PwC เผยผลสำรวจความคิดเห็นของซีเอฟโอและผู้บริหารฝ่ายการเงินสหรัฐฯ และเม็กซิโกพบ 87% ห่วงไวรัสโควิด-ธุรกิจไทย9 กระทบการดำเนินธุรกิจอย่างมีนัยสำคัญ ทำรายได้และกำไรปีนี้หด ชี้องค์กรต่าง ๆ เร่งงัดมาตรการทางการเงินออกมาใช้ทั้งบริหารต้นทุน ชะลอแผนการลงทุน และลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น ขณะที่ผลสำรวจฉบับอาณาเขตต่าง ๆ พบ เกือบ ธุรกิจไทย ใน 3 ของซีเอฟโอมีแผนเลิกจ้างพนักงาน ด้าน PwC ประเทศไทย แนะธุรกิจไทยประคับประคองธุรกิจ บริหารสภาพคล่อง และดูแลพนักงานเพื่อให้รอดพ้นจากภาวะวิกฤตไปพร้อม ๆ กับองค์กร
PwC ได้จัดทำผลสำรวจ COVID-19 CFO Pulse Survey ขึ้นเป็นครั้งที่ 2 โดยทำการสำรวจความคิดเห็นและมุมมองของประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการเงิน หรือ ซีเอฟโอ (Chief Financial Officer: CFO) รวมทั้งผู้บริหารทางการเงินอื่น ๆ เกี่ยวกับความกังวลจากผลกระทบทางเศรษฐกิจและธุรกิจที่เกิดขึ้นจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ทั้งนี้ PwC ได้รวบรวมความคิดเห็นของผู้นำทางการเงินในสหรัฐอเมริกาและเม็กซิโกจำนวน 55 รายระหว่างวันที่ 23-25 มีนาคมที่ผ่านมาพบว่า ซีเอฟโอมีความกังวลเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในประเด็นนี้ โดย 87% ของซีเอฟโอมีความกังวลมากว่า การระบาดของไวรัสโควิด-19 จะส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจของพวกเขา ขณะที่ 80% คาดว่า ไวรัสโควิด-19 จะส่งผลให้รายได้หรือกำไรปีนี้ลดลง ซึ่งเป็นอัตราที่เพิ่มขึ้นถึง 33 และ 22 จุดตามลำดับ เมื่อเปรียบเทียบกับผลจากการสำรวจครั้งก่อนเมื่อสัปดาห์ที่ 9 มีนาคมที่ผ่านมา
ทั้งนี้ องค์กรต่าง ๆ กำลังเร่งปรับกลยุทธ์ทางธุรกิจเพื่อรับมือกับสถานการณ์การแพร่ระบาดในครั้งนี้ โดย 85% ของซีเอฟโอระบุว่า ตนได้มีการดำเนินการทางการเงินอันเป็นผลมาจากวิกฤตโควิด-19 โดยเน้นใช้มาตรการควบคุมต้นทุน (67%) และชะลอหรือยกเลิกแผนการลงทุน (58%) ออกไปก่อน นอกจากนี้ ยังใช้กลยุทธ์ด้านอื่น ๆ เช่น ทบทวนค่าใช้จ่ายด้านสิ่งอำนวยความสะดวก ค่าใช้จ่ายด้านการลงทุนเพื่อสินทรัพย์ทั่วไป รวมถึงค่าใช้จ่ายด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ และบุคลากร
นอกจากนี้ ซีเอฟโอมากกว่าครึ่ง (56%) ยังคาดว่า จะเห็นมาตรการเยียวยาและผลประโยชน์ที่จะช่วยแบ่งเบาภาระให้กับพนักงานมากขึ้น เพราะในขณะที่สภาคองเกรสสหรัฐฯ ได้ดำเนินการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในด้านต่าง ๆ เพื่อให้ความช่วยเหลือชาวอเมริกันชดเชยกับการว่างงานที่เพิ่มขึ้น และช่วยประคับประคองไม่ให้ธุรกิจล่ม บริษัทต่าง ๆ ก็มีปรับเปลี่ยนผลประโยชน์ของพนักงานและประเมินทางเลือกอื่น ๆ อย่างแข็งขัน เช่น ระงับการจ้างงานเพิ่ม ลดสัปดาห์การทำงาน พิจารณาลดเงินค่าจ้าง และอื่น ๆ
“ผู้นำธุรกิจเข้าใจว่า เป้าหมายขององค์กรก่อนเกิดวิกฤตไม่ใช่เรื่องสำคัญอีกต่อไป เพราะในเวลานี้ความสำคัญอันดับที่ 1 ของพวกเขาคือ การนำพาองค์กรและพนักงานให้ผ่านสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่กำลังขยายวงกว้างไปให้ได้” นาย ทิม ไรอัน ประธานและหุ้นส่วนอาวุโส PwC สหรัฐอเมริกา กล่าว “อีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญคือ มีเพียง 16% ของซีเอฟโอที่ทำการสำรวจเท่านั้นที่พิจารณาแผนการเลิกจ้างในเดือนเมษายน ในทางตรงกันข้าม พวกเขามุ่งเน้นไปที่การปกป้องสินทรัพย์ที่สำคัญที่สุด ซึ่งนั่นก็คือ พนักงานและวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของพวกเขา ซึ่งนี่จะช่วยสนับสนุนเศรษฐกิจให้ฟื้นตัวกลับคืนมาโดยเร็ว”
แม้ว่า 84% ของผู้บริหารทางการเงินจะมีความกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจถดถอยทั่วโลกที่ใกล้เข้ามาทุกขณะ แต่ผู้ถูกสำรวจส่วนใหญ่ (76%) ยังเชื่อมั่นว่า ธุรกิจของตนจะสามารถกลับเข้าสู่ภาวะปกติได้ภายใน 3 เดือน หากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สิ้นสุดลงภายในวันนี้ ซึ่งเป็นอัตราที่ลดลง 14 จุดจากผลสำรวจเมื่อสัปดาห์ที่ 9 มีนาคมที่ผ่านมา
“บริษัทจำนวนมากกำลังต่อสู้กับการรักษาเสถียรภาพทางการเงินและการดำเนินธุรกิจท่ามกลางภาวะวิกฤตนี้ และถึงแม้ว่าความเชื่อมั่นของซีเอฟโอต่อความสามารถในการพลิกฟื้นธุรกิจให้ได้ภายในไม่กี่เดือนจะลดลงเรื่อย ๆ ก็ตาม” นางสาว เอมิที มิลไฮเซอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายลูกค้า ของ PwC กล่าว “ความสามารถในการชำระหนี้ ยังคงเป็นความกังวลอันดับต้นในสภาวะเศรษฐกิจที่ตกต่ำ และเราคาดว่าจะได้เห็นการออกมาตรการทางการเงินที่สำคัญ ๆ เพิ่มขึ้นเพื่อรักษาความสามารถยืดหยุ่นในการดำเนินธุรกิจในสัปดาห์ข้างหน้า” สำหรับผลกระทบของไวรัสโควิด-19 ที่มีต่อกลยุทธ์การควบรวมและซื้อกิจการนั้น ยังคงมีความไม่ชัดเจนในขณะนี้ โดยผู้บริหารทางการเงินส่วนใหญ่ ยังคงประเมินสถานการณ์ หรือยังไม่เปลี่ยนแปลงแผนการดังกล่าว อย่างไรก็ดี 13% ของซีเอฟโอระบุว่า ยังคงมองหาโอกาสในการควบรวมและซื้อกิจการมากขึ้น
“หลังจากผ่านสภาวะช็อกในช่วงแรกมาได้ ผู้บริหารมองถึงอนาคตและเห็นว่า ยังมีบางธุรกิจหรือสินทรัพย์บางประเภทที่มีพื้นฐานที่ดี และมีราคาน่าสนใจมากในตอนนี้ เมื่อเทียบกับช่วงก่อนหน้า” นาย นีล ดาร์ หัวหน้าสายงานบริการทางการเงิน ของ PwC สหรัฐอเมริกา กล่าว “การขอสินเชื่อน่าจะยังคงดำเนินต่อไปบนพื้นฐานราคาและส่วนต่างของราคาซื้อและขายที่เหมาะสม ก่อนที่เราจะเห็นเครื่องยนต์ของการควบรวมและซื้อกิจการเร่งตัวขึ้นอย่างเต็มที่ แต่ด้วยสภาวะตลาดในปัจจุบัน เราคาดว่าจะเห็นการลดราคาแบบกระหน่ำเป็นจำนวนไม่มากนักในอนาคตใกล้”
ทั้งนี้ เมื่อพิจารณาผลสำรวจซีเอฟโอและผู้บริหารทางการเงินจำนวน 55 คน พบว่า 80% ของผู้ถูกสำรวจมาจากบริษัทชั้นนำในทำเนียบฟอร์จูน 1000 และอีกส่วนหนึ่งมาจากองค์กรด้านสุขภาพที่ไม่แสวงหากำไร หรือ จากบริษัทเอกชน นอกจากนี้ ผู้ถูกสำรวจ 45 คนมาจากสหรัฐอเมริกา ขณะที่อีก 10 คนที่เหลือมาจากเม็กซิโก โดยผลสำรวจ PwC COVID-19 CFO Pulse Survey ถูกจัดทำขึ้นทุก ๆ 2 ครั้งต่อเดือนเพื่อติดตามความคิดเห็นและลำดับความสำคัญของผู้บริหารต่อผลกระทบของไวรัสโควิด-19 ซึ่งผลสำรวจครั้งแรกถูกจัดทำขึ้นระหว่างวันที่ 9-11 มีนาคม 2563 คุณสามารถอ่านผลจากการสำรวจและมุมมองของ PwC ได้ที่ pwc.com/us/covid-19-survey
ด้าน นาย นิพันธ์ ศรีสุขุมบวรชัย หัวหน้าสายงาน Clients and Markets หัวหน้ากลุ่มลูกค้าธุรกิจครอบครัว และหุ้นส่วนสายงานภาษีและกฎหมาย บริษัท PwC ประเทศไทย กล่าวว่า สำหรับผลสำรวจความคิดเห็นของซีเอฟโอครั้งที่ 2 นี้ PwC ยังได้จัดทำผลสำรวจฉบับอาณาเขตต่าง ๆ (Multi-territory findings) นอกเหนือไปจากสหรัฐฯ และเม็กซิโก ซึ่งได้ทำการสอบถามมุมมองความคิดเห็นของซีเอฟโออีก 153 รายใน 8 อาณาเขตและประเทศอื่น ๆ ทั่วโลก ประกอบด้วย บาห์เรน เนเธอร์แลนด์ ฟิลิปปินส์ โปรตุเกส กาตาร์ สวิสเซอร์แลนด์ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และ ไทย โดยพบว่า 82% ของซีเอฟโอในประเทศเหล่านี้มีความกังวลว่า การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จะส่งผลกระทบต่อธุรกิจของพวกเขาอย่างมีนัยสำคัญ (เปรียบเทียบกับ 87% ของซีเอฟโอในสหรัฐฯ และเม็กซิโก) ขณะที่เกือบ 1 ใน 3 หรือ 32% คาดว่า มีแผนเลิกจ้างพนักงาน ซึ่งถือเป็นเปอร์เซ็นต์ที่สูงกว่าสหรัฐฯ และเม็กซิโกถึงเท่าตัว
ในส่วนของความกังวลสูงสุด 3 อันดับแรกจากผลกระทบวิกฤตโควิด-19 นั้น ซีเอฟโอในประเทศเหล่านี้มองว่า ภาวะเศรษฐกิจโลกถดถอยเป็นความกังวลอันดับแรก (67%) ตามมาด้วยอันดับที่ 2 ผลกระทบทางการเงิน ซึ่งรวมถึงผลกระทบต่อการปฏิบัติงานในอนาคต สภาพคล่อง และแหล่งเงินทุน (61%) และอันดับที่ 3 ผลกระทบต่อกำลังแรงงานและการลดลงของประสิทธิภาพการผลิต (44%) แต่อย่างไรก็ดี ซีเอฟโอในประเทศเหล่านี้ส่วนใหญ่ (75%) มั่นใจว่า ธุรกิจของตนจะสามารถกลับเข้าสู่ภาวะปกติได้ภายใน 3 เดือน หากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สิ้นสุดลงภายในวันนี้
“ธุรกิจไทยกำลังเผชิญกับความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ไม่แตกต่างจากธุรกิจทั่วโลก ซึ่งแม้จะเป็นเรื่องยากลำบากในการประคับประคองธุรกิจในสถานการณ์ที่ซัพพลายเชนตึงตัว ท่ามกลางกำลังซื้อที่ค่อย ๆ หดหาย ตามการว่างงานที่เพิ่มขึ้น แต่ทุกองค์กรก็ทำงานอย่างดีที่สุดในการปรับกลยุทธ์ในทุก ๆ มิติเพื่อรับมือสถานการณ์ที่คาดเดาได้ยากในเวลานี้ สำหรับธุรกิจไทยที่ยังคงตั้งหลักไม่ถูก สิ่งแรกที่ต้องทำคือ จัดทำแผนบริหารความเสี่ยงในภาวะวิกฤต สำรวจและประเมินสภาพคล่องในการดำเนินธุรกิจ และวางแผนบริหารจัดการต้นทุนทั้งในระยะสั้นถึงระยะกลาง และที่สำคัญที่สุด ดูแลพนักงานของตัวเองเพื่อให้พวกเขามั่นใจว่า พวกเขาจะได้รับการปกป้องและจะผ่านพ้นจากภาวะวิกฤตไปพร้อม ๆ กับองค์กร” นาย นิพันธ์ กล่าวทิ้งท้าย
เจ คอนเซ็พท์ ผู้ดำเนินธุรกิจร้าน กูร์กูร์ ชิคเก้นท์ [GUGU Chicken] ไก่ทอดเกาหลีชื่อดัง เติบโตอย่างรวดเร็ว ก้าวสู่ปีที่ 5 ในประเทศไทย ประกาศตอกย้ำพันธกิจ "The Only One in Your Mind" ยึดแนวคิดใส่ใจลูกค้าและสร้างความประทับใจ เดินหน้าสู่การเป็นแบรนด์อันดับหนึ่งในใจลูกค้า มั่นใจจุดแข็ง ระบบบริหารตรงจากส่วนกลางในรูปแบบ Direct Management มั่นใจ สามารถควบคุมคุณภาพได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตั้งเป้าขยายครบ 40 สาขาทั่วประเทศไทย ภายในปี 2568 นายจองซอก ซู ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจ คอนเซ็พท์ จำกัด เปิด
AnyMind Group เสริมความแข็งแกร่งทีมผู้นำ ด้วยการแต่งตั้งผู้บริหารระดับสูง 5 ตำแหน่ง รวมถึงประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายผลิตภัณฑ์คนแรกของบริษัท
—
บริษัทประกาศแต่งต...
กรุงศรีเปิดตัวกองทุน KF-EMXCN โอกาสเติบโตไปพร้อมกับ Emerging Market
—
บลจ.กรุงศรี เปิดตัวกองทุนใหม่ KF-EMXCN ฝ่าความผันผวนจากสงครามการค้า ด้วยโอกาสลงทุนใน...
Chanintr Pre-Owned ธุรกิจบริการเฟอร์นิเจอร์ลักชัวรีมือสองแห่งแรกในไทย
—
CHANINTR (ชนินทร์) ผู้นำด้านเฟอร์นิเจอร์ลักชัวรีของประเทศไทย ยังคงมุ่งมั่นในแนวทาง...
กสิกรไทย รับรางวัลโครงการด้านการเงินสีเขียวยอดเยี่ยมแห่งภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก จาก The Asian Banker
—
นายณัฐพล ลือพร้อมชัย (กลาง) รองผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกสิ...
EGCO Group จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น 2568 ไฟเขียวปันผลครึ่งปีหลัง 3.25 บาท/หุ้น รวมปันผลทั้งปี 2567 จำนวน 6.50 บาท/หุ้น
—
บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) หร...
รายงานการสนองตอบต่อเหตุการณ์ภัยไซเบอร์ระดับโลกจาก Unit 42 ปี 2568 เผยว่าเหตุการณ์ภัยไซเบอร์เกือบ 44% เกี่ยวข้องกับเว็บเบราว์เซอร์
—
พาโล อัลโต้ เน็ตเวิร์ก...
NER ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 (จัดประชุมในรูปแบบ Hybrid (Physical และe-AGM))
—
บมจ.นอร์ทอีส รับเบอร์ หรือ NER ผู้นำการดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่าย ย...
กรุงศรี พร้อมเคียงข้างผู้ประกอบการ SME ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุแผ่นดินไหว สนับสนุนสินเชื่อเพื่อฟื้นฟูกิจการ
—
กรุงศรี (ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)) เ...
SPRC จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 พร้อมอนุมัติจ่ายเงินปันผล 0.15 บาทต่อหุ้น
—
บริษัท สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ SPRC จัดการประ...