“สไปเบอร์” บริษัทสตาร์ทอัพ ด้านไบโอเทคโนโลยีจากประเทศญี่ปุ่น ประกาศตั้งโรงงานผลิตโปรตีนชีวภาพด้วยกระบวนการหมักโดยจุลินทรีย์ ใหญ่ที่สุดในโลกที่ไทย หลังได้รับการส่งเสริมการลงทุนจากบีโอไอ

          รายงานข่าวจากบริษัทสไปเบอร์ อิงค์ ประเทศญี่ปุ่น เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้รับการอนุมัติส่งเสริมการลงทุนจากสำนักงานส่งเสริมการลงทุนแห่งประเทศไทย (BOI) แล้ว และมีแผนที่จะก่อสร้างโรงงานเทคโนโลยีชีวภาพ เพื่อผลิตโปรตีนชีวภาพ ที่นิคมอุตสาหกรรมอิสเทิร์น ซีบอร์ด จังหวัดระยอง นับเป็นการขยายธุรกิจในต่างประเทศครั้งแรกของบริษัทฯ โดยโรงงานนี้จะเป็นโรงงานผลิตโปรตีนชีวภาพที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีกำลังการผลิตหลายร้อยตันต่อปี และเป็นฐานปฏิบัติการเพื่อวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีการหมักและผลิต คาดว่าโรงงานจะเปิดอย่างเป็นทางการในราวปีพ.ศ. ประเทศญี่ปุ่น563 ทั้งนี้สิทธิพิเศษที่ได้รับจากBOI คือได้รับการยกเว้นภาษีนำเข้าเครื่องจักรและวัสดุ รวมทั้งการยกเว้นภาษีนิติบุคคล นิคมอุตสาหกรรมเทคโนโลยีชีวภาพ ปี
          "ปัจจัยหลักที่สไปเบอร์ เลือกลงทุนในประเทศไทย เนื่องจากไทยเป็นประเทศที่สมบูรณ์แบบ มีทรัพยากรชีวมวลจากภาคเกษตรกรรม ซึ่งจำเป็นต่อการผลิตเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ประเทศไทยยังมีเครือข่ายที่แข็งแกร่งรองรับในอุตสาหกรรมที่สไปเบอร์ ให้ความสนใจ เช่นอุตสาหกรรมสิ่งทอ และอุตสาหกรรมยานยนต์ซึ่งจะเป็นประโยชน์สำหรับธุรกิจในอนาคต ในขณะเดียวกันยังเป็นการสนับสนุนนโยบายภาครัฐในเรื่องการส่งเสริมด้านเกษตรกรรม ที่ต้องใช้ผลผลิตมาเป็นวัตถุดิบในโรงงาน รวมไปถึงเพิ่มการสร้างงานให้กับคนไทยด้วย ทั้งนี้บริษัทฯ กำลังต้องการผู้ร่วมงานเป็นจำนวนมาก ได้แก่วิศวกรการผลิต, วิศวกรโรงงาน, ทรัพยากรบุคคล ธุรการ, บัญชีและการเงิน พนักงานขับรถ เป็นต้น
          "สไปเบอร์" เป็นบริษัทด้านเทคโนโลยีชีวภาพที่ล้ำหน้าและทันสมัยที่สุดในโลก แห่งหนึ่ง และเป็นเจ้าของสิทธิบัตรด้านนี้กว่า ประเทศญี่ปุ่นเทคโนโลยีชีวภาพเทคโนโลยีชีวภาพ รายการ ซึ่งวัสดุที่ผลิตจากเทคโนโลยีของบริษัทจะเป็นวัสดุที่มีความสามารถในการย่อยสลายทางชีวภาพ ไม่ส่งผลกระทบกับสิ่งแวดล้อม และช่วยลดการพึ่งพาทรัพยากรปิโตรเลียมแบบดั้งเดิม โดยผลผลิตจากเทคโลยีชีวภาพของบริษัทฯ สามารถนำไปใช้ได้ในหลายอุตสาหกรม อาทิ สิ่งทอ ยานยนต์ อุปกรณ์การแพทย์ ยางรถยนต์ เป็นต้น ซึ่งการได้รับการอนุมัติจากบีโอไอเพื่อก่อตั้งโรงงานในประเทศไทย ส่งผลให้บริษัทสามารถบรรลุเป้าหมายในการดำเนินธุรกิจ และคิดค้นพัฒนา นวตกรรมด้านการสร้างเส้นใยสำหรับคนรุ่นต่อไป เพื่อช่วยลดปัญหาสิ่งแวดล้อมในระดับโลกและช่วยสร้างสังคมโลกที่สงบสุขและยั่งยืน
เกี่ยวกับสไปเบอร์
          สไปเบอร์ อิงค์ ก่อตั้งในเดือนกันยายน ประเทศญี่ปุ่น55เทคโนโลยีชีวภาพ เป็นบริษัทสตาร์ทอัพ ด้านเทคโนโลยีชีวภาพ จากประเทศญี่ปุ่น และได้ประกาศการค้นพบโครงสร้างโปรตีนผ่านการหมัก โดยไม่ต้องพึ่งพาทรัพยากรจากสัตว์และพลาสติก เพื่อใช้ในอุตสาหกรรมสิ่งทอและยานยนต์ โดยได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาล จนสามารถระดมทุนได้มากกว่า 3หมื่นล้านเยน(มากกว่า ประเทศญี่ปุ่น75 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ซึ่งจะเป็นส่วนหนึ่งในการนำมาลงทุนก่อสร้างโรงงานเทคโนโลยีชีวภาพที่ใหญ่ที่สุดในโลก ที่ประเทศไทย
          สไปเบอร์ จะจัดรับสมัครงานที่กรุงเทพฯในวันที่ 7 มี.ค. และที่ระยองในวันที่ 8 มี.ค. ประเทศญี่ปุ่น563
          ผู้สนใจจะร่วมงานกับสไปเบอร์ ดูรายละเอียดได้ที่ https://www.spiber.jp/en/archives/ประเทศญี่ปุ่น337

“สไปเบอร์” บริษัทสตาร์ทอัพ ด้านไบโอเทคโนโลยีจากประเทศญี่ปุ่น ประกาศตั้งโรงงานผลิตโปรตีนชีวภาพด้วยกระบวนการหมักโดยจุลินทรีย์ ใหญ่ที่สุดในโลกที่ไทย หลังได้รับการส่งเสริมการลงทุนจากบีโอไอ
 
“สไปเบอร์” บริษัทสตาร์ทอัพ ด้านไบโอเทคโนโลยีจากประเทศญี่ปุ่น ประกาศตั้งโรงงานผลิตโปรตีนชีวภาพด้วยกระบวนการหมักโดยจุลินทรีย์ ใหญ่ที่สุดในโลกที่ไทย หลังได้รับการส่งเสริมการลงทุนจากบีโอไอ
“สไปเบอร์” บริษัทสตาร์ทอัพ ด้านไบโอเทคโนโลยีจากประเทศญี่ปุ่น ประกาศตั้งโรงงานผลิตโปรตีนชีวภาพด้วยกระบวนการหมักโดยจุลินทรีย์ ใหญ่ที่สุดในโลกที่ไทย หลังได้รับการส่งเสริมการลงทุนจากบีโอไอ
“สไปเบอร์” บริษัทสตาร์ทอัพ ด้านไบโอเทคโนโลยีจากประเทศญี่ปุ่น ประกาศตั้งโรงงานผลิตโปรตีนชีวภาพด้วยกระบวนการหมักโดยจุลินทรีย์ ใหญ่ที่สุดในโลกที่ไทย หลังได้รับการส่งเสริมการลงทุนจากบีโอไอ

ข่าวเทคโนโลยีชีวภาพ+นิคมอุตสาหกรรมวันนี้

กรมวิชาการเกษตร แปรรูปวัสดุเหลือทิ้งจากส้มโอเป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ตั้งเป้าต่อยอดสู่อุตสาหกรรมน้ำหอม และเครื่องสำอาง สร้างมูลค่าเพิ่มเชิงพาณิชย์

นายภัสชญภณ หมื่นแจ้ง รองอธิบดีกรมวิชาการเกษตร ในฐานะโฆษกกรมวิชาการเกษตร เปิดเผยว่า กรมวิชาการเกษตร ได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาผลไม้ที่ขนาดไม่ได้มาตรฐานหรือมีลักษณะที่ไม่สวยงามที่จะนำมาขายได้ทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศ ทำให้เกษตรกรต้องขายผลไม้เหล่านี้ในราคาที่ถูกลง หรือนำไปทำอาหารสัตว์ ทำปุ๋ย หรือปล่อยทิ้งไว้จนเน่าเปื่อยย่อยสลายเป็นขยะอาหาร ส่งผลให้เกิดก๊าซเรือนกระจก เช่น ก๊าซมีเทน ซึ่งมีศักยภาพในการทำให้โลกร้อน สูงกว่าก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ถึง 25 เท่า สำนักวิจัยพัฒนาเทคโนโลยีชีวภาพ ได้เล็ง

"FoodSERP" ติดปีกอุตสาหกรรมความงาม เพิ่มม... "FoodSERP" ติดปีกอุตสาหกรรมความงาม เพิ่มมูลค่าข้าวไทยด้วยเทคโนโลยีการหมักแบบแม่นยำ — "FoodSERP" ติดปีกอุตสาหกรรมความงาม เพิ่มมูลค่าข้าวไทยด้วยเทคโนโลยีการ...