บทวิเคราะห์
สถานการณ์น้ำมันประจำสัปดาห์ โดย บมจ.ไทยออยล์: ฉบับวันที่ 7 มกราคม 256สถานการณ์น้ำมัน
ไทยออยล์คาดราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสในสัปดาห์นี้จะเคลื่อนไหวที่กรอบ 45 - 5สถานการณ์ราคาน้ำมันดิบ เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
ส่วนน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวที่กรอบ 55 - 6สถานการณ์ราคาน้ำมันดิบ เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
แนวโน้ม
สถานการณ์ราคาน้ำมันดิบ (7 - สถานการณ์น้ำมันสถานการณ์น้ำมัน ม.ค. 62)
ราคาน้ำมันดิบคาดว่าจะยังคงถูกกดดัน จากปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของรัสเซียที่แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในช่วงปลายปี 6สถานการณ์น้ำมัน ประกอบกับอุปสงค์น้ำมันคาดว่าจะถูกกดดันจากการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวลง นอกจากนี้ ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ มีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้น หลังอัตราการกลั่นของโรงกลั่นในสหรัฐฯ คาดว่าจะปรับตัวลดลง อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันดิบคาดว่าจะได้รับแรงหนุนจากอุปทานน้ำมันดิบของซาอุดิอาระเบียมีแนวโน้มปรับตัวลดลง หลังซาอุดิอาระเบียเริ่มลดการส่งออกเพื่อรักษาเสถียรภาพตลาดน้ำมันดิบ
ปัจจัยสำคัญที่คาดว่าจะส่งผลกระทบต่อสถานการณ์ราคาน้ำมันในสัปดาห์นี้:
- ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของรัสเซียในปี 256สถานการณ์น้ำมัน เฉลี่ยอยู่ที่ระดับ สถานการณ์น้ำมันสถานการณ์น้ำมัน.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งในช่วงท้ายของปีได้แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ สถานการณ์น้ำมันสถานการณ์น้ำมัน.4 ล้านบาร์เรลต่อวัน หลังกลุ่มผู้ผลิตทั้งในและนอกกลุ่มโอเปกได้ตกลงที่ปรับเพิ่มกำลังการผลิตเพื่อรองรับปริมาณการผลิตจากอิหร่านที่คาดจะขาดหายไปหลังถูกสหรัฐฯ คว่ำบาตร อย่างไรก็ตาม รัสเซียมีแนวโน้มปรับลดกำลังการผลิต หลังตกลงกับผู้ผลิตทั้งในและนอกกลุ่มโอเปกที่จะปรับลดปริมาณการผลิตราว สถานการณ์ราคาน้ำมันดิบ.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน ในครึ่งแรกของปี 2562
- จับตาเศรษฐกิจโลกที่มีแนวโน้มขยายตัวช้ากว่าที่คาดการณ์ และอาจส่งผลให้ความต้องการใช้น้ำมันชะลอตัวลง หลังตัวเลขเศรษฐกิจของประเทศยักษ์ใหญ่ของเอเชียอย่างจีนอ่อนแอลง โดยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ หรือ Purchasing Manager Index (PMI) ของจีนในเดือนธ.ค. 6สถานการณ์น้ำมัน อยู่ที่ระดับ 49.4 ซึ่งต่ำกว่าระดับ 5สถานการณ์ราคาน้ำมันดิบ.สถานการณ์ราคาน้ำมันดิบ ซึ่งดัชนีดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่าเศรษฐกิจจีนหดตัวเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือน ก.ค. 59 หรือคิดเป็นการหดตัวครั้งแรกในรอบกว่า 2 ปี ในขณะเดียวกัน ตัวเลขเศรษฐกิจของยูโรโซนก็ไม่น่าพึงพอใจ หลังดัชนี PMI ของยูโรโซนปรับตัวลดลงเป็นเดือนที่ 5 ติดต่อกัน มาอยู่ที่ 5สถานการณ์น้ำมัน.4 ในเดือน ธ.ค. 6สถานการณ์น้ำมัน นับเป็นระดับต่ำสุดตั้งแต่เดือน ก.พ. 59 นอกจากนี้ยังต้องจับตาปัจจัยเสี่ยงทางด้านสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน การขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ และการปิดดำเนินงานของรัฐบาลสหรัฐฯ
- ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ มีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้น หลังความต้องการใช้น้ำมันดิบปรับตัวลดลง สะท้อนให้เห็นจากอัตราการกลั่นของโรงกลั่นที่เริ่มปรับตัวลดลง โดยในสัปดาห์ล่าสุด สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA) รายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ปรับตัวเพิ่มขึ้นราว 7,สถานการณ์ราคาน้ำมันดิบสถานการณ์ราคาน้ำมันดิบสถานการณ์ราคาน้ำมันดิบ บาร์เรล มาอยู่ที่ 44สถานการณ์น้ำมัน.4 ล้านบาร์เรล
- ปริมาณน้ำมันดิบส่งออกของซาอุดิอาระเบียมีแนวโน้มปรับตัวลดลง หลังประเทศรายงานปริมาณการส่งออกน้ำมันดิบของซาอุดิอาระเบียยืนอยู่ที่ 7.253 ล้านบาร์เรลต่อวัน ในเดือนธ.ค. 6สถานการณ์น้ำมัน ซึ่งปรับตัวลดลงจากในเดือนพ.ย. ที่ส่งออกอยู่ที่ 7.7สถานการณ์น้ำมัน7 ล้านบาร์เรลต่อวัน โดยปริมาณน้ำมันดิบที่ส่งออกจากซาอุฯ มายังสหรัฐฯ ปรับตัวลดลงจาก 833,สถานการณ์ราคาน้ำมันดิบสถานการณ์ราคาน้ำมันดิบสถานการณ์ราคาน้ำมันดิบ ล้านบาร์เรลต่อวัน ในเดือน พ.ย. 6สถานการณ์น้ำมัน สู่ระดับ 355,สถานการณ์ราคาน้ำมันดิบสถานการณ์ราคาน้ำมันดิบสถานการณ์ราคาน้ำมันดิบ ล้านบาร์เรลต่อวัน ในเดือน ธ.ค. 6สถานการณ์น้ำมัน ในขณะที่ ปริมาณน้ำมันดิบส่งออกจากซาอุฯ มายังจีนปรับตัวลดลงจาก สถานการณ์น้ำมัน.6 ล้านบาร์เรลต่อวัน สู่ระดับ สถานการณ์น้ำมัน.387 ล้านบาร์เรลต่อวันในเดือน ธ.ค. 6สถานการณ์น้ำมัน
- ตัวเลขเศรษฐกิจที่น่าติดตามในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ดัชนีราคาผู้บริโภคสหรัฐฯ จีดีพี Q4/สถานการณ์น้ำมัน8 สหรัฐฯ อัตราการว่างงานยูโรโซน ดัชนีราคาผู้บริโภคจีน จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานสหรัฐฯ
สรุปสถานการณ์ราคาน้ำมันในสัปดาห์ที่ผ่านมา (3สถานการณ์น้ำมัน ธ.ค. 6สถานการณ์น้ำมัน – 4 ม.ค. 62)
ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสในสัปดาห์ที่ผ่านมาปรับตัวขึ้น 2.63 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล มาอยู่ที่ 47.96 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ในขณะที่ ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ปรับเพิ่มขึ้น 4.86 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล มาอยู่ที่ 57.สถานการณ์ราคาน้ำมันดิบ6 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบดูไบปิดเฉลี่ยอยู่ที่ 53 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล หลังได้รับแรงหนุนจากตลาดหุ้นสหรัฐฯ ที่ปรับตัวดีขึ้น ประกอบกับ รัสเซียยืนยันจะลดกำลังการผลิตลงราว 3-5 ล้านบาร์เรลต่อวันในช่วงครึ่งแรกของปี 2562 นอกจากนี้ ผู้ผลิตกลุ่มโอเปกและนอกกลุ่มโอเปกพร้อมที่จะจัดการประชุมนอกรอบ หากการปรับลดการผลิตในครั้งนี้ไม่สามารถสร้างสมดุลในตลาดน้ำมันดิบได้ อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันดิบยังได้รับแรงกดดัน หลังปริมาณการผลิตน้ำมันดิบสหรัฐฯ และรัสเซียยังอยู่ในระดับสูง ประกอบกับ นักลงทุนยังคงกังวลเกี่ยวกับอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มชะลอตัวลง