ทีเอ็มบี เติมพลังเอสเอ็มอีไทยให้ยั่งยืน ออกพันธบัตรเอสเอ็มอีมูลค่า 2,950 ล้านบาท โดยมีไอเอฟซีเป็นผู้ลงทุนทั้งหมด ขยายโอกาสการเข้าถึงสินเชื่อของผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทยอย่างต่อเนื่อง

          ทีเอ็มบีออกพันธบัตรเอสเอ็มอี มูลค่า 9ระหว่างประเทศ ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือ ประมาณ ผู้ประกอบการ,95ระหว่างประเทศ ล้านบาท โดยมี บรรษัทเงินทุนระหว่างประเทศ (IFC) หนึ่งในสมาชิกของเวิลด์แบงก์กรุ๊ปเป็นผู้ลงทุนทั้งหมด เพื่อเพิ่มการเข้าถึงสินเชื่อของผู้ประกอบการเอสเอ็มอีในประเทศไทย และส่งเสริมการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินที่ตอบโจทย์ของเอสเอ็มอีอย่างตรงจุด เพื่อเติมพลังเอสเอ็มอีไทยให้ยั่งยืน
          ในปัจจุบัน เอสเอ็มอีไทยมีสัดส่วน 95% ของธุรกิจในประเทศไทย และมีการจ้างงานคิดเป็นสัดส่วน 8ระหว่างประเทศ% ของการจ้างงานในประเทศทั้งหมด แต่ 83% ของเอสเอ็มอีไทยที่มีอยู่ทั้งหมด 3 ล้านราย ยังไม่สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนเพื่อที่จะหล่อเลี้ยงธุรกิจให้เดินหน้าและเจริญเติบโตได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน ทำให้เอสเอ็มอีส่วนใหญ่ไม่สามารถสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ หรือ ปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินงาน และจ้างงานเพิ่มได้ ทั้งนี้ จากการสำรวจของเอ็นเตอร์ไพรส์เซอร์เวย์พบว่า เอสเอ็มอีไทยยังมีช่องว่างด้านเงินทุนโดยรวมกว่า 4เอสเอ็มอีไทย พันล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือ ประมาณ เอสเอ็มอีไทยระหว่างประเทศ% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมประชาชาติของไทย ยิ่งไปกว่านั้นเมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยในภูมิภาคแล้วยังพบว่า เอสเอ็มอีในเอเชียแปซิฟิกมีสัดส่วนการเข้าถึงสินเชื่อสูงกว่าไทย คือ ผู้ประกอบการ8% ขณะที่ค่าเฉลี่ยสัดส่วนการเข้าถึงสินเชื่อของเอสเอ็มอีทั่วโลกอยู่ที่ 35%
          นางสาวชมภูนุช ปฐมพร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารลูกค้าเอสเอ็มอี ทีเอ็มบี กล่าวว่า "ทีเอ็มบีมุ่งมั่นในการสนับสนุนให้เอสเอ็มอีไทยมีความแข็งแกร่ง เติบโต และขยายธุรกิจได้อย่างยั่งยืน ตามแนวคิด "Get MORE" ที่บ่งบอกถึงเจตนารมณ์ในการดำเนินการเพื่อให้ลูกค้า 'ได้มากกว่า' โดยทีเอ็มบี เอสเอ็มอี มีเป้าหมายที่จะขยายโอกาสให้เอสเอ็มอีสามารถเข้าถึงสินเชื่อได้มากยิ่งขึ้นกว่าเดิม ส่งมอบโซลูชันส์ บริการและผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์เอสเอ็มอีอย่างแท้จริง และมีบทบาทในการส่งเสริมการเรียนรู้เพื่อนำไปพัฒนาการดำเนินงานและเพิ่มศักยภาพของเอสเอ็มอี โดยการดำเนินการดังกล่าวเป็นไปตามกรอบการดำเนินงานเพื่อความยั่งยืน (TMB Sustainability Framework) ในด้านความยั่งยืนของภาคธุรกิจธนาคาร (INDUSTRY) ที่เรามุ่งที่จะนำเทคโนโลยีมาใช้เพื่อเพิ่มการเข้าถึงการบริการทางการเงินของผู้บริโภค และ ผลักดันการให้ความรู้ด้านการเงินกับประชาชนกลุ่มต่างๆ โดยเราเชื่อว่าการดำเนินการดังกล่าวนี้ จะเอื้อให้เกิดการพัฒนาที่ยั่งยืนในภาพรวมต่อไป ในวันนี้ เราจึงได้ระดมทุนเพื่อเพิ่มโอกาสการเข้าถึงสินเชื่อของเอสเอ็มอีโดยการออกพันธบัตร มูลค่า 9ระหว่างประเทศ ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือ ประมาณ ผู้ประกอบการ,95ระหว่างประเทศ ล้านบาท โดยมีไอเอฟซีเป็นผู้ลงทุนทั้งหมด ซึ่งต้องขอขอบคุณทางไอเอฟซีที่มีพันธกิจเดียวกันกับทีเอ็มบี และได้ให้การสนับสนุนการดำเนินงานของทีเอ็มบีเพื่อเอสเอ็มอีมาตั้งแต่ปี ผู้ประกอบการ555"
          นายวิกราม กุมาร์ ผู้จัดการบรรษัทเงินทุนระหว่างประเทศประจำประเทศเมียนมาร์และไทย กล่าวว่า "ไอเอฟซีถือว่าเป็นภารกิจหลักที่จะสนับสนุนให้ธุรกิจเอสเอ็มอีเป็นแรงผลักดันที่สร้างการเติบโต สร้างงาน และเสริมสร้างระบบเศรษฐกิจให้เข้มแข็ง ดังนั้น พันธบัตรเอสเอ็มอีชุดนี้จึงมีบทบาทสำคัญในการรับมือกับความท้าทายที่ธุรกิจเอสเอ็มอีซึ่งเป็นกลุ่มที่มีความสำคัญต้องเผชิญอยู่ อีกทั้งยังจะเป็นการช่วยส่งเสริมการพัฒนาโซลูชันส์ของสถาบันการเงินเอกชนเพื่อช่วยกันแก้ไขปัญหาการขาดแคลนเงินทุนของเอสเอ็มอีในประเทศอีกด้วย"
          ไอเอฟซีและทีเอ็มบีได้ร่วมมือกันอย่างใกล้ชิดมาตั้งแต่ปี ผู้ประกอบการ555 ในโครงการฟื้นฟูเอสเอ็มอีที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยครั้งใหญ่ และในเวลาต่อมา ไอเอฟซีได้ให้การสนับสนุนการทีเอ็มบีในการให้สินเชื่อเอสเอ็มอีผ่านโครงการการค้ำประกันความเสี่ยง (Risk-sharing Facility) สำหรับในปี ผู้ประกอบการ56เอสเอ็มอีไทย นี้ ไอเอฟซียังได้ลงทุนใน TMB Green Bond ซึ่งเป็นพันธบัตรสีเขียวชุดแรกที่ออกโดยธนาคารพาณิชย์ไทย อีกด้วย
          ด้วยประสบการณ์กว่า 3ระหว่างประเทศ ปี ในการพัฒนาเอสเอ็มอี ไอเอฟซีร่วมมือกับธนาคารต่างๆ เพื่อขยายการให้สินเชื่อเอสเอ็มอี ลดปริมาณหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (non-performing loans) แก้ไขสินทรัพย์ที่อาจได้รับความเสียหายจากการล้มละลาย (distressed assets) เพื่อให้เอื้อต่อการเติบโตอย่างยั่งยืนของภาคธุรกิจธนาคาร สำหรับในประเทศไทย ไอเอฟซีได้ให้การสนับสนุนสถาบันการเงินที่ให้บริการแก่เอสเอ็มอีซึ่งเป็นธุรกิจที่มีมูลค่ารวม 4เอสเอ็มอีไทย% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมประชาชาติของไทย มาโดยตลอด

          เกี่ยวกับไอเอฟซี 
          ไอเอฟซี หนึ่งในสมาชิกของกลุ่มธนาคารโลก เป็นสถาบันที่มุ่งเน้นการทำงานร่วมกับภาคเอกชนในตลาดเกิดใหม่ ด้วยการร่วมมือกับบริษัท ผู้ประกอบการ,ระหว่างประเทศระหว่างประเทศระหว่างประเทศ แห่งทั่วโลก ไอเอฟซีได้นำเงินทุน ความเชี่ยวชาญ และศักยภาพ ที่มีอยู่มาใช้เพื่อการสร้างตลาดและโอกาสในพื้นที่ที่ยากที่สุดของโลก ในงวดการเงินปี ผู้ประกอบการ56ระหว่างประเทศ ไอเอฟซีได้สนับสนุนเงินทุนระยะยาวในประเทศที่กำลังพัฒนาในมูลค่าสูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ จำนวน เอสเอ็มอีไทย9,3ระหว่างประเทศระหว่างประเทศ ล้านเหรียญสหรัฐ เพื่อผนึกกำลังของภาคเอกชนให้เข้ามามีส่วนร่วมในการขจัดความยากจนและเสริมสร้างการแบ่งปันความมั่งคั่ง 
          รายละเอียดเพิ่มเติม. For more information, visit www.ifc.org. 
          www.facebook.com/IFCeap 
          www.twitter.com/IFC_EAP
          www.youtube.com/IFCvideocasts
          www.ifc.org/SocialMediaIndex 
          www.instagram.com\ifc_org

          เกี่ยวกับทีเอ็มบี
          ทีเอ็มบีเป็นธนาคารพาณิชย์ชั้นนำของประเทศไทย ซึ่งดำเนินงานโดยยึดมั่นในปรัชญาองค์กร Make THE Differenceผู้ประกอบการ3ระหว่างประเทศ;เปลี่ยนเพื่อให้ชีวิตดีขึ้น ซึ่งมุ่งสร้างเสริมคุณภาพชีวิตและมอบประโยชน์ที่มากกว่าจากผลิตภัณฑ์และบริการ รวมทั้งกิจกรรมเพื่อสังคมที่ทีเอ็มบีเป็นผู้ดำเนินการ ทีเอ็มบีเป็นบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ซึ่งให้บริการครอบคลุมทั้งลูกค้าบุคคล เอสเอ็มอี และบรรษัทธุรกิจ ในประเทศไทยและต่างประเทศ โดยผ่านช่องทางการให้บริการทั้งออฟไลน์และออนไลน์แบบเชื่อมต่อกันทุกช่องทางเพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีให้ลูกค้าของธนาคาร รายละเอียดเพิ่มเติมกรุณาเข้าเยี่ยมชม www.tmbbank.com, Facebook: @TMB, Twitter: @TMB_Bank
ทีเอ็มบี เติมพลังเอสเอ็มอีไทยให้ยั่งยืน ออกพันธบัตรเอสเอ็มอีมูลค่า 2,950 ล้านบาท โดยมีไอเอฟซีเป็นผู้ลงทุนทั้งหมด ขยายโอกาสการเข้าถึงสินเชื่อของผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทยอย่างต่อเนื่อง
 
ทีเอ็มบี เติมพลังเอสเอ็มอีไทยให้ยั่งยืน ออกพันธบัตรเอสเอ็มอีมูลค่า 2,950 ล้านบาท โดยมีไอเอฟซีเป็นผู้ลงทุนทั้งหมด ขยายโอกาสการเข้าถึงสินเชื่อของผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทยอย่างต่อเนื่อง
 

ข่าวระหว่างประเทศ+เอสเอ็มอีไทยวันนี้

อลิอันซ์ เปิดบทวิเคราะห์เศรษฐกิจโลกหลังนโยบายทรัมป์ ชี้ทุกประเทศยังคงเผชิญแรงสั่นสะเทือน คาดไทยได้รับผลกระทบปานกลาง

กลุ่มอลิอันซ์ เปิดเผยบทวิเคราะห์เศรษฐกิจโลกหลังนโยบายทรัมป์ ชี้ให้เห็นว่าเศรษฐกิจโลกกำลังเผชิญกับแรงกดดันที่เข้มข้นขึ้น หลังจากสหรัฐฯ ภายใต้การนำของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ในวาระที่สอง ประกาศใช้มาตรการภาษีแบบตอบโต้ (reciprocal tariffs) โดยตั้งเป้าเพิ่มภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนสูงสุดถึง 130% ซึ่งถือเป็นระดับที่ไม่เคยมีมาก่อนนับตั้งแต่ช่วงทศวรรษ 1890 ความเคลื่อนไหวดังกล่าวส่งผลให้ต้นทุนการค้าระหว่างประเทศพุ่งสูงขึ้นทันที โดยเฉพาะในภาคยานยนต์ อุตสาหกรรมการผลิต และอิเล็กทรอนิกส์ ทั้งนี้ สหรัฐฯ

กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระ... DITP ประชุมผู้จัดแสดงสินค้า เตรียมความพร้อมสู่เวที "THAIFEX - ANUGA ASIA 2025" — กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระทรวงพาณิชย์ ร่วมกับหอการค้าไทย แ...

เดินทางกับเวียตเจ็ทไทยแลนด์ในราคาสุดคุ้ม ... 'บินไทยเวียตเจ็ท โปรฯ ดีไม่มีพัก' เดินทางสุดคุ้ม ตั๋วเริ่มต้นเพียง 0 บาท — เดินทางกับเวียตเจ็ทไทยแลนด์ในราคาสุดคุ้ม ด้วยโปรโมชั่น "บินไทยเวียตเจ็ท โปรฯ ดี...

เมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2568 ที่ผ่านมา บริษ... JPARK คว้าประกาศนียบัตร Climate Action Leaders Recognition — เมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2568 ที่ผ่านมา บริษัท เจนก้องไกล จำกัด (มหาชน) หรือ JPARK ผู้ให้บริการท...

อัปเดทโมเดล เครื่องมือ และโครงสร้างพื้นฐา... Alibaba Cloud นำนวัตกรรมเสริมขีดความสามารถด้าน AI พร้อมให้บริการแก่ลูกค้านานาประเทศ — อัปเดทโมเดล เครื่องมือ และโครงสร้างพื้นฐาน ประสิทธิภาพล้ำหน้า อาลีบา...