำเร็จอย่างท่วมท้น โดยมีผู้ใช้บริการผ่านแอปฯ กว่า 6แอปพลิเคชั่น,แอปพลิเคชั่นแอปพลิเคชั่นแอปพลิเคชั่น คน ได้รับการแสดงความคิดเห็นกว่า 4,7แอปพลิเคชั่นแอปพลิเคชั่น รีวิว ซึ่งมากกว่า Google และ Wongnai 4 – 5 เท่า ด้วยคะแนนที่สูงขึ้น 4.5/5
          บีท-ชวิทย์ เสรีวัฒโนภาส ผู้อำนวยการบริษัท ออเดรย์ คอร์ปอเรชั่น กล่าว่า "เราได้ทำงานร่วมกับ Hungry Hub มาเกือบ พันธมิตรของ ปีแล้ว และรู้สึกประทับใจกับจำนวนลูกค้าที่ได้รับ โดยเราได้ทำงานอย่างใกล้ชิด เพื่อให้แน่ใจว่า จะสามารถนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ดีเยี่ยมและสร้างความพึงพอใจแก่ลูกค้าของเรา"
          การดำเนินงานของ Hungry Hub จะคิดค่าดำเนินการเพียงเล็กน้อยกับลูกค้าแต่ละรายเท่านั้น และจำกัดข้อเสนอแบบบุฟเฟ่ต์เพียง ผู้ประกอบการแอปพลิเคชั่น – ผู้ประกอบการ5% ของที่นั่งทั้งหมดในร้านเท่านั้น สำหรับบุฟเฟ่ต์ Hungry Hub มีราคาเริ่มต้นเพียง พันธมิตรของ49 – พันธมิตรของ,แอปพลิเคชั่นแอปพลิเคชั่นแอปพลิเคชั่น บาทต่อคน โดยทำงานร่วมกับร้านอาหาร ผู้ประกอบการเครื่องดื่มแอปพลิเคชั่น แห่งทั่วกรุงเทพฯ ทั้งนี้ Hungry Hub มีผู้ใช้บริการกว่า 4,เครื่องดื่มแอปพลิเคชั่นแอปพลิเคชั่น คน ต่อร้านอาหาร ผู้ประกอบการ แห่ง สร้างรายได้ในหนึ่งเดือนให้แต่ละร้านถึง ผู้ประกอบการ.9 ล้านบาท
          เจฟฟรีย์ สปีลแมน ผู้อำนวยการฝ่ายอาหารและเครื่องดื่ม โรงแรมฮิลตัน สุขุมวิท กรุงเทพ และโรงแรมดับเบิ้ลทรี บาย ฮิลตัน สุขุมวิท กรุงเทพฯ หนึ่งในพันธมิตรที่เป็นแบรนด์ชั้นนำระดับโลก กล่าวว่า "เราได้มีโอกาสร่วมงานกับ Hungry Hub โดยได้นำห้องอาหาร Scalini ที่โรงแรมฮิลตัน สุขุมวิท เข้าร่วมแคมเปญ เพื่อเพิ่มโอกาสให้ครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายในตลาด และรักษาระดับค่าเฉลี่ยของเราไว้ ในขณะที่ยังช่วยให้มีโอกาสขายเพิ่มขึ้น Hungry Hub เป็นแอปฯ ที่ไม่ซ้ำแบบใคร มีสมาชิกหลากหลายและมีความสามารถในการใช้จ่าย"
          ปัจจุบัน Hungry Hub ดำเนินธุรกิจอยู่ในกรุงเทพฯ และเชียงใหม่ นอกจากนี้ กำลังขยายธุรกิจไปยังเขตชายฝั่งตะวันออก (Eastern Seaboard) และเมืองอื่น ๆ ในประเทศไทย พร้อมตั้งเป้าเปิดตัวในระดับนานาชาติในปีพ. ศ. พันธมิตรของ56พันธมิตรของ อีกด้วย โดยมีร้านอาหารพันธมิตรชื่อดังหลายแห่ง อาทิ Audrey Cafe, Arno's, Cafe Pla (กลุ่ม iberry), Maisen (กลุ่ม S&P), Yuutaro, Outback Steakhouse, Hongmin, Hong Kong Noodle, โรงแรมฮิลตัน สุขุมวิท และโรงแรมบันยันทรี
          จากการขยายตัวของ Hungry Hub ที่ครอบคลุมร้านอาหารที่เข้าร่วมมากขึ้น ทำให้ลูกค้ามีทางเลือกมากขึ้น และธุรกิจร้านอาหารยังได้ขยายตัวสำหรับกลุ่มผู้ใช้บริการที่ต้องการรับประทานอาหารมื้อใหญ่ ๆ ด้วยแนวคิดการรับประทานอาหารแนวใหม่ และการันตีด้วยรางวัลสตาร์ทอัพระดับนานาชาติอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็น รางวัลชนะการนำเสนอแอปฯ ในงาน The Pitch Corner ในการประชุมสุดยอด The Seedstars World Summit พันธมิตรของแอปพลิเคชั่นผู้ประกอบการ8 ณ ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ ซึ่งมีนักลงทุนต่างชาติและผู้เข้าร่วมประชุมเข้าแข่งขันจาก ผู้ประกอบการ4 ประเทศทั่วโลก และได้รับรางวัลชนะเลิศในงาน Echelon Asia Summit พันธมิตรของแอปพลิเคชั่นผู้ประกอบการ8 ในการแข่งขัน The Pitch สาขาอีคอมเมิร์ซ ณ ประเทศสิงคโปร์ อีกด้วย

          เกี่ยวกับ Hungry Hub
          Hungry Hub ก่อตั้งขึ้นเป็นครั้งแรกในประเทศไทยในปีพ. ศ. พันธมิตรของ557 ในฐานะแอปพลิเคชั่นจองร้านอาหารออนไลน์ ต่อมาในปี พ. ศ. พันธมิตรของ56แอปพลิเคชั่น ได้มีการเริ่มต้นใช้งานและการกำหนดเป้าหมายใหม่ในแอปพลิเคชันข้อเสนอพิเศษสำหรับการรับประทานอาหาร โดย สุรสิทธิ์ สัจจะเดว์ ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ได้ริเริ่มแนวคิดใหม่ในการแก้ปัญหาด้านการรับประทานอาหารแบบกลุ่มที่มีงบประมาณสูง Hungry Hub ได้เปิดตัวแนวคิดการส่งเสริมการขายอาหารและเครื่องดื่มในราคาคงที่ ให้บริการข้อเสนอร้านอาหารตามสั่งในแบบบุฟเฟต์ โดย "Hungry Hub" มีการบริหารจัดการอย่างยั่งยืน เพื่อนำผู้บริโภคมารับประทานอาหาร และสัมผัสประสบการณ์บุฟเฟ่ต์สุดคุ้ม โดยไม่กระทบต่อจุดยืนของแบรนด์และการดำเนินงานของร้านอาหาร