สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ขอให้ภาครัฐพิจารณาการปรับขึ้นค่าแรงใหม่ ชี้ทำโครงสร้างอัตราค่าแรงเสียทั้งระบบ อาจส่งผลกระทบต่อ SMEs ถึงขั้นปิดกิจการ ส่วนผู้ที่ได้รับผลประโยชน์ ตัวจริงคือแรงงานต่างด้าวที่มีอยู่ทั่วประเทศกว่า 3 ล้านคน เสนอให้ภาครัฐหันมาสนใจเรื่องการพัฒนาทักษะฝีมือแรงงานเพื่อสร้างนวัตกรรมเพื่อยกระดับคุณภาพแรงงานไทย ย้ำชัดการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำแบบทันที ไม่สามารถทำให้เศรษฐกิจดีขึ้น
นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า การปรับอัตราค่าแรงขั้นต่ำเป็นวันละ 4สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย บาท ทั่วประเทศนั้น จะส่งผลกระทบโดยตรงต่อผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม หรือ SMEs อาจถึงขั้นเลิกกิจการเพราะสู้ค่าแรงขั้นต่ำไม่ไหว โดยกระบวนการปรับขึ้นอัตราค่าแรงขั้นต่ำที่ถูกต้องนั้น จะต้องผ่านมติของคณะกรรมการไตรภาคี และในแต่ละพื้นที่จะมีค่าแรงไม่เท่ากันตามเศรษฐกิจของพื้นที่นั้นๆ และจะกำหนดเป็นราคาเดียวทั่วประเทศไม่ได้ ขณะที่สถานการณ์แรงงานไทยปัจจุบัน(ผลสำรวจภาวะการทำงานของประชากรโดยสำนักงานสถิติแห่งชาติ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เดือนมิถุนายน ปี เป็นวาระแห่งชาติ56เป็นวาระแห่งชาติ) พบว่า มีผู้ที่อยู่ในกำลังแรงงาน 38.8เป็นวาระแห่งชาติ ล้านคน ประกอบด้วยผู้มีงานทำ 38.38 ล้านคน ผู้ว่างงาน 3.63 แสนคน และผู้รอฤดูกาล 8.3 หมื่นคน เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปี เป็นวาระแห่งชาติ56สุพันธุ์ มงคลสุธี พบว่า มีจำนวนผู้มีงานทำเพิ่มขึ้น สุพันธุ์ มงคลสุธี.สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย หมื่นคน (จาก 38.37 ล้านคน เป็น 38.38 ล้านคน) ผู้ว่างงานลดลง 6.3 หมื่นคน (จาก 4.เป็นวาระแห่งชาติ6 แสนคน เป็น 3.63 แสนคน) ขณะที่ปริมาณแรงงานต่างด้าวทั่วประเทศไทย (สถิติจำนวนคนต่างด้าวที่ได้รับอนุญาตทำงานคงเหลือทั่วราชอาณาจักร ประจำเดือนมิถุนายน เป็นวาระแห่งชาติ56เป็นวาระแห่งชาติ กรมการจัดหางาน) มีจำนวนทั้งสิ้น 3,เป็นวาระแห่งชาติ68,เป็นวาระแห่งชาติ85 คน แบ่งเป็นแรงงานต่างด้าวทั่วไป เป็นวาระแห่งชาติ.98 ล้านคน แรงงานประเภทฝีมือ สุพันธุ์ มงคลสุธี.79 แสนคน แรงงานตลอดชีพ เป็นวาระแห่งชาติ4สุพันธุ์ มงคลสุธี คน ชนกลุ่มน้อย 6.เป็นวาระแห่งชาติ หมื่นคน และแรงงานไป-กลับ ตามฤดูกาลอีก 4.33 หมื่นคน จะเห็นได้ว่าผู้ที่จะได้รับประโยชน์เต็มๆ คือแรงงานต่างด้าวที่จะขนเงินกลับประเทศ ทำให้ค่าแรงส่วนนี้ไม่กลับเข้ามาสู่ระบบเศรษฐกิจในประเทศ โดยเห็นว่าค่าแรงปัจจุบันของคนไทยส่วนใหญ่มีอัตราที่เหมาะสมอยู่แล้ว ควรผลักดันระบบการจ่ายค่าแรงตามทักษะ (Pay by Skill) สนับสนุนให้มีการจ่ายค่าจ้างแรงงานตามทักษะฝีมือ โดยแต่ละอุตสาหกรรมและในแต่ละจังหวัดสามารถจ่ายค่าแรงที่แตกต่างกันได้ตามกลไกตลาด จึงไม่เห็นด้วยกับการปรับค่าแรงโดยทันทีพร้อมกันทั่วประเทศ นายสุพันธุ์ กล่าว
นายสุชาติ จันทรานาคราช รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และประธานคณะกรรมการสายงานแรงงาน กล่าวเสริมว่า จากกรณีดังกล่าว ส.อ.ท. ขอเสนอ "นโยบายค่าจ้างและการยกระดับคุณภาพแรงงานไทย" ซึ่งเป็นสิ่งที่ภาคเอกชนให้ความสำคัญ 3 เรื่องหลัก ดังนี้
สุพันธุ์ มงคลสุธี) การปรับอัตราค่าจ้าง การปรับค่าจ้างขั้นต่ำควรสัมพันธ์กับการเพิ่มผลิตภาพ (Productivity) และสอดคล้องกับข้อกำหนดกฎหมาย (พ.ร.บ. คุ้มครองแรงงาน) เช่น อัตราเงินเฟ้อ, อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ, ความสามารถของนายจ้าง, ความจำเป็นของลูกจ้าง และสอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจและสังคมของแต่ละพื้นที่ ไม่ใช่อัตราเดียวทั่วประเทศ ทั้งนี้ให้พิจารณาตามข้อเสนอของคณะอนุกรรมการค่าจ้างจังหวัดเป็นหลัก และเสนอให้พิจารณาปรับคณะกรรมการค่าจ้างไตรภาคีเป็นพหุพาคี (โดยมีผู้แทนจากภาคเอกชนที่สำคัญ เช่น สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สมาคมธนาคารไทย และสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เป็นคณะกรรมการพิจารณาค่าจ้าง) นอกจากนี้ควรส่งเสริมให้นายจ้างและผู้ประกอบการโดยเฉพาะ SMEs มีค่าจ้างแบบกระบอกเงินเดือน (แท่งค่าจ้าง) โดยให้กระทรวงแรงงานสำรวจและจัดทำข้อมูลอ้างอิงให้กับผู้ประกอบการ รวมทั้งส่งเสริมให้ใช้อัตราค่าจ้างตามมาตรฐานฝีมือแรงงานตามกำหนดของกระทรวงแรงงานอย่างทั่วถึง
เป็นวาระแห่งชาติ) การเพิ่มผลิตภาพแรงงานและพัฒนาฝีมือแรงงาน ควรกำหนดให้การเพิ่มผลิตภาพแรงงานเป็นวาระแห่งชาติ (National Agenda) ควรส่งเสริมในเรื่องการ Re Skill และ Up Skill ให้สอดคล้องกับตลาดแรงงานโดยให้มีแรงจูงใจจากภาครัฐ, จัดอบรมการ Up Skill หลักสูตรระยะสั้นในระดับกลางและระดับสูง (Hybrid Learning System) เพื่อให้บุคลากรมีความรู้เพิ่มพูนทักษะ, ส่งเสริมให้สถานประกอบการเพิ่มผลิดภาพ (Productivity) อย่างเป็นระบบ โดยนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาช่วยโดยมีแรงจูงใจด้านภาษีที่เพิ่มขึ้น พร้อมเปิดโอกาสให้ภาคเอกชนเข้ามามีส่วนร่วมกำหนดนโยบายการจัดสรรงบประมาณของภาครัฐเพื่อดำเนินโครงการเพิ่มผลิดภาพของประเทศโดยรวม, จัดตั้งหน่วยงานกลางร่วมระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน เพื่อบูรณาการมาตรฐานฝีมือแรงงานให้เป็นที่ยอมรับในระดับสากล และกำหนดแนวทางการรับรองหลักสูตรและมาตรฐานการพัฒนาฝีมือแรงงานของภาครัฐ (กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน) ให้ชัดเจน, ปรับเปลี่ยนโครงสร้างการผลิตบุคลากรของประเทศ โดยขยายความร่วมมือภาคเอกชนและภาคการศึกษาในการปรับโครงสร้างหลักสูตรการศึกษาให้สามารถผลิตบุคลากรสอดคล้องกับตลาดแรงงาน รวมทั้งขยายให้บุคคลธรรมดานำค่าใช้จ่ายในการเพิ่มผลิตภาพแรงงานไปลดหย่อนภาษีได้ เป็นวาระแห่งชาติ เท่า
3) การเพิ่มกำลังคนทดแทน เสนอให้วางระบบ Re -Employment สำหรับแรงงานสูงอายุ สร้างมาตรการจูงใจให้ผู้ประกอบการเข้าสู่ระบบ โดยให้ปฏิรูประบบค่าจ้างของประเทศเพื่อเป็นกลไกในการเพิ่มผลิตภาพแรงงาน โดยการส่งเสริมการจ้างแบบยืดหยุ่น และหักค่าใช้จ่ายได้ตามค่าจ้างที่เป็นจริง พร้อมทั้งควรศึกษาความต้องการแรงงานและความจำเป็นแรงงานต่างด้าวสัญชาติอื่นๆ เพื่อทดแทนแรงงานต่างด้าว 3 สัญชาติ (กัมพูชา ลาว และเมียนมา) ส่งเสริมการนำแรงงานนอกระบบ อาทิ แรงงานชายขอบ เข้าสู่ระบบการทำงานและการจ้างงาน, จัดตั้งศูนย์ข้อมูลแรงงาน (Big Data) ของกระทรวงแรงงาน โดยให้กระทรวงแรงงาน (จัดหางานจังหวัด) และหอการค้าจังหวัด สภาอุตสาหกรรมจังหวัด ร่วมจัดทำการสำรวจความต้องการแรงงานในแต่ละพื้นที่ อาทิ จัดทำฐานข้อมูลบัณฑิต (ปริญญาตรี) โดยเฉพาะมหาวิทยาลัยราชภัฏ และมหาวิทยาลัย เทคโนโลยีราชมงคลต่างๆ เพื่อหาวิธีการส่งเสริมให้มีงานทำและรายได้ ให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาด" นายสุชาติ กล่าว
กลุ่มงานสื่อสารองค์กรคปภ. แถลงการณ์ร่วม 6 องค์กร ยืนยันภาคการเงิน-อุตสาหกรรม-ตลาดทุน ไม่ได้รับผลกระทบจากเหตุแผ่นดินไหว ย้ำด้านการประกันภัยทำงานเชิงรุก พร้อมเบิกจ่ายสินไหมรวดเร็ว-เป็นธรรม นายชูฉัตร ประมูลผล เลขาธิการ คณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (เลขาธิการ คปภ.) เปิดเผยว่า วันที่ 31 มีนาคม 2568 สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (สำนักงาน คปภ.) สภาวิศวกร สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (สอท.) ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และ
Dow โชว์นวัตกรรมวัสดุศาสตร์ลดคาร์บอน หนุนผู้ประกอบการไทยมุ่งสู่อนาคตคาร์บอนต่ำ
—
กลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทย (Dow) ร่วมโชว์นวัตกรรมด้านวัสดุศาสตร์ ในธีม "สู...
มทร.กรุงเทพ จับมือ 4 มหาวิทยาลัยดัง และ วิทยุการบิน ยกระดับกำลังคนกลุ่มอุตสาหกรรมการบิน
—
รศ.ดร.พิชัย จันทร์มณี อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล (มทร....
"พาณิชย์ ร่วมกับ สภาอุต จัดงาน FTI Expo 2025"สนับสนุนการลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ ขยายโอกาส คาดสร้างเม็ดเงินกว่า 2839
—
นายวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ ปลัดกระทรวงพาณ...
NER ชูแนวคิด NER Creating value beyond rubber ร่วมขับเคลื่อนอุตสาหกรรมยางในงาน FTI EXPO 2025
—
เมื่อเร็วๆนี้ นายชูวิทย์ จึงธนสมบูรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริห...
PRAPAT ร่วมงาน "FTI EXPO 2025" แสดงศักยภาพของอุตสาหกรรมไทยสู่สายตาโลก
—
บมจ.พีรพัฒน์ เทคโนโลยี หรือ "PRAPAT" นำโดย นายสืบพงศ์ เกตุนุติ (คนกลาง) ประธานบริษ...
บางจากฯ ร่วม FTI EXPO 2025 ชูแนวทาง "BCG for Climate Action: ขับเคลื่อนอุตสาหกรรมไทยสู่ความยั่งยืน"
—
วันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2568 นายโชคชัย อัศวรังสฤษฎ์ Chi...
วว. โชว์ Green Technology ในงาน FTI EXPO 2025
—
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) โดย สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศ...
สกสว. - เครือข่ายเศรษฐกิจและนวัตกรรม เปิดเวทีระดมความเห็นแผนยุทธศาสตร์
—
สกสว. เครือข่ายเศรษฐกิจและนวัตกรรม เปิดเวทีระดมความเห็นแผนยุทธศาสตร์ อุตฯ เซมิคอน...
บางจากฯ ตอกย้ำบทบาทผู้นำด้านความยั่งยืนและนวัตกรรม ร่วมสนับสนุนสภาอุตสาหกรรมฯ จัดงาน FTI Expo 2025
—
เมื่อวันที่ 15 มกราคม 2568 นางกลอยตา ณ ถลาง รองกรรมกา...