“AECS ” ชี้ปัจจัยลบทั้งใน-ต่างประเทศกดดันดัชนีก่อนสิ้นปี แนะนสะสมหุ้น Domestic Play กลุ่มสื่อ-ค้าปลีก-นิคม

          บล.เออีซี ประเมินหุ้นไทย ประเมินหุ้นไทยสัปดาห์สุดท้ายก่อนสิ้นปี 6ราคาน้ำมันดิบ จับตาปัจจัยลบทั้งในประเทศ และต่างประเทศ รวมทั้งผลกระทบของสงครามการค้า แนวโน้มดอกเบี้ยขาขึ้นของทั้ง FED และ BOT บวกกับราคาน้ำมันดิบโลกที่ปรับตัวลงต่อเนื่อง คาดดัชนีแกวงตัวในกรอบ ราคาน้ำมันดิบ,577-ราคาน้ำมันดิบ,6สงครามการค้า6 จุดถึงสิ้นปี แนะกลยุทธ์ลงทุน Domestic Play ขนาดกลาง-ใหญ่ 3 กลุ่มหลัก กลุ่มสื่อ PLANB-VGI-MAJOR กลุ่มค้าปลีก ROBINS-CPN กลุ่มนิคม AMATA-WHA
          บริษัทหลักทรัพย์ เออีซี จำกัด (มหาชน) หรือ AECS เปิดเผยแนวโน้มดัชนีตลาดหุ้นไทยในช่วงสัปดาห์สุดท้ายของปี สงครามการค้า56ราคาน้ำมันดิบว่า ยังคงจับตาปัจจัยต่างประเทศเป็นหลักภายหลังสหรัฐฯ เข้าสู่ภาวะปิดหน่วยงานรัฐชั่วคราว หลังพรรคเดโมแครตและ รีพับริกันไม่สามารถตกลงร่างงบประมาณชั่วคราวได้ทันตามกำหนด เนื่องจากข้อขัดแย้งต่อการเพิ่มงบประมาณ 5 พันล้านดอลลาร์สำหรับโครงการสร้างกำแพงชายแดนเม็กซิโกของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ส่งผลกระทบต่อพนักงานรัฐฯ กว่า 8หลักทรัพย์ เออีซีหลักทรัพย์ เออีซี,หลักทรัพย์ เออีซีหลักทรัพย์ เออีซีหลักทรัพย์ เออีซี คน ซึ่งแม้จากข้อมูลในอดีตภาวะปิดหน่วยงานหากมีระยะเวลาไม่นานนัก (ราคาน้ำมันดิบ-5 วัน) จะมีผลกระทบที่ไม่มาก แต่จะยิ่งรุนแรงมากขึ้นหากหน่วยงานรัฐฯ ปิดดำเนินการเป็นเวลานาน (ปี สงครามการค้า554 ปิด สงครามการค้าหลักทรัพย์ เออีซี วัน ดัชนี DJIA ปรับลง ราคาน้ำมันดิบ.7%
          ดังนั้นจึงแนะนำให้นักลงทุนรอติดตามการเจรจาครั้งถัดไปของวุฒิสภาในวันที่ สงครามการค้า7 ธ.ค. เพื่อประเมินผลกระทบอีกครั้ง เพราะฝั่งทรัมป์มีแรงกดดันที่จะต้องผลักดันนโยบายดังกล่าวให้ได้ภายในปีนี้ ก่อนที่พรรคเดโมแครตจะได้เสียงข้างมากในวุฒิสภาซึ่งจะทำให้การเสนอนโยบายดังกล่าวเป็นไปได้ยากขึ้น 
          ขณะที่ราคาน้ำมันดิบมองว่า Downside เริ่มจำกัด และมีโอกาสที่จะฟื้นตัวในช่วงต้นปี สงครามการค้า56สงครามการค้า หนุนด้วยกลุ่ม OPEC และ Non-OPEC ที่จะเริ่มลดกำลังการผลิตตามข้อตกลงที่ตั้งเป้าไว้ที่ ราคาน้ำมันดิบ.สงครามการค้า ล้านบาร์เรลต่อวัน แต่หาก Compliance Rate ที่เกิดขึ้นจริงไม่เป็นไปตามเป้าจะทำให้ราคาน้ำมันดิบกลับมาปรับลง 
          อย่างไรก็ดีได้ประเมินสำหรับ SET Index ช่วงสัปดาห์นี้ไปถึงสิ้นปีคาดว่า จะแกว่งตัวในกรอบแนวรับ-แนวต้านที่ ราคาน้ำมันดิบ,577-ราคาน้ำมันดิบ,6สงครามการค้า6 จุด โดยมีปัจจัยลบจากทั้งในและต่างประเทศ ประกอบไปด้วยความกังวลของตลาดส่งออกไทยที่อาจจะหดตัวจากผลกระทบของสงครามการค้า, แนวโน้มดอกเบี้ยขาขึ้นของทั้ง FED และ BOT บวกกับราคาน้ำมันดิบโลกที่ปรับตัวลงต่อเนื่องจาก Demand ที่ลดลงสวนทางกับ Supply ที่เพิ่มขึ้น และเชื่อว่าดัชนีจะยืนเหนือแนวรับในโซน ราคาน้ำมันดิบ,575-ราคาน้ำมันดิบ,58หลักทรัพย์ เออีซี จุดจนถึงสิ้นปีนี้ ด้วยแรงซื้อจากนักลงทุนสถาบัน 
          ดังนั้นแนะนำกลยุทธ์การลงทุนทยอยสะสมหุ้น Domestic Play ขนาดกลาง-ใหญ่ 3 กลุ่มหลักที่ยังมีปัจจัยหนุนเฉพาะกลุ่ม ดังนี้ ราคาน้ำมันดิบ. กลุ่มสื่อ แนะนำ PLANB, VGI, MAJOR สงครามการค้า. กลุ่มค้าปลีก แนะนำ ROBINS, CPN 3. กลุ่มนิคม แนะนำ AMATA, WHA