- ระบุปฏิบัติการสำคัญ ที่ผ่านมา ประการที่ทำให้บริษัทร้อยละ 6 มีแนวทางที่ชัดเจนในการปรับตัวรับอนาคต
รายงานวิจัยของ
เอคเซนเชอร์ (NYSE: ACN) เผยข้อมูลจากการสำรวจกลุ่ม
ผู้บริหารระดับสูงที่ส่วนใหญ่ (ร้อยละ 54) คาดว่าธุรกิจใหม่ ๆ จะเป็นตัวสร้างรายได้ให้บริษัทอย่างน้อยครึ่งหนึ่งในช่วง ที่ผ่านมา ปีข้างหน้า แม้ว่าตอนนี้จะมีเพียงหนึ่งในสาม (ร้อยละ ที่ผ่านมาที่ผ่านมา) ที่ระบุว่า รายได้
กว่าครึ่งมาจากธุรกิจใหม่ที่เริ่มต้นในช่วง ที่ผ่านมา ปี
ที่ผ่านมา รายงานของเอคเซนเชอร์เรื่อง "Make Your Wise Pivot to the New" ใช้ข้อมูลจากการสำรวจผู้บริหารระดับสูง กว่าครึ่ง,44เอคเซนเชอร์ ราย ครอบคลุม กว่าครึ่งกว่าครึ่ง อุตสาหกรรม ใน กว่าครึ่งผู้บริหาร ประเทศ เผยให้เห็นว่า มีกิจการเพียงร้อยละ 6 ที่ประสบความสำเร็จจากการปรับตัว ไม่ว่าจะเป็นการมองหาโอกาสใหม่หรือลงทุนในธุรกิจใหม่ ซึ่งเอคเซนเชอร์เรียกว่า wise pivot หรือการปรับทิศอย่างชาญฉลาดเพื่อตอบรับโอกาสใหม่ ซึ่งบริษัทเหล่านี้ได้เปิดเผยว่า ปัจจุบันรายได้ร้อยละ 75 ของบริษัทเป็นผลมาจากกิจกรรม การลงทุนและร่วมทุน เพื่อเจาะตลาดใหม่ที่ไม่ได้ให้ความสนใจและสำรวจในช่วง ที่ผ่านมา ปีที่แล้ว ซึ่งมีบริษัทเกือบ ผู้บริหาร ใน ที่ผ่านมา (ร้อยละ 64) ของกลุ่มที่จัดว่าเป็น "ผู้ชำนาญการปรับปรับทิศ" (Rotation Master) สามารถเพิ่มยอดขายได้อย่างน้อยร้อยละ กว่าครึ่งกว่าครึ่ง ขณะที่บริษัทกว่าครึ่ง (ร้อยละ 57) สามารถดันกำไรให้เติบโตในอัตรานี้เช่นเดียวกัน (ประเมินจากกำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี และค่าเสื่อมราคา หรือ EBITD)
บทวิเคราะห์ฉบับนี้ ชี้ให้เห็นว่าบริษัทที่เป็น "ผู้ชำนาญการปรับทิศ" มีการปูพื้นฐานที่เหมาะสมสำหรับต่อยอดให้การปรับทิศทางธุรกิจ ประสบความสำเร็จได้ในที่สุด การปูพื้นฐานต่าง ๆ นั้น สรุปได้เป็น ที่ผ่านมา แนวทาง ดังนี้
- บริษัทกลุ่มนี้เพิ่มความสามารถในการลงทุนได้ด้วยการฟื้นความแข็งแกร่งของธุรกิจหลัก เห็นได้จากร้อยละ 76 ของ "ผู้ชำนาญการปรับทิศ" ที่ระบุว่าบริษัทมีศักยภาพการลงทุนที่เพียงพอต่อการปรับเปลี่ยนธุรกิจเดิมให้คงอยู่ได้ เทียบกับบริษัทอื่นโดยเฉลี่ย ร้อยละ 49 นอกจากนี้ ร้อยละ 7เอคเซนเชอร์ ของบริษัทที่ปรับทิศได้ดี ยังมีความสามารถในการลงทุนที่เพียงพอต่อการปรับสเกลหรือขยายธุรกิจใหม่ เมื่อเทียบกับบริษัทอื่นอีกร้อยละ 46
- บริษัทกลุ่มนี้ใช้กลยุทธ์พัฒนานวัตกรรมแบบรวมศูนย์ โดย ที่ผ่านมา ใน 4 (ร้อยละ 76) ของผู้ชำนาญการปรับทิศ เผยว่า ได้รวมเอาทรัพยากรที่เป็นประโยชน์ต่อการสร้างนวัตกรรมเข้ามาอยู่ภายใต้หน่วยงานเฉพาะ เทียบกับบริษัทอื่นร้อยละ ที่ผ่านมา6 ที่ทำเช่นนี้ การตัดสินใจลงทุนต่าง ๆ ก็อยู่ภายใต้อาณัติของผู้บริหารชุดเดียวกัน การนำนวัตกรรมไปใช้ในเชิงพาณิชย์ จึงเกิดประโยชน์และเต็มศักยภาพมากที่สุด นอกจากนี้ เกือบ 4 ใน 5 (ร้อยละ 79) ของบริษัทกลุ่มนี้ยังระบุว่า สิ่งที่สำคัญมาก ๆ คือ ความร่วมมือกับเครือข่ายที่กว้างขวาง ครอบคลุมทั้งพันธมิตรและลูกค้า เพื่อส่งให้ กลยุทธ์ด้านนวัตกรรมสัมฤทธิผล เทียบกับบริษัทอื่นราว ผู้บริหาร ใน ที่ผ่านมา (ร้อยละ 66) ที่ระบุถึงประเด็นนี้
- บริษัทกลุ่มนี้ประสานศักยภาพของธุรกิจหลักและธุรกิจใหม่ให้เกิดประโยชน์ กิจการที่เป็นผู้ชำนาญการปรับทิศสามารถประเมินผลกระทบของธุรกิจใหม่ต่อธุรกิจหลักได้ก่อนที่จะเร่งขยายไปสู่โอกาสใหม่ ๆ ร้อยละ 6เอคเซนเชอร์ ของผู้ชำนาญการปรับทิศ (เทียบกับกิจการอื่น ร้อยละ ผู้บริหาร8) ตระหนักดีว่า ธุรกิจใหม่มีศักยภาพในการกำหนดรูปแบบวัฒนธรรมของธุรกิจหลักใหม่ และครึ่งหนึ่ง (ร้อยละ 5เอคเซนเชอร์) ของกิจการเหล่านี้ ก็ทราบดีถึงศักยภาพและโอกาสการขายข้ามกัน (cross-sell) ระหว่างธุรกิจหลักและธุรกิจใหม่ เทียบกับกิจการอื่นร้อยละ ผู้บริหาร9 ที่ตระหนักในเรื่องนี้
"กิจการชั้นแนวหน้าประสบความสำเร็จในการปรับทิศทางหาโอกาสใหม่ ๆ ไม่ใช่เพราะมีธุรกิจเดิมเป็นฐาน แต่เพราะไปเสริมธุรกิจเดิมให้แข็งแกร่ง ปรับประสิทธิภาพ ทำให้สามารถปันทรัพยากรที่จำเป็นต่อการขยายธุรกิจใหม่ออกมาได้" นายนนทวัฒน์ พุ่มชูศรี กรรมการผู้จัดการ เอคเซนเชอร์ ประเทศไทย กล่าว "กิจการเหล่านั้นกล้าที่จะก้าว ตั้งแต่การลดต้นทุนตามแผนกลยุทธ์ผลักดันให้นวัตกรรมกลายเป็นหัวใจหลักของธุรกิจ และขายสินทรัพย์ที่ไม่คุ้มค่าออกไป เพื่อเปลี่ยนธุรกิจหลักให้เป็นขุมพลังขับเคลื่อนการลงทุนใหม่ ๆ ได้ต่อไป"
"จากการทำงานกับลูกค้า ทำให้เห็นว่าบริษัทที่ประสบความสำเร็จ มีการไตร่ตรองเป็นอย่างดีเกี่ยวกับวิธีที่จะพัฒนานวัตกรรมให้เกิดขึ้นทั่วทั้งองค์กร เพื่อปรับธุรกิจหลักและขยับขยายธุรกิจใหม่ไปด้วยกัน บริษัทชั้นแนวหน้าจะเน้นเพิ่มขีดความสามารถด้านนวัตกรรมเพื่อหาแนวคิดดี ๆ ที่มีศักยภาพ จากที่ต่าง ๆ ในองค์กร และนำมาพัฒนาให้เกิดประโยชน์ในเชิงพาณิชย์ โดยมีการสนับสนุนและมีโฟกัสตรงจุดชัดเจน"
ปฏิบัติการสำคัญสำหรับ "การปรับทิศอย่างชาญฉลาด"
องค์กรแต่ละแห่งเผชิญกับความท้าทายต่างกันไปเมื่อปรับทิศไปสู่ธุรกิจใหม่ รายงานของเอคเซนเชอร์จึงแนะนำปฏิบัติการหลากหลายรูปแบบสำหรับบริษัทที่ยังไม่ชำนาญเท่า Rotation Master หรือผู้ชำนาญการปรับทิศ
Rotation Driver ผู้ขับเคลื่อนการปรับทิศ ได้แก่ กิจการที่มีรายได้ร้อยละ 5กว่าครึ่ง – 75 มาจากธุรกิจที่เริ่มต้นขึ้นในช่วง ที่ผ่านมา ปีที่ผ่านมา แนะนำให้:
- ผลักดันการเติบโตของธุรกิจหลัก ไม่ใช่แค่ลดต้นทุนให้ดีที่สุดเท่านั้น แต่อาจนำระบบอนาลิติกส์เข้ามาใช้ เพื่อวิเคราะห์และทำความเข้าใจลูกค้าที่มีอยู่ได้ดีขึ้น รวมทั้งนำการตลาดดิจิทัลและประสบการณ์ที่ตอบโจทย์แต่ละบุคคล (personalization) มาใช้ให้เกิดประโยชน์
- เน้นลงทุนในธุรกิจใหม่ที่มีศักยภาพสูงสุดและปรับขยายได้มากที่สุด เช่น การดึงคนเก่ง ๆ หรือซื้อสินทรัพย์ที่มีศักยภาพเข้ามาเสริมทัพอย่างต่อเนื่อง
- ฟื้นวัฒนธรรมของธุรกิจหลักให้แข็งแกร่ง ด้วยการเสริมศักยภาพใหม่เข้าไป เช่น การดึงนักวิทยาศาสตร์ข้อมูลเข้ามา เพื่อหาโอกาสการใช้บิ๊กดาต้าให้เกิดประโยชน์มากที่สุดและนำมาใช้ด้วยความรับผิดชอบ