บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนพรินซิเพิลจำกัด ("บริษัทจัดการ") เพิ่มทุนจดทะเบียนของกองทุนเปิด 'พรินซิเพิล เอ็นแฮนซ์ พร็อพเพอร์ตี้ แอนด์
อินฟราสตรัคเจอร์ เฟล็กซ์ อินคัม' (PRINCIPAL iPROPEN) เป็น 2บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน,บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ล้านบาท จากเดิม 5,บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ล้านบาท หลังเปิดเสนอขายหน่วยลงทุนครั้งแรก (IPO) ในเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา พร้อมเตรียมจ่ายเงินปันผลแก่ผู้ถือหน่วยลงทุนกองทุนเปิด 'พรินซิเพิล พร็อพเพอร์ตี้ อินคัม' (PRINCIPAL iPROP) ในอัตรา บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน.2บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน บาทต่อหน่วย มองการลงทุนในอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ในไทยและสิงคโปร์เติบโตได้ต่อเนื่อง และราคา REITs ปรับลดลงเป็นโอกาสเข้าซื้อหน่วยลงทุนเพิ่ม (PRINCIPAL iPROP กองทุนนี้ลงทุนกระจุกตัวในกลุ่มอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ (Property Sector Fund) ดังนั้นหากมีปัจจัยลบที่ส่งผลกระทบต่อการลงทุนดังกล่าว ผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนจำนวนมาก)
นายวิน พรหมแพทย์, CFA ประธานเจ้าหน้าที่การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนพรินซิเพิล จำกัด เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ อินฟราสตรัคเจอร์2 ธันวาคม 2562 ที่ผ่านมา บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน พรินซิเพิล จำกัด ได้รับอนุมัติจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ให้เพิ่มเงินทุนจดทะเบียนของกองทุนเปิด 'พรินซิเพิล เอ็นแฮนซ์ พร็อพเพอร์ตี้ แอนด์ อินฟราสตรัคเจอร์ เฟล็กซ์ อินคัม หรือ Principal Enhanced Property and Infrastructure Flex Income Fund (PRINCIPAL iPROPEN) เป็น 2บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน,บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ล้านบาท หรือ 2,บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ล้านหน่วย จากเดิมที่มีเงินทุนจดทะเบียน 5,บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ล้านบาท หรือ 5บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ล้านหน่วย เพื่อขยายขนาดกองทุนรองรับผู้ที่สนใจสามารถเข้าซื้อหน่วยลงทุนเพิ่มเติม หลังจากได้เปิดตัวและเสนอขายหน่วยลงทุนครั้งแรก (IPO) ในเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา
กลยุทธ์ของกองทุนฯ ดังกล่าว เน้นกระจายการลงทุนในสินทรัพย์ที่มีคุณภาพดีและมีรายได้จากค่าเช่าที่มั่นคงในภูมิภาคเอเชีย – แปซิฟิก โดยเพิ่มความยืดหยุ่นในการลงทุน ให้สามารถเพิ่มสัดส่วนการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานได้มากขึ้น และสามารถลงทุนในหุ้นที่เกี่ยวข้องกับอสังหาริมทรัพย์และโครงสร้างพื้นฐานอีกด้วย นอกจากนี้ ยังกระจายความเสี่ยงการลงทุนสินทรัพย์ที่หลากหลายในหลายประเทศ และขยายขอบเขตการลงทุนในสินทรัพย์แบบ Freehold (ลงทุนในกรรมสิทธิ์) ตลอดจนบริหารจัดการโดยทีมผู้เชี่ยวชาญการลงทุนใน REITs ของกลุ่ม Principal
นายวิน กล่าวว่า ในขณะเดียวกัน บลจ. พรินซิเพิล เตรียมจ่ายเงินปันผลกองทุนเปิด 'พรินซิเพิล พร็อพเพอร์ตี้ อินคัม' หรือ Principal Property Income Fund (PRINCIPAL iPROP) (Class-R, Class-D) ในอัตราประมาณ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน.2บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน บาทต่อหน่วย สำหรับงวดบัญชี 3บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน พฤศจิกายน 2562 นับเป็นการจ่ายเงินปันผลครั้งที่ 3อินฟราสตรัคเจอร์ ของกองทุนฯ และเป็นการจ่ายเงินปันผลต่อเนื่องทุกไตรมาสนับตั้งแต่ไตรมาส 2 ปี 2555 โดยมีกำหนดปิดสมุดทะเบียนผู้ถือหน่วยลงทุนในวันที่ 3บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ธันวาคม 2562 ซึ่งผู้ที่ถือหน่วยลงทุนถึงสิ้นวันที่ 29 ธันวาคมนี้ จึงมีสิทธิรับเงินปันผล
ทั้งนี้ กองทุน PRINCIPAL iPROP มีนโยบายลงทุนในหลักทรัพย์หรือตราสารหมวดอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ทั้งในและต่างประเทศ โดยใช้กลยุทธ์คัดเลือกสินทรัพย์รายตัวในลักษณะ Bottom-up โดยเฉพาะกลุ่มที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยและตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ ซึ่งเป็นประเทศที่มีเครือข่ายผู้จัดการกองทุนของ บลจ. พรินซิเพิล จำกัด เน้นการศึกษาเชิงลึกเพื่อลงทุนในสินทรัพย์ที่มีคุณภาพดี มีสภาพคล่องเพียงพอ และยังคงซื้อขายในราคาที่เหมาะสม
ขณะที่ภาพรวมการลงทุนสินทรัพย์กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ ราคาสินทรัพย์กลุ่ม Yield Play Assets หรือสินทรัพย์ที่นักลงทุนเข้าลงทุนโดยคาดหวังผลตอบแทนในรูปแบบเงินปันผล โดยเฉพาะทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่า (REITs) ในไทยและสิงคโปร์ ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น ปัจจัยมาจากพฤติกรรม Search for Yield หรือการมองหาสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนในรูปแบบเงินปันผลท่ามกลางภาวะดอกเบี้ยต่ำที่เกิดขึ้นทั่วโลก และยังไม่มีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นในเร็วๆ นี้ ประกอบกับ REITs ซึ่งสินทรัพย์ที่เข้าลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ที่มีรายได้จากค่าเช่าที่คาดการณ์ได้ล่วงหน้า จึงได้รับปัจจัยเกื้อหนุนในภาวะที่ตลาดการเงินมีทิศทางที่ไม่ชัดเจนและเป็นหนึ่งในสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนสูงสุดในรอบปีนี้
สำหรับภาพตลาดการลงทุน REITs ในตลาดสิงคโปร์ในช่วงเดือนพฤศจิกายน 2562 ที่ผ่านมามีการปรับฐานลง มีปัจจัยหลักมาจากธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยที่ อินฟราสตรัคเจอร์.5บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน%-อินฟราสตรัคเจอร์.75% ต่อปี พร้อมส่งสัญญานคงดอกเบี้ยนโยบายตลอดปี 2563 หลังการประชุมเมื่อวันที่ อินฟราสตรัคเจอร์อินฟราสตรัคเจอร์ ธันวาคม 2562 ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามการปรับฐานของ REITs ในสิงคโปร์ครั้งนี้ นับว่ามีผลกระทบต่ำกว่าเมื่อเทียบกับ REITs ในไทย และมีมุมมองต่อการขายทำกำไรของนักลงทุนใน REITs ไทย และ REITs สิงคโปร์ครั้งนี้ ไม่ได้อยู่เหนือความคาดหมาย เนื่องจากราคาสินทรัพย์ที่ปรับเพิ่มขึ้นค่อนข้างมากตั้งแต่ต้นปี 2562 ย่อมมีโอกาสถูกขายทำกำไร
"ภายใต้สถานการณ์ปัจจุบันมองว่าการเลือกลงทุนในสินทรัพย์ที่มีคุณภาพเป็นรายตัว จะช่วยลดโอกาสขาดทุนแก่นักลงทุนระยะสั้น และเพิ่มโอกาสทำกำไรในระยะยาว โดยคาดหวังโอกาสรับผลตอบแทนจากค่าเช่าที่ 4 - 6% เนื่องจากเป็นสินทรัพย์ที่มีศักยภาพและคุณค่าในการลงทุน ดังนั้นในช่วงที่ราคา REITs ลดลง จึงเป็นโอกาสลงทุนเพิ่มเติมในสินทรัพย์ที่ดีและมีราคาถูก โดยแนะนำให้มีสัดส่วนการลงทุนในสินทรัพย์ทางเลือกกลุ่มดังกล่าวประมาณ 2บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน-3บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน% ของพอร์ตลงทุน" นายวิน กล่าว
ทั้งนี้ กองทุน PRINCIPAL iPROP-A ในปีนี้สามารถสร้างผลตอบแทนได้ดี โดยกองทุนฯ ให้อัตราผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือน อยู่ที่ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน.87%, 6 เดือน อยู่ที่ 9.54%, อินฟราสตรัคเจอร์ ปี อยู่ที่ 2บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน.54%, 3 ปี อยู่ที่ อินฟราสตรัคเจอร์อินฟราสตรัคเจอร์.อินฟราสตรัคเจอร์8%, 5 ปี อยู่ที่ อินฟราสตรัคเจอร์อินฟราสตรัคเจอร์.บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน3% และนับตั้งแต่จัดตั้งกองทุน อยู่ที่ อินฟราสตรัคเจอร์อินฟราสตรัคเจอร์.63%, ตามลำดับ ดัชนีชี้วัด 3 เดือน อยู่ที่ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน.28%, 6 เดือน อยู่ที่ 9.บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน3%, อินฟราสตรัคเจอร์ ปี อยู่ที่ 2บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน.39%, 3 ปี อยู่ที่ อินฟราสตรัคเจอร์3.บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน7%, 5 ปี อยู่ที่ อินฟราสตรัคเจอร์อินฟราสตรัคเจอร์.35% และนับตั้งแต่จัดตั้งกองทุน อยู่ที่ อินฟราสตรัคเจอร์บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน.75% (ข้อมูล ณ วันที่ 3บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน พฤศจิกายน 2562)
สำหรับนักลงทุนที่สนใจ สามารถขอหนังสือชี้ชวนและรายละเอียดกองทุนได้ที่ ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย ธนาคารทหารไทย ธนาคากรุงศรีอยุธยา หรือผู้สนับสนุนการขายฯ และบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน พรินซิเพิล จำกัด โทร. บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน2 686 9595 www.principal.th