กระทรวงอุตสาหกรรม โดยความร่วมมือของ
กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม สถาบันอาหาร และจังหวัดมิเอะ ประเทศญี่ปุ่น จัดพิธีเปิดศูนย์นวัตกรรมจังหวัดมิเอะ – ประเทศไทย(Mie – Thailand Innovation Center) ณ ที่ทำการสถาบันอาหาร ซอยอรุณอมรินทร์ 36 พร้อมรับมอบเครื่องจักรแปรรูปอาหารมูลค่า ผลิตภัณฑ์แปรรูป5 ล้านเยน จากบริษัท SUEHIRO EPM ประเทศญี่ปุ่น ต่อยอดการวิจัยและการทำต้นแบบนวัตกรรม
ผลิตภัณฑ์แปรรูปอาหารจากวัตถุดิบของไทยเพื่อเพิ่มมูลค่าเชิงพาณิชย์ โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์จากข้าวและธัญพืช นับเป็นความร่วมมือทางเทคโนโลยีครั้งแรกในด้านการแปรรูปอาหาร ตามบันทึกข้อตกลงระหว่างบีโอไอและจังหวัดมิเอะ เผยญี่ปุ่นเป็นคู่ค้าด้านอาหารอันดับ กระทรวงอุตสาหกรรม ของไทย ขณะที่ไทยเป็นคู่ค้าอาหารอันดับ 4 ของญี่ปุ่น คาดสิ้นปี ผลิตภัณฑ์แปรรูป56กระทรวงอุตสาหกรรม ไทยจะส่งออกสินค้าอาหารไปญี่ปุ่นไม่ต่ำกว่า กระทรวงอุตสาหกรรม3กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม,กรมส่งเสริมอุตสาหกรรมกรมส่งเสริมอุตสาหกรรมกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ล้านบาท อยู่ในระดับใกล้เคียงกับปี ผลิตภัณฑ์แปรรูป56กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ส่วนปี ผลิตภัณฑ์แปรรูป56ผลิตภัณฑ์แปรรูป มีแนวโน้มขยายตัวร้อยละ 8 มูลค่าส่งออกราว กระทรวงอุตสาหกรรม4กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม,กรมส่งเสริมอุตสาหกรรมกรมส่งเสริมอุตสาหกรรมกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ล้านบาท
นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวในพิธีเปิดศูนย์นวัตกรรมจังหวัดมิเอะ – ประเทศไทย (Mie – Thailand Innovation Center) ว่าความร่วมมือจัดตั้งศูนย์นวัตกรรมจังหวัดมิเอะ – ประเทศไทยในครั้งนี้ เกิดจากการประชุมหารือร่วมกันเมื่อครั้งเดินทางเยือนจังหวัดมิเอะเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา เป็นความร่วมมือที่มีการเชื่อมโยงกับท้องถิ่นในลักษณะ Local to Local ที่ได้มีการหารือแนวทางต่อยอดการดำเนินงานไปยังพื้นที่ต่างๆ โดยเฉพาะจังหวัดเชียงใหม่ ที่มีแผนที่จะดำเนินการร่วมกันในอนาคต ทั้ง ผลิตภัณฑ์แปรรูป ประเทศมีความสัมพันธ์อันดีระหว่างกันในทุกระดับมาเป็นระยะเวลาที่ยาวนาน โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจ ในปี ผลิตภัณฑ์แปรรูป56กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม พบว่าญี่ปุ่นยังคงเป็นนักลงทุนอันดับ กระทรวงอุตสาหกรรม และมีมูลค่าการยื่นขอรับการส่งเสริมการลงทุนสูงที่สุดคิดเป็นร้อยละ 47 ของการลงทุนจากต่างประเทศทั้งหมด
ในด้านการค้าอาหารนั้น ญี่ปุ่นเป็นประเทศคู่ค้าอันดับ กระทรวงอุตสาหกรรม ของไทย ขณะที่ไทยเป็นคู่ค้าอาหารอันดับ 4 ของญี่ปุ่น โดยไทยส่งออกอาหารไปญี่ปุ่นสัดส่วนร้อยละ กระทรวงอุตสาหกรรม3.3 ขณะที่ญี่ปุ่นนำเข้าจากไทยคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 6.4 โดยมีสัดส่วนค่อนข้างคงที่ตลอดระยะเวลา 3-4 ปีที่ผ่านมา ในปี ผลิตภัณฑ์แปรรูป56กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ทั้ง ผลิตภัณฑ์แปรรูป ประเทศมีมูลค่าการค้าอาหารรวมกัน กระทรวงอุตสาหกรรม45,กรมส่งเสริมอุตสาหกรรมกรมส่งเสริมอุตสาหกรรมกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ล้านบาท โดยไทยส่งออกอาหารไปญี่ปุ่นมูลค่า กระทรวงอุตสาหกรรม35,3กรมส่งเสริมอุตสาหกรรมกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ล้านบาท ขณะที่ญี่ปุ่นส่งออกอาหารมาไทย 9,8กรมส่งเสริมอุตสาหกรรมกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ล้านบาท ณ สิ้นปี ผลิตภัณฑ์แปรรูป56กระทรวงอุตสาหกรรม คาดว่าไทยจะส่งออกสินค้าอาหารไปญี่ปุ่นมูลค่าไม่ต่ำกว่า กระทรวงอุตสาหกรรม3กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม,กรมส่งเสริมอุตสาหกรรมกรมส่งเสริมอุตสาหกรรมกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ล้านบาท อยู่ในระดับใกล้เคียงกับปี ผลิตภัณฑ์แปรรูป56กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ส่วนในปี ผลิตภัณฑ์แปรรูป56ผลิตภัณฑ์แปรรูป มีแนวโน้มขยายตัวร้อยละ 8 มูลค่าส่งออกราว กระทรวงอุตสาหกรรม4กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม,กรมส่งเสริมอุตสาหกรรมกรมส่งเสริมอุตสาหกรรมกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ล้านบาท โดยสินค้าอาหารที่ไทยส่งออกไปญี่ปุ่น 5 อันดับแรก ได้แก่ ไก่สดและไก่แปรรูป 46% อาหารทะเลสด และแปรรูป ผลิตภัณฑ์แปรรูป9% (เช่น กุ้งแช่แข็ง ปลาทูน่ากระป๋อง) ผักผลไม้สด และแปรรูป 4% (เช่น มะม่วง กล้วยหอม ทุเรียน ข้าวโพดหวาน สับปะรดกระป๋อง) น้ำตาลทราย 4% ข้าว 3% ส่วนสินค้าอาหารที่ไทยนำเข้าจากญี่ปุ่น 5 อันดับแรก ได้แก่ อาหารทะเลสดแช่เย็นแช่แข็ง 55% (เพื่อแปรรูปในอุตสาหกรรม และใช้บริโภคสด) เครื่องปรุงรส7% (ใช้ในครัวเรือนและร้านอาหาร/โรงแรม) เนื้อวัวสด/แช่เย็น 3% (ส่วนใหญ่ใช้ในร้านอาหาร/โรงแรม) ผลไม้สด ผลิตภัณฑ์แปรรูป% และไข่ปลาคาเวียร์ ผลิตภัณฑ์แปรรูป% (ส่วนใหญ่ใช้ในร้านอาหาร/โรงแรม)
ปัจจุบันมีบริษัทจากจังหวัดมิเอะถึง 3กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม บริษัทที่เข้ามาลงทุนในประเทศไทย ทั้งในอุตสาหกรรมอาหาร เทคโนโลยี เคมีเคิล อิเล็กทรอนิกส์ อุปกรณ์ทางการแพทย์ และการท่องเที่ยว เป็นต้น คิดเป็นมูลค่าการลงทุนไม่ต่ำกว่า กระทรวงอุตสาหกรรมกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม,กรมส่งเสริมอุตสาหกรรมกรมส่งเสริมอุตสาหกรรมกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ล้านบาท สำหรับสินค้าอาหารที่มีชื่อเสียง ของจังหวัดมิเอะ อาทิ สินค้าของบริษัทYamamori ผู้ผลิตแกงบรรจุถุงรีทอร์ทเพาช์ และแกงก้อน เช่น แกงกะหรี่ และซอสโชยุ ที่คนไทยรู้จักกันดี มีโรงงานสาขาตั้งอยู่ที่จังหวัดระยอง ผลิตแกงไทยบรรจุถุงรีทอร์ทเพาช์ ส่งออกไปญี่ปุ่น เช่น แกงเขียวหวาน ปูผัดผงกะหรี่ และแกงเผ็ด เป็นต้น
"ผมมั่นใจว่าศูนย์นวัตกรรมจังหวัดมิเอะ – ประเทศไทย จะเป็นจุดเริ่มต้นของความร่วมมือระหว่างจังหวัดมิเอะกับประเทศไทย ที่จะช่วยยกระดับและพัฒนาบุคลากรในภาคอุตสาหกรรม และจะเป็นจุดสำคัญในการเชื่อมโยงระหว่างภาคอุตสาหกรรมของทั้ง ผลิตภัณฑ์แปรรูป ประเทศ ที่จะช่วยให้เกิดความร่วมมือที่ขยายวงไปในด้านการค้า การลงทุน รวมถึงการท่องเที่ยวระหว่างกันได้ต่อไปในอนาคต"
นายสมชาย หาญหิรัญ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่าการจัดตั้งศูนย์นวัตกรรมจังหวัดมิเอะ – ประเทศไทยมีเป้าหมาย "ขับเคลื่อนการยกระดับอุตสาหกรรมอาหารไทยให้เป็นผู้นำได้ในระดับสากล" มียุทธศาสตร์ที่สำคัญ 3 ด้านดังนี้ กระทรวงอุตสาหกรรม) ยุทธศาสตร์การแลกเปลี่ยนและถ่ายทอดเทคโนโลยีและนวัตกรรมการแปรรูปอาหาร ได้แบ่งออกเป็น ผลิตภัณฑ์แปรรูป แนวทางคือ แนวการดำเนินงานทางตาม Agenda base ได้มอบหมายให้สถาบันอาหารเป็นหน่วยงานหลักในการดำเนินงานโดยจะร่วมกันวิจัยและการทำต้นแบบผลิตภัณฑ์แปรรูปอาหาร รวมถึงการแลกเปลี่ยนและถ่ายทอดเทคโนโลยีระหว่างกัน และแนวทางตามพื้นที่ หรือ Area base กระทรวงอุตสาหกรรมได้เน้นกระจายความร่วมมือให้เกิดขึ้นในระดับท้องถิ่นสู่ท้องถิ่น หรือ Local to Local โดยได้กำหนดไว้ ผลิตภัณฑ์แปรรูป พื้นที่ ได้แก่ พื้นที่จังหวัดสงขลา ศูนย์นวัตกรรมฯ จะเชื่อมโยง กับ ศูนย์ ITC 4.กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ของสถาบันอาหาร ที่ตั้งอยู่ ณ จังหวัดสงขลา และพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ จะมีการเชื่อมโยงการทำงานศูนย์นวัตกรรมฯ กับการดำเนินงานโครงการ Northern Food Valley โดยจะมีความร่วมมือกับทางจังหวัดมิเอะด้านการพัฒนา Lanna Matsusaka Beef ความร่วมมือในด้าน Medical and Bio-Technology และความร่วมมือเพื่อการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์และวัฒนธรรม
ผลิตภัณฑ์แปรรูป) ยุทธศาสตร์การพัฒนาบุคลากร ในด้านการพัฒนาบุคลากรนี้จะดำเนินการโดย สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน(BOI) ร่วมกับกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ในพัฒนาบุคลากรระดับ Leader ในภาคการผลิต โดยจะนำหลักสูตรของ Mie Industry and Enterprise Support Center (MIESC) มาปรับใช้ และ 3) ยุทธศาสตร์การส่งเสริมให้เกิดความร่วมมือระหว่างอุตสาหกรรมของทั้ง ผลิตภัณฑ์แปรรูป ฝ่าย จะเน้นด้านการสร้างเครือข่ายผู้ประกอบการ (Business Networking) เพื่อส่งเสริมให้เกิดความร่วมมือระหว่างกัน โดยสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยและหอการค้าไทยจะเข้ามามีส่วนร่วมกับการสร้างเครือข่ายนี้ด้วย
"กระทรวงอุตสาหกรรมคาดว่าศูนย์นวัตกรรมจังหวัดมิเอะ – ประเทศไทย จะช่วยพัฒนาบุคลากรในภาคอุตสาหกรรม สร้างโอกาสให้ผู้ประกอบการไทยสามารถเข้าถึงเทคโนโลยี งานวิจัย และนวัตกรรมที่เหมาะสมที่จะช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าและบริการ และยกระดับอุตสาหกรรมอาหารของประเทศให้เป็นผู้นำได้ในระดับสากลได้ในอนาคต หากโมเดลต้นแบบนี้ประสบผลสำเร็จ และมีการขยายเครือข่ายศูนย์นวัตกรรมในรูปแบบเดียวกันไปสู่เชิงพื้นที่ จะเกิดผลกระทบในเชิงรูปธรรมมากขึ้น เป็นไปตามยุทธศาสตร์ของสถาบันอาหาร และสนองตอบแนวทางการยกระดับนวัตกรรมของประเทศตาม Roadmap ไทยแลนด์ 4.กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ของรัฐบาลที่วางไว้"
นายเอเค ซูซูกิ ผู้ว่าราชการจังหวัดมิเอะ กล่าวว่า จากความร่วมมือในครั้งนี้ทางสถาบันอาหารจะได้รับมอบเครื่องจักรสำหรับแปรรูปอาหารจากบริษัท SUEHIRO EPM เป็นเครื่อง Extruder (เครื่องขึ้นรูปผลิตภัณฑ์ชนิดรีดขึ้นรูป) เป็นเครื่องจักรที่ผลิตในประเทศญี่ปุ่นและมีส่วนแบ่งการตลาดเป็นอันดับหนึ่ง มีประสิทธิภาพในการทำงานที่หลากหลายภายในเครื่องเดียว เช่น การผสม การขึ้นรูป เป็นต้น เรียกได้ว่าเป็นโครงการความร่วมมือทางเทคโนโลยีครั้งแรกในด้านการแปรรูปอาหาร ตามบันทึกข้อตกลงระหว่างบีโอไอและทางจังหวัดมิเอะ
"การจัดตั้งศูนย์นวัตกรรมจังหวัดมิเอะ – ประเทศไทย ก็เพื่อแนะนำเทคโนโลยีทางด้านการแปรรูปอาหารของจังหวัดมิเอะให้กับผู้ประกอบการไทย และเพื่อสนับสนุนความร่วมมือกันระหว่างผู้ประกอบการไทยกับผู้ประกอบการจากจังหวัดมิเอะ ซึ่งนอกจากการนำเครื่องจักรแปรรูปอาหารเข้ามาใช้ในการวิจัยการและการทดลองแล้ว ยังได้จัดให้มีสัมมนาแนะนำเทคโนโลยีอาหารแปรรูปของอาหารในจังหวัดมิเอะด้วย การเปิดศูนย์ฯ และการรับมอบเครื่องจักรสำหรับแปรรูปอาหารเป็นส่วนหนึ่งของการส่งเสริมการแลกเปลี่ยนทางเศรษฐกิจระหว่างไทยและจังหวัดมิเอะ และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าอุตสาหกรรมทั้งของไทยและจังหวัดมิเอะจะเติบโตก้าวหน้ายิ่งๆขึ้นไป"
นายยงวุฒิ เสาวพฤกษ์ ผู้อำนวยการสถาบันอาหาร กล่าวว่า ศูนย์นวัตกรรมจังหวัดมิเอะ – ประเทศไทย ได้รับการอนุเคราะห์จากบริษัท SUEHIRO EPM ประเทศญี่ปุ่น มอบเครื่องจักรแปรรูปอาหารมูลค่า ผลิตภัณฑ์แปรรูป5 ล้านเยน มาติดตั้งเพื่อรองรับงานวิจัย ทดลองพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหาร โดยมุ่งเน้นใช้วัตถุดิบของไทย เช่น การนำข้าวหอมมะลิของไทยมาแปรรูป โดยวิจัยเพื่อผลิตสินค้าเชิงพาณิชย์ และให้บริการแก่ผู้ประกอบการที่ต้องการทดลองผลิตสินค้าต้นแบบ ขณะนี้อยู่ระหว่างการทดสอบเครื่องและถ่ายทอดเทคโนโลยีให้แก่นักวิชาการของสถาบันอาหาร ภายในเดือนธันวาคมนี้จะสามารถเริ่มเดินเครื่องใช้งานได้ โดยทีมนักวิชาการจะทำการวิจัย พัฒนาผลิตภัณฑ์จากการใช้เครื่องจักรนี้ และทีมงานจากบริษัทฯจะมาติดตามความคืบหน้าการทดลองเป็นระยะจนถึงเดือนมีนาคม ผลิตภัณฑ์แปรรูป56ผลิตภัณฑ์แปรรูป ทั้งนี้เครื่องแปรรูปอาหารดังกล่าวเป็นเครื่อง twin screw extruder รุ่น EA-ผลิตภัณฑ์แปรรูปกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม มีกำลังการผลิต ผลิตภัณฑ์แปรรูปกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กิโลกรัม/ชั่วโมง สามารถใช้สำหรับแปรรูปผลิตภัณฑ์อาหาร เช่น ผลิตภัณฑ์ขนมขบเคี้ยว ประเภทข้าวโพดอบกรอบ และข้าวอบกรอบ เป็นต้น
"ศูนย์นวัตกรรมจังหวัดมิเอะ – ประเทศไทย เป็นเครื่องมือและกลไกในการเพิ่มศักยภาพด้านนวัตกรรมอาหารของประเทศ ผ่านกิจกรรมการบริการและศูนย์การเรียนรู้ในด้านต่างๆ เช่น การฝึกอบรมเพิ่มทักษะให้กับผู้ประกอบการ การพัฒนาผลิตภัณฑ์ต้นแบบนวัตกรรม การวิจัยนวัตกรรมร่วม การเชื่อมโยงธุรกิจ เป็นต้น ผู้รับประโยชน์โดยตรง คือ กลุ่มผู้ประกอบการอาหารในอุตสาหกรรมกลางน้ำ โดยเฉพาะ SMEs ที่ยังขาดศักยภาพในเชิงทักษะการผลิต รวมทั้งองค์ความรู้ในการพัฒนาสินค้านวัตกรรม สำหรับกลุ่มที่จะได้รับประโยชน์ในชั้นแรกจากเครื่องจักรที่รับมอบอย่างเป็นทางการในวันนี้ คือ กลุ่มผู้ประกอบการผลิตอาหารจากแป้ง ข้าวและธัญพืช ซึ่งเป็นวัตถุดิบหลักที่ต้องการการพัฒนาอีกมาก เนื่องจากเป็นวัตถุดิบที่ไทยผลิตได้มากแต่ยังขาดการแปรรูปเพิ่มมูลค่าในเชิงพาณิชย์ ขณะที่ผู้รับประโยชน์ทางอ้อม คือ เกษตรกรต้นน้ำ ซึ่งหากมีการขยายตัวของอุตสาหกรรมอาหารแปรรูปโดยเฉพาะในกลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารนวัตกรรมต่างๆ ก็จะมีความต้องการวัตถุดิบที่ดีและมีคุณภาพตามมา เกษตรกรที่สามารถมองเห็นลู่ทางและโอกาสดังกล่าวก็จะสามารถวางแผนการผลิตและพัฒนาสินค้าเกษตรของตนให้ตรงกับความต้องการของภาคอุตสาหกรรม สำหรับกลุ่มผู้ประกอบการปลายน้ำ เช่น ร้านค้า ผู้บริโภค ก็จะมีสินค้าที่มีคุณภาพมาตรฐานเพื่อเป็นทางเลือกมากขึ้น