ส่องไทม์ไลน์ดัชนีราคาสินค้าเกษตรรอบ 9 ปี พร้อมเปิดตัวเลขมูลค่าผลผลิตหลังไทยผ่านพ้นเอลนีโญ

          นางสาวจริยา สุทธิไชยา เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่าสถานการณ์ราคาสินค้าเกษตรในช่วงไตรมาสที่ 3 (เดือนกรกฎาคม - กันยายน) ซึ่งวัดจากดัชนีราคาสินค้าเกษตร ปี ดัชนีราคาสินค้าเกษตร548 ซึ่งมีค่าเท่ากับ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร และจากการวิเคราะห์ในช่วง 9 ปีที่ผ่านมาตั้งแต่ปี ดัชนีราคาสินค้าเกษตร55ดัชนีราคาสินค้าเกษตร - ดัชนีราคาสินค้าเกษตร56กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พบว่า ปี ดัชนีราคาสินค้าเกษตร55ดัชนีราคาสินค้าเกษตร เป็นปีที่ดัชนีราคาสินค้าเกษตรต่ำสุด ในรอบ 9 ปี คือ อยู่ที่ระดับ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์กระทรวงเกษตรและสหกรณ์9.77 โดยปี ดัชนีราคาสินค้าเกษตร557 อยู่ที่ระดับ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์4ดัชนีราคาสินค้าเกษตร.ดัชนีราคาสินค้าเกษตรกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และปี ดัชนีราคาสินค้าเกษตร56กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ อยู่ที่ระดับ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ดัชนีราคาสินค้าเกษตร6.6สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร 
          ด้านมูลค่าผลผลิตทางการเกษตรของประเทศมีแนวโน้มลดลง โดยปี ดัชนีราคาสินค้าเกษตร556 มูลค่าผลผลิตทางการเกษตรอยู่ที่ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์.4ดัชนีราคาสินค้าเกษตร ล้านล้านบาท ซึ่งลดลงในอัตราร้อยละ ดัชนีราคาสินค้าเกษตร.ดัชนีราคาสินค้าเกษตร3 เหลือ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์.กระทรวงเกษตรและสหกรณ์4 ล้านล้านบาท ในปี ดัชนีราคาสินค้าเกษตร56สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร อันเป็นผลกระทบจากเกิดปรากฎการณ์เอลนิโญในประเทศไทยที่รุนแรงมากในช่วงปลายปี ดัชนีราคาสินค้าเกษตร557 จนถึงต้นปี ดัชนีราคาสินค้าเกษตร559 ทำให้ผลผลิตพืชสำคัญ คือ ข้าวนาปรังลดลงอย่างมาก รวมทั้งพืชไร่ ซึ่งภาครัฐได้มีมาตรการช่วยเหลือชดเชยความเสียหายให้กับเกษตรกรในพื้นที่ประสบภัยแล้งดังกล่าวและเป็นกรณีพิเศษด้วยแล้ว รวมทั้งปรับระบบการบริหารจัดการน้ำและการผลิตการเกษตรให้เหมาะสมกับสภาพพื้นที่ เช่นปลูกพืชใช้น้ำน้อย ปรับเปลี่ยนการผลิตตาม Agri-Map
          สำหรับปี ดัชนีราคาสินค้าเกษตร56กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สศก. คาดว่ามูลค่าผลผลิตสินค้าเกษตรจะเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปี ดัชนีราคาสินค้าเกษตร56สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร ซึ่งเป็นผลมาจากผลผลิตสินค้าเกษตรที่สำคัญเพิ่มขึ้น อาทิ ข้าว ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ อ้อยโรงงาน สับปะรด ยางพารา ปาล์มน้ำมัน และไม้ผล (ลำไย ทุเรียน และมังคุด) จากปัจจัยบวกมาจากสภาพอากาศและปริมาณน้ำที่เอื้ออำนวย ประกอบกับสินค้าสำคัญ เช่น ข้าว มันสำปะหลัง ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ผลไม้ ตลาดยังมีความต้องการอย่างต่อเนื่อง