ไทยพาณิชย์มองเงินหยวนดิจิทัลเป็นนวัตกรรมการเงินครั้งสำคัญที่สุด หลังจากเกิดไวรัส COVID-19 ชี้ข้อดีช่วยให้ผู้บริโภคมั่นใจข้อมูลการใช้จ่ายส่วนตัว เนื่องจากข้อมูลถูกจัดเก็บรวมกันที่ธนาคารกลาง ไม่กระจายอยู่ที่บริษัทเอกชน ระบุธนาคารพาณิชย์ของจีนต้องเตรียมรับมือหลังถูกลดทอนบทบาทการส่งต่อกลไกราคา พร้อมแนะธุรกิจไทยควรจับตาแนวโน้มระยะยาว ความคล่องตัวของเงินหยวนดิจิทัลจะผลักดันให้เงินหยวนมีความสากลมากขึ้น
นายมาณพ เสงี่ยมบุตร รองผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสายงาน China Business ธนาคารไทยพาณิชย์ กล่าวว่า การประกาศเริ่มใช้เงินหยวนดิจิทัลน่าจะเป็นนวัตกรรมทางการเงินที่สำคัญที่สุดหลังจากเหตุการณ์โรคระบาด โดยเงินหยวนดิจิทัลนี้ไม่ใช่สกุลใหม่หากแต่เป็นส่วนหนึ่งของเงินหยวนปกติ ทำให้เพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินนโยบายการเงิน ตลอดจนมีส่วนช่วยในการปราบปรามการทุจริต ในระยะยาวอาจเป็นตัวเสริมความเป็นสากลของเงินหยวน อีกทั้งเงินหยวนดิจิทัลมีคุณสมบัติและวัตถุประสงค์ที่ตรงกันข้ามกับ crypto currency โดยสิ้นเชิง และรัฐบาลจีนไม่ได้มีสัญญาณที่จะเปลี่ยนท่าทีมาส่งเสริมการใช้ crypto currency แต่อย่างใด เมื่อพิจารณาถึงผลต่อภาคธุรกิจ คาดว่าธนาคารพาณิชย์จีนน่าจะเป็นกลุ่มที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด เพราะดูเหมือนธนาคารกลางจีนออกแบบเงินดิจิทัลนี้ให้ลดทอนบทบาทธนาคารพาณิชย์ในการทำหน้าที่เป็นตัวส่งต่อกลไกราคา อีกทั้งความต้องการใช้บริการบางด้าน เช่น ธุรกิจ custodian และธุรกิจกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ อาจลดลง
ธนาคารกลางจีน หรือ หรือ People’s Bank of China (PBOC) ได้ศึกษาแนวทางการออกเงินหยวนดิจิทัลมาตั้งแต่ปี 2014 แล้ว การนำเงินหยวนดิจิทัลออกมาใช้ในช่วงเวลานี้ ส่วนหนึ่งเพื่อการป้องกันการติดโรคระบาดผ่านธนบัตร ถึงแม้ประเทศจีนเป็นสังคมไร้เงินสดเกือบทั้งหมด แต่เบื้องหลังของกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ทั้งหลาย ยังมีส่วนที่เป็นธนบัตรกระดาษอยู่ อาทิ การจัดเก็บธนบัตรที่ธนาคารพาณิชย์ ส่วนเงินหยวนดิจิทัลจะไม่มีขั้นตอนของธนบัตรกระดาษแต่อย่างใด ในระยะต่อไปเมื่อมีการใช้เงินหยวนดิจิทัลในวงกว้าง ธนาคารกลางจีน น่าจะสามารถดำเนินนโยบายทางการเงินได้แบบคล่องตัวและตรงจุดมากขึ้น เนื่องจากคุณสมบัติด้านการรวมศูนย์ที่ทำให้ติดตามสถานะของผู้ถือเงินได้ ซึ่งธนาคารกลางอาจกำหนดหรือปรับอัตราดอกเบี้ยในระดับที่ต่างกันสำหรับกลุ่มผู้ถือเงินแต่ละกลุ่มโดยตรง โดยไม่ต้องผ่านกลไกของธนาคารพาณิชย์ ทำให้ธนาคารกลางสามารถบริหารสภาพคล่องในแต่ละภาคเศรษฐกิจได้โดยตรงมากขึ้น นอกจากนี้ ประโยชน์อื่น ๆ ของเงินดิจิทัล ได้แก่ ต้นทุนการผลิตเงินที่ต่ำกว่า การป้องกันการคดโกงและการฟอกเงินที่มีประสิทธิภาพสูงกว่า หรือแม้กระทั่งการจ่ายเงินอุดหนุนในเหตุวิกฤติที่ทำได้แบบตรงตัวกว่า เป็นต้น
“เงินหยวนดิจิทัลมีความต่างจากกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ เนื่องจากเงินหยวนดิจิทัลจะถูกเก็บอยู่ในมือถือของประชาชนโดยตรง การใช้จ่ายทำผ่านระบบ NFC ก็คือเอาโทรศัพท์มือถือมาแตะกัน จึงให้ความเป็นส่วนตัวของข้อมูลสูงกว่าสำหรับประชาชนทั่วไป เพราะข้อมูลการใช้จ่ายจะถูกจัดเก็บรวมกันที่ธนาคารกลาง ไม่กระจายอยู่ที่บริษัทเอกชน และสิ่งที่ต้องจับตาหลังจากนี้ในภาคธุรกิจ คือ เมื่อมีการใช้เงินหยวนดิจิทัลในวงกว้าง ธุรกิจร้านค้าอาจถูกติดตามเรื่องการเสียภาษีได้ง่ายขึ้น”
ปัจจุบัน ธนาคารกลางจีน กำลังจะทดลองใช้เงินหยวนดิจิทัลที่มีชื่อทางการว่า Digital Currency/Electronic Payment (DCEP) โดยกำหนดทดลองใช้เงินหยวนดิจิทัลนี้ใน 4 เมือง ได้แก่ เซิ่นเจิ้น ซูโจว เฉิงตู และเขตเมืองใหม่สงอัน โดยในเมืองซูโจว ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม รัฐบาลจะจ่ายค่าเดินทางให้กับข้าราชการครึ่งหนึ่งเป็นเงินหยวนดิจิทัล ส่วนการทดลองใช้เงินหยวนดิจิทัลในเมืองสงอันนั้น จะเน้นทดลองใช้กับธุรกิจค้าปลีกและการจัดเลี้ยง เช่น ซุปเปอร์มาร์เก็ต และฟิตเนส เป็นต้น โดยมีบริษัทข้ามชาติใหญ่ ๆ เช่น Starbucks McDonald’s และ Subway เข้าร่วมโครงการทดลองในครั้งนี้ด้วย
ในมุมมองของไทยพาณิชย์ สิ่งที่ต้องจับตามองอย่างมาก คือ เมืองสงอัน ซึ่งอยู่ทางตอนใต้ของกรุงปักกิ่ง เพราะรัฐบาลจีนจะผลักดันให้เป็นเมืองอัจฉริยะแห่งอนาคต ในส่วนของกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ เช่น Apple Pay, AliPay และ WeChat นั้น รัฐบาลจีนก็ออกกฎชัดว่าต้องสามารถรองรับการใช้งานของเงินหยวนดิจิทัลได้ ซึ่งน่าจะเป็นตัวแปรสำคัญที่ทำให้การใช้แพร่หลายอย่างรวดเร็ว
นายมาณพ ยังกล่าวด้วยว่า แนวคิดของเงินหยวนดิจิทัลนั้นอยู่ตรงกันข้ามกับ cryptocurrency เช่น bitcoin หรือ stable coin เช่น Libra และโดยนัยยังเป็นการสกัดกั้น cryptocurrency เนื่องจากเงินหยวนดิจิทัลมีลักษณะ 3 ประการ
ธนาคารไทยพาณิชย์ สร้างความสำเร็จต่อเนื่องด้วยการครองตำแหน่ง "ธนาคารแห่งปี 2568" ตามการประกาศผลการจัดอันดับ ธนาคารแห่งปี 2568 Bank of the Year 2025 จากวารสารการเงินธนาคาร ฉบับเดือนเมษายน 2568 โดยใช้ผลประกอบการของธนาคารพาณิชย์ 12 แห่ง ในรอบปี 2567 มาประกอบการพิจารณา ความสำเร็จในครั้งนี้ นับเป็นปีที่ 3 ติดต่อกัน (2566-2568) และเป็นครั้งที่ 17 ของการได้รับรางวัลธนาคารแห่งปี ด้วยผลการดำเนินงานในปี 2567 ที่แข็งแกร่ง ภายใต้การนำทีมบริหารของ นายกฤษณ์ จันทโนทก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารไทยพาณิชย์
ไทยพาณิชย์ย้ำความสำเร็จนำเทคโนโลยีตอบโจทย์ลูกค้าธุรกิจ การันตี 5 รางวัลยอดเยี่ยมด้านการบริหารเงินสดเพื่อธุรกิจจาก 4 สถาบันโลก
—
ธนาคารไทยพาณิชย์ นำโดย นาย...
SCB WEALTH เปิดขาย IPO กองทุน SCBGMCORE วันที่ 2-9 เมษายนนี้ เน้นโอกาสสร้างผลตอบแทนทุกสภาวะตลาดตอบโจทย์ให้เงินทำงานอย่างแท้จริง
—
หลังจากที่ SCB WEALTH ร่...
ไทยพาณิชย์ออกมาตรการเร่งด่วนดูแลลูกค้าผู้ประสบภัยแผ่นดินไหว
—
ธนาคารไทยพาณิชย์ออกมาตรการเร่งด่วนช่วยลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว ทั้งมาตรก...
ไทยพาณิชย์จัดงาน "Supply Chain Futureprenuer" ปูทาง AI ลดการปล่อยคาร์บอนให้ซัพพลายเชนสู่ธุรกิจยั่งยืน
—
ธนาคารไทยพาณิชย์ จัดงาน "Supply Chain Futureprenue...
SCB FM มอง Fed ลดดอกเบี้ยกลางปีจากเศรษฐกิจที่ชะลอ ทำให้เงินบาทจะทยอยแข็งค่าได้ แต่ Tariffs อาจดันเงินเฟ้อและกดดันบาทอ่อนระยะสั้น
—
กลุ่มงานตลาดการเงิน ธนา...
SCB จับมือ GLN International ส่งบริการใหม่เอาใจนักท่องเที่ยวเกาหลีใต้ กดเงินไม่ใช้บัตรผ่านแอป GLN ที่ตู้ ATM/CDM ของ SCB ทั่วประเทศ ได้แล้ววันนี้!
—
อุตสาหกรรมก...
ไทยพาณิชย์ผนึกพันธมิตรแนะผู้ประกอบการสู้เมกะเทรนด์โลก เร่งโตด้วย "นวัตกรรมดิจิทัล" และ "ความยั่งยืน"
—
เมกะเทรนด์โลกที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล โดยเ...
SCB จับมือ TSD และ SCC นำบริการ e-Dividend คว้า 3 รางวัลสากล ยกระดับธุรกรรมการเงินดิจิทัล มุ่งสร้างผลตอบแทนยั่งยืน
—
ธนาคารไทยพาณิชย์ นำทีม บริษัท ศูนย์รั...