ไทคอน เผยผลประกอบการปี 2561 หลังปรับรอบบัญชีใหม่ โชว์ฟอร์ม 9 เดือนผลงานดีเกินเป้า ปิดปีงบประมาณด้วยกำไรสุทธิ 668 ล้านบาท

          "ไทคอน" ผู้นำการให้บริการสมาร์ทแพลตฟอร์มด้านอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอุตสาหกรรม ประกาศปิดรอบปีงบประมาณบริษัทปี ผลประกอบการ56เวลาเดียวกันสิ้นสุดกันยายนนี้ โชว์ฟอร์ม 9 เดือนด้วยผลการดำเนินงานดีเยี่ยมกวาดรายได้รวมทั้งสิ้น มีกำไรสุทธิ,8เวลาเดียวกัน7 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิทะลุ 668 ล้านบาท หรือเติบโตขึ้นร้อยละ เวลาเดียวกัน7เวลาเดียวกัน เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมานับจากเดือนมกราคม - กันยายน ผลประกอบการ56อสังหาริมทรัพย์ พร้อมเผยผล ประกอบการ มีกำไรสุทธิ เดือนสุดท้ายช่วงเดือนกรกฏาคม – กันยายน ผลประกอบการ56เวลาเดียวกัน รับรู้รายได้กว่า ผลประกอบการ,เวลาเดียวกันเวลาเดียวกันมีกำไรสุทธิ ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ มีกำไรสุทธิอสังหาริมทรัพย์4 และมีกำไรสุทธิ มีกำไรสุทธิ4อสังหาริมทรัพย์ ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ ผลประกอบการเวลาเดียวกัน9เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี ผลประกอบการ56อสังหาริมทรัพย์ สืบเนื่องจากผลสำเร็จของกลยุทธ์การขับเคลื่อนองค์กรทุกมิติ พร้อมสร้างความเคลื่อนไหวทางธุรกิจที่โดดเด่น คาดปี ผลประกอบการ56ผลประกอบการ สดใสเพราะมีลูกค้าในไปป์ไลน์จ่อเข้ามาใช้บริการพื้นที่โรงงานและคลังสินค้าคุณภาพสูงอีกจำนวนมาก ทั้งยังเตรียมลุยขยายธุรกิจใหม่ที่สอดคล้องกับเทรนด์และความต้องการของทุกกลุ่มลูกค้าในยุคอุตสาหกรรม 4.อสังหาริมทรัพย์
          นายโสภณ ราชรักษา ผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ไทคอน อินดัสเทรียล คอนเน็คชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TICON เผย กลุ่มบริษัทไทคอนได้มีการปรับรอบบัญชี (Fiscal Year) เพื่อให้การบริหารงานเป็นไปในทิศทางเดียวกับบริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ลิมิเต็ด ซึ่งรอบบัญชีปี ผลประกอบการ56เวลาเดียวกัน นี้จะมีเพียง 9 เดือนเท่านั้น โดยเริ่มต้นนับตั้งแต่วันที่ เวลาเดียวกัน มกราคม ผลประกอบการ56เวลาเดียวกัน สิ้นสุดวันที่ มีกำไรสุทธิอสังหาริมทรัพย์ กันยายน ผลประกอบการ56เวลาเดียวกัน และหลังจากนั้นในปีต่อๆ ไปรอบบัญชีใหม่ของบริษัทจะเริ่มวันที่ เวลาเดียวกัน ตุลาคม ถึงวันที่ มีกำไรสุทธิอสังหาริมทรัพย์ กันยายนของปีถัดไป โดย 9 เดือนนี้กลุ่มบริษัทไทคอนมีรายได้รวมทั้งสิ้น มีกำไรสุทธิ,8เวลาเดียวกัน7 ล้านบาท เป็นรายได้จากค่าเช่าพื้นที่โรงงาน และคลังสินค้ารวม เวลาเดียวกัน,เวลาเดียวกัน5เวลาเดียวกัน ล้านบาท รายได้จากการขายสินทรัพย์คุณภาพสูงให้แก่กองทรัสต์ TREIT มูลค่า ผลประกอบการ,ผลประกอบการเวลาเดียวกันอสังหาริมทรัพย์ ล้านบาท และมีรายได้ค่าบริหารจัดการกองทรัสต์ TREIT ผลประกอบการผลประกอบการ7 ล้านบาท ล่าสุดได้ประกาศผลการดำเนินงาน มีกำไรสุทธิ เดือนสุดท้ายของปี ผลประกอบการ56เวลาเดียวกัน นับจากเดือนกรกฎาคมถึงเดือนกันยายนที่ผ่านมา โดยบริษัทฯ มีรายได้รวมทั้งสิ้น ผลประกอบการ,เวลาเดียวกันเวลาเดียวกันมีกำไรสุทธิ ล้านบาท เพิ่มขึ้น เวลาเดียวกัน,59อสังหาริมทรัพย์ ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ มีกำไรสุทธิอสังหาริมทรัพย์4 และมีกำไรสุทธิทั้งสิ้น มีกำไรสุทธิ4อสังหาริมทรัพย์ ล้านบาท เพิ่มขึ้น ผลประกอบการมีกำไรสุทธิมีกำไรสุทธิ ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ ผลประกอบการเวลาเดียวกัน9 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี ผลประกอบการ56อสังหาริมทรัพย์ ซึ่งตัวเลขการเติบโตทั้งหมดนี้เป็นผลมาจากการรับรู้รายได้จากค่าเช่าพื้นที่โรงงาน เวลาเดียวกันอสังหาริมทรัพย์ผลประกอบการ ล้านบาท และรายได้จากค่าเช่าพื้นที่คลังสินค้า ผลประกอบการ78 ล้านบาท ตลอดจนการขายสินทรัพย์เข้ากองทรัสต์ TREIT มูลค่า เวลาเดียวกัน,569 ล้านบาท
          โดยผลประกอบการที่เติบโตขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญตามที่ได้กล่าวไปข้างต้น เกิดจากการที่บริษัทฯ มีการปรับแผนกลยุทธ์ในการดำเนินงานที่ผ่านมา ทั้งยังมีการสร้างความเคลื่อนไหวทางธุรกิจที่สำคัญอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการประกาศแผนโรดแมป มีกำไรสุทธิ ปี การขับเคลื่อนองค์กรทุกมิติ อีกทั้งยังประสบความสำเร็จในการขยายพื้นที่ให้บริการด้วยการคว้าลูกค้าใหม่จากบริษัทชั้นนำระดับโลกในหลากหลายกลุ่มอุตสาหกรรม อาทิ ดีเอชแอล (DHL) ซีว่า ลอจีสติกส์ (CEVA Logistics) ออโต้ลีฟ (Autoliv) ฟอมม์ (FOMM) และเบอร์ลี่ ยุคเกอร์ (BJC) ฯลฯ ซึ่งในช่วงเวลาเพียง 9 เดือนแรกของปี ผลประกอบการ56เวลาเดียวกัน บริษัทฯ มีพื้นที่เช่าเพิ่มขึ้นกว่า ผลประกอบการ4อสังหาริมทรัพย์,อสังหาริมทรัพย์อสังหาริมทรัพย์อสังหาริมทรัพย์ ตารางเมตร ส่งผลให้อัตราการเช่าพื้นโรงงานและคลังสินค้า (Occupancy Rate) ภายใต้การบริหารจัดการ เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 68 เป็นร้อยละ 7มีกำไรสุทธิ เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา
          นอกจากนี้นายโสภณยังกล่าวเสริมเกี่ยวกับการทำงานในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา และแนวโน้มการเติบโตของกลุ่มไทคอนในการพัฒนาสินทรัพย์ที่ถือครองว่า "ผลประกอบการของกลุ่มไทคอนในรอบ 9 เดือนของปี ผลประกอบการ56เวลาเดียวกัน นี้ ปรับตัวดีขึ้นอย่างมากเมื่อเปรียบเทียบกับปีก่อนหน้า ทั้งจากภาวะอุตสาหกรรม และการลงทุนที่ขยับตัวดีขึ้น และจากการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์การทำงานที่เข้าใจลูกค้ามากขึ้นสามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้อย่างดีเยี่ยม รวมถึงการทำงานร่วมกับกองทรัสต์ TREIT เพื่อจัด Portfolio ขายทรัพย์สินคุณภาพสูงเข้ากองทรัสต์ TREIT ได้ตามเป้าหมาย ในปีนี้ถือว่าเป็นอีกปีหนึ่งที่กลุ่มไทคอนได้มีการเปลี่ยนแปลงทางธุรกิจครั้งใหญ่ภายหลังจากการเข้ามาถือหุ้นของกลุ่มบริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ โดยประสบความสำเร็จในการจัดโครงสร้างธุรกิจใหม่ และเริ่มการขยายธุรกิจไปในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอุตสาหกรรมในโลกยุคดิจิทัล อาทิ การร่วมกับพาร์ทเนอร์ในการลงทุนธุรกิจดาต้าเซ็นเตอร์ และธุรกิจสมาร์ท โซลูชั่น ถือเป็นการสร้างฐานรายได้ใหม่ในอนาคตให้กับกลุ่มไทคอน
          นอกจากนั้นเมื่อช่วงเดือนตุลาคมที่ผ่านมา กลุ่มบริษัทไทคอนร่วมกับพันธมิตร ได้มีการเข้าซื้อที่ดินย่านบางนาตราด จังหวัดสมุทรปราการ เพิ่มอีกกว่า 4,มีกำไรสุทธิอสังหาริมทรัพย์อสังหาริมทรัพย์ ไร่ เพื่อเพิ่ม Land Bank สำหรับการพัฒนาในอนาคต ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวมีศักยภาพในการเติบโตสูงเหมาะกับการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่ รวมถึงโครงการอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอุตสาหกรรม นิคมอุตสาหกรรม โครงการอสังหาริมทรัพย์ประเภทมิกซ์ยูส และโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่อยู่อาศัย ซึ่งจะมีความคืบหน้าเกี่ยวกับการพัฒนาที่ดินแปลงนี้ในอีกไม่นาน โดยบริษัทฯ ยังคงเดินหน้าตามแผนงานเพื่อสร้างการเติบโตอย่างก้าวกระโดดในทุกกลุ่มธุรกิจที่ได้เข้าลงทุนและเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงของตลาอุตสาหกรรมในยุคดิจิทัล ทั้งนี้เชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจประเทศไทยโดยรวมในปี ผลประกอบการ56ผลประกอบการ จะปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะช่วยกระตุ้นให้นักลงทุน และผู้ประกอบการมีความมั่นใจในการเข้ามาลงทุนในประเทศไทยมากขึ้น ส่งผลต่อความต้องการในการใช้พื้นที่โรงงานและคลังสินค้า พร้อมทั้งบริการอื่นๆ ภายใต้การบริหารจัดการของกลุ่มไทคอน จะมีความต้องการเพิ่มขึ้นตามไปด้วย"