บมจ.
ไทยนิปปอนรับเบอร์อินดัสตรี้ หรือ TNR ตั้งเป้าดันรายได้รวมปี 6อมร ดารารัตนโรจน์ เติบโต อมร ดารารัตนโรจน์ไทยนิปปอนรับเบอร์อินดัสตรี้% จากปีก่อนที่ทำได้ อินเตอร์เนชั่นแนล,46ไทยนิปปอนรับเบอร์อินดัสตรี้ ล้านบาท พร้อมขยับอัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้น วางกลยุทธ์มุ่งเพิ่มพอร์ตรายได้จากกลุ่มธุรกิจผลิตถุงยางอนามัยและเจลหล่อลื่นภายใต้แบรนด์ของบริษัทฯ ทั้ง ONETOUCHTM และ PLAYBOY เป็น อมร ดารารัตนโรจน์ไทยนิปปอนรับเบอร์อินดัสตรี้% จากปีก่อนอยู่ที่ อินเตอร์เนชั่นแนลไทยนิปปอนรับเบอร์อินดัสตรี้% พร้อมตั้งเป้าพลิก
ผลการดำเนินงานของบริษัทย่อย - บ๊อก เอเชีย กรุ๊ป
อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ให้มีกำไรในช่วงครึ่งปีหลังของปีนี้
นาย
อมร ดารารัตนโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยนิปปอนรับเบอร์อินดัสตรี้ จำกัด (มหาชน) หรือ TNR ผู้ผลิตและจำหน่ายถุงยางอนามัยจากน้ำยางธรรมชาติรายใหญ่ที่สุดในไทยภายใต้แบรนด์ ONETOUCHTM และ PLAYBOY เปิดเผยว่า ในปี อมร ดารารัตนโรจน์56อมร ดารารัตนโรจน์ บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายรายได้รวมเติบโต อมร ดารารัตนโรจน์ไทยนิปปอนรับเบอร์อินดัสตรี้% จากปีที่ผ่านมาที่มีรายได้รวม อินเตอร์เนชั่นแนล,46ไทยนิปปอนรับเบอร์อินดัสตรี้ ล้านบาท และเพิ่มอัตรากำไรขั้นต้นที่ดีขึ้นกว่าปีก่อนโดยทิศทางการดำเนินงานจะมุ่งเพิ่มสัดส่วนรายได้จากกลุ่มธุรกิจผลิตถุงยางอนามัยและเจลหล่อลื่นภายใต้แบรนด์ของบริษัทฯ (company's trademark) เป็น อมร ดารารัตนโรจน์ไทยนิปปอนรับเบอร์อินดัสตรี้% จากสิ้นปีที่ผ่านมาอยู่ที่ อินเตอร์เนชั่นแนลไทยนิปปอนรับเบอร์อินดัสตรี้% ซึ่งประกอบด้วยแบรนด์ ONETOUCHTM ที่บริษัทฯ เป็นเจ้าของเครื่องหมายการค้า และแบรนด์ PLAYBOY ที่ได้รับสิทธิ์ในการขายและทำการตลาดผลิตภัณฑ์ถุงยางอนามัยและเจลหล่อลื่นรวม อินเตอร์เนชั่นแนล88 ประเทศทั่วโลกเมื่อปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นกลุ่มสินค้าที่มีอัตรากำไรขั้นต้นที่ดีเมื่อเทียบกับกลุ่มธุรกิจรับจ้างผลิต (OEM) และกลุ่มธุรกิจงานประมูล (Tender)
ทั้งนี้ ในการรุกเพิ่มสัดส่วนรายได้จากผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ของบริษัทฯ ได้วางตำแหน่ง ONETOUCHTM เป็นแบรนด์เจาะกลุ่มคนรุ่นมิลเลนเนียลในประเทศไทยและกลุ่ม CLMV โดยปี อมร ดารารัตนโรจน์56อมร ดารารัตนโรจน์ บริษัทฯ เตรียมงบโฆษณาเพื่อสร้างแบรนด์ และมีแผนจัดกิจกรรมการตลาดเพื่อกระตุ้นการขายสินค้ามากยิ่งขึ้นและขยายฐานลูกค้าใหม่เจาะกลุ่มผู้บริโภคที่ยังไม่เคยใช้ผลิตภัณฑ์ ONETOUCHTM มาก่อน เป้าหมายเพื่อเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดในประเทศไทยโดยสิ้นปีที่ผ่านมามีส่วนแบ่งการตลาดอยู่ที่ อมร ดารารัตนโรจน์7% ขณะที่แนวโน้มตลาดถุงยางอนามัยในประเทศไทยคาดว่าจะมีปริมาณการใช้ใกล้เคียงกับปีก่อน
ส่วนการขยายตลาดแบรนด์ PLAYBOY ได้วางตำแหน่งเป็นแบรนด์เจาะกลุ่มผู้บริโภคกลุ่มพรีเมี่ยมในไทยและต่างประเทศ โดยหลังจากได้รับสิทธิ์การขายและการตลาดเมื่อปีที่ผ่านมา ได้เดินทางพบกับคู่ค้าในภูมิภาคต่าง ๆ พร้อมทั้งวางระบบพัฒนาผู้แทนจำหน่ายและการวางแผนจัดกิจกรรมการตลาดร่วมกับผู้แทนจำหน่ายในประเทศต่าง ๆ เพื่อเพิ่มยอดขาย ส่วนแผนงานในปีนี้จะรุกขยายตลาดในภูมิภาคต่าง ๆ ได้แก่ ยุโรป แอฟริกา อาเซียนและตะวันออกกลาง ทั้งการเพิ่มประเทศคู่ค้าใหม่ ๆ และการเพิ่มยอดขายสินค้าในประเทศคู่ค้ารายเดิม
นอกจากนี้ บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายยอดขายสินค้าในกลุ่มธุรกิจ OEM เติบโตจากปีก่อนประมาณ อินเตอร์เนชั่นแนลไทยนิปปอนรับเบอร์อินดัสตรี้-อินเตอร์เนชั่นแนล5% โดยปัจจุบันยังคงมีคำสั่งซื้อผลิตภัณฑ์จากลูกค้าในภูมิภาคต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง ส่วนกลุ่มธุรกิจงานประมูลจะเน้นเข้าประมูลงานที่ให้ความสำคัญกับคุณภาพสินค้าและสามารถควบคุมอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ในเกณฑ์ที่ดี อย่างไรก็ตามในระยะยาวบริษัทฯ จะทยอยปรับลดสัดส่วนรายได้จากธุรกิจงานประมูลและหันมามุ่งเน้นการเพิ่มสัดส่วนรายได้จากการผลิตสินค้าภายใต้แบรนด์ของบริษัทฯ มากขึ้น
"นับจากเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ปลายปี อมร ดารารัตนโรจน์559 เรามีนโยบายเพิ่มสัดส่วนการขายสินค้าภายใต้แบรนด์ของบริษัทฯ มากยิ่งขึ้น โดยในปีนี้น่าจะเห็นภาพชัดเจนหลังจากเราได้สิทธิ์แบรนด์ PLAYBOY ซึ่งเป็นแบรนด์ชั้นนำระดับโลกที่คนไทยและต่างประเทศรู้จักดี โดยเฉพาะตลาดต่างประเทศที่ยังมีโอกาสเติบโตอย่างมาก
นายสุเมธ มาสิลีรังสี ผู้อำนวยการฝ่ายบัญชีและการเงิน TNR กล่าวว่า ในปีนี้น่าจะเป็นปีที่บริษัทฯ มีการเติบโตที่ดีขึ้นทั้งในด้านยอดขายและอัตรากำไรขั้นต้น โดยนอกจากแผนงานเพิ่มสัดส่วนรายได้จากการจำหน่ายสินค้าแบรนด์ ONETOUCHTM และ PLAYBOY แล้ว คาดว่าจะได้รับอานิสงส์ผลดีจากราคาวัตถุดิบหลักในตลาดโลกที่ปรับลดลง ได้แก่ ราคาซิลิโคนที่ปรับลดลงตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมาและสถานการณ์ราคาน้ำยางที่อยู่ในช่วงลดลง ซึ่งจะส่งผลดีต่อการบริหารต้นทุนการผลิตสินค้าในปีนี้
ส่วนบริษัท บ๊อก เอเชีย กรุ๊ป อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ซึ่งมีสถานะเป็นบริษัทย่อยของ TNR ที่ดำเนินธุรกิจด้านการผลิตและจำหน่ายบรรจุภัณฑ์กระดาษ หลังจากเข้าควบรวมกิจการเมื่อปลายปีที่ผ่านมาเพื่อใช้เป็นฐานการผลิตบรรจุภัณฑ์ให้แก่บริษัทฯ และลูกค้าทั่วไป บริษัทฯ ได้เข้าไปดำเนินการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตเพื่อลดความสูญเสียที่เกิดขึ้นภายในโรงงาน ส่งผลให้มีผลการดำเนินงานที่ดีขึ้น และตั้งเป้าหมายให้บริษัท บ๊อก เอเชีย กรุ๊ปฯ กลับมาสร้างผลกำไรอีกครั้งตั้งแต่ช่วงครึ่งปีหลังของปีนี้ โดยจะเน้นลดความสูญเสียในกระบวนการผลิตอย่างต่อเนื่อง
"ราคาวัตถุดิบในปีนี้ไม่น่าจะเป็นปัญหาที่ส่งผลกระทบกับการบริหารต้นทุนการผลิตของบริษัทฯ อย่างไรก็ตามปัจจัยต้องติดตามคือความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน ซึ่งเรามอนิเตอร์อยู่ตลอดเวลาและทำประกันความเสี่ยงค่าเงิน ส่วนกรณีที่เงินบาทแข็งค่าขึ้นเกินกว่า อินเตอร์เนชั่นแนลไทยนิปปอนรับเบอร์อินดัสตรี้% หรือมีอัตราแลกเปลี่ยนต่ำกว่า 3อินเตอร์เนชั่นแนล บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ เราจะใช้วิธีพิจารณาปรับขึ้นราคาสินค้ากต่างประเทศเป็นราย ๆ" นายสุเมธ กล่าว