“เพราะการดูแลร้านก็เหมือนการดูแลครอบครัวใหญ่ และผมทิ้งใครไว้ข้างหลังไม่ได้” คุยกับเจ้าของร้านรสมือแม่กับวิถีการต่อสู้ในสมรภูมิโควิด-19

นับตั้งแต่สิ้นสุดเสียงเคาท์ดาวน์และปฏิทินถูกเปลี่ยนเข้าสู่ปีใหม่ สิ่งที่ตามมาพร้อมกันในปีนี้ คือการแพร่ระบาดของโรคโควิด-เคาท์ดาวน์9 ที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและส่งผลกระทบต่อผู้คนทั่วโลก มาตราการต่าง ๆ ถูกประกาศออกมาเพื่อควบคุมสถานการณ์ หลายบริษัทมีนโยบายให้พนักงานทำงานจากที่บ้าน (Work From Home) เพื่อความปลอดภัย

“เพราะการดูแลร้านก็เหมือนการดูแลครอบครัวใหญ่ และผมทิ้งใครไว้ข้างหลังไม่ได้” คุยกับเจ้าของร้านรสมือแม่กับวิถีการต่อสู้ในสมรภูมิโควิด-19

แม้สถานการณ์จะคลี่คลายลงแต่ก็ไม่อาจคาดเดาได้ว่าจะจบลงเมื่อใด หลาย ๆ คนที่สวมบทบาทเจ้าของธุรกิจย่อมเผชิญกับความกดดันทั้งในแง่ของการนำพาธุรกิจให้ยังคงดำเนินต่อไปได้ รวมถึงการดูแลพนักงาน หรือลูกน้องที่ทำงานร่วมกัน หากถามว่าการจะบริหารธุรกิจให้อยู่รอดท่ามกลางเหตุการณ์ไม่ปกติเช่นนี้ ต้องมีวิธีคิดอย่างไร วันนี้เรามาลองฟังอีกหนึ่งมุมมองจากเจ้าของธุรกิจร้านอาหารที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมานานกว่า 15 ปี อย่าง “พี่เอ็ด” เจ้าของ “ร้านรสมือแม่” คนนี้กัน “เพราะการดูแลร้านก็เหมือนการดูแลครอบครัวใหญ่ และผมทิ้งใครไว้ข้างหลังไม่ได้” คุยกับเจ้าของร้านรสมือแม่กับวิถีการต่อสู้ในสมรภูมิโควิด-19

จากสัตวแพทย์สู่วิถีพ่อครัว “เพราะการดูแลร้านก็เหมือนการดูแลครอบครัวใหญ่ และผมทิ้งใครไว้ข้างหลังไม่ได้” คุยกับเจ้าของร้านรสมือแม่กับวิถีการต่อสู้ในสมรภูมิโควิด-19

“พี่เอ็ด” นายภัคพงศ์ พึ่งกัน ชายหนุ่มวัย 49 ปี อดีตสัตวแพทย์ที่เลือกฟังเสียงหัวใจตัวเอง ผู้กล้าตัดสินใจทำในสิ่งที่ชอบอย่างจริงจังและสานต่อความฝันในวัยเด็กด้วยการเปิดธุรกิจร้านอาหารให้คุณแม่ หากใครที่อยู่แถวประชาชื่นคงคุ้นเคยกันดีกับ “ร้านรสมือแม่” ร้านอาหารเหนือแท้ ๆ ที่มีความพิถีพิถันใส่ใจในรสชาติ ความสะอาดของอาหาร รวมถึงคงคุณภาพให้มีความอร่อยแบบเสมอต้นเสมอปลาย นี่คือเคล็ดลับที่ทำให้ร้านเปิดมานานถึง 15 ปี และมีฐานลูกค้าที่เหนียวแน่น “เพราะการดูแลร้านก็เหมือนการดูแลครอบครัวใหญ่ และผมทิ้งใครไว้ข้างหลังไม่ได้” คุยกับเจ้าของร้านรสมือแม่กับวิถีการต่อสู้ในสมรภูมิโควิด-19

“ผมย้ายมาอยู่กรุงเทพฯตั้งแต่เด็ก ๆ ทำให้ต้องห่างกับคุณแม่ พอโตมาเลยเก็บเงินซื้อบ้านเพื่อพาเขามาอยู่ด้วยกันเป็นครอบครัว ด้วยความที่คุณแม่ชอบทำอาหารอยู่แล้วและเราก็ไม่อยากให้เขาเหงา เลยมีความคิดที่จะเปิดร้านอาหารให้เป็นธุรกิจครอบครัวเพราะผมก็เริ่มอิ่มตัวกับงานสัตวแพทย์แล้วเช่นกัน โดยในช่วงแรกได้เน้นขายอาหารเหนือที่คุณแม่ถนัดแล้วจึงขยายไลน์เพิ่มเป็นอาหารตามสั่ง เพื่อเจาะกลุ่มพนักงานออฟฟิศ และอาหารฝรั่งอย่าง สเต็ก เนื้อย่าง แฮมเบอร์เกอร์ตามความชอบส่วนตัวของผมเอง และเพื่อให้ลูกค้ามีทางเลือกที่หลากหลายเพิ่มขึ้น”

“ก่อนที่จะตัดสินใจเปิดร้านผมศึกษาข้อมูลเยอะมาก ทั้งขอคำแนะนำจากญาติพี่น้อง เพื่อนฝูง รวมถึงไปสำรวจตลาดด้วยตัวเอง ด้วยความที่ไม่เคยมีประสบการณ์มาก่อนทำให้ช่วงแรกเกิดความตะกุกตะกักบ้าง แต่ก็ค่อยๆปรับเปลี่ยนจนอยู่ตัวอย่างในปัจจุบัน ในฐานะเจ้าของธุรกิจผมคิดว่าเราจะรู้ได้เองว่าสิ่งไหนที่ทำแล้วเวิร์คหรือไม่เวิร์คในธุรกิจของเรา”

ถ้าไม่เคยเจอปัญหา เราก็ไม่สามารถเติบโตได้

ปัจจุบัน “ร้านรสมือแม่” จัดเป็นต้นแบบร้านอาหารที่ประสบความสำเร็จในแง่ของชื่อเสียงและรสชาติอาหาร แต่ในการทำงานทุกอย่างย่อมมีอุปสรรคเข้ามาทดสอบเราอยู่เสมอ

“ย้อนกลับไปตอนปี 2554 ที่เกิดน้ำท่วมใหญ่ในกรุงเทพฯ ร้านจำเป็นต้องปิดทำให้ขาดรายได้เป็นจำนวนมาก แต่เมื่อเทียบกับวิกฤติโควิด-19 ในตอนนี้แล้วถือว่ามีความรุนแรงมากกว่าหลายเท่าตัว เพราะเป็นสถานการณ์ที่เปลี่ยนพฤติกรรมของคนไปอย่างสิ้นเชิง แม้ว่าตอนนี้จะมีการประกาศอนุญาตให้ร้านอาหารเปิดให้บริการได้ตามปกติ แต่ร้านก็รองรับลูกค้าได้จำกัดบวกกับคนส่วนใหญ่ก็จะลดการนั่งทานอาหารนอกบ้านลง แล้วสั่งกลับบ้านมากขึ้น จุดนี้ทำให้รายได้จากลูกค้าที่เคยมาเป็นกลุ่มใหญ่ อย่างพนักงานออฟฟิศหรือครอบครัวก็จะน้อยลง ” พี่เอ็ด เล่าต่อว่า “เพราะเป็นธุรกิจของครอบครัวผมจึงยอมแพ้ไม่ได้ และเราไม่ได้ตัวคนเดียวแต่ต้องดูแลพนักงานในร้านทุกคนที่ไม่ต่างกับแขนซ้ายแขนขวาให้มีรายได้มีงานเลี้ยงตัวเองต่อไปให้ได้ เพราะสำหรับผมแล้วการดูแลร้านก็เหมือนกับการดูแลครอบครัวขนาดใหญ่ การเปิดร้านทุกวันนี้ก็เพื่อให้พนักงานทุกคนมีรายได้ไปจุนเจือครอบครัวโดยไม่เดือดร้อน ตั้งแต่ช่วงที่การแพร่ระบาดของโควิด-19 เริ่มรุนแรงขึ้น ผมจึงต้องทำทุกวิถีทางเพื่อให้ร้านอยู่รอด ทั้งการเตรียมความพร้อมของเรื่องฟู้ดเดลิเวอรี่เพื่อรองรับการสั่งซื้อออนไลน์เพิ่มขึ้นโชคดีที่ทางร้านได้สมัครเข้าร่วมเป็นพาร์ทเนอร์ร้านอาหารของแกร็บฟู้ดทำให้ร้านยังคงมีรายได้เข้ามาอยู่ถึงแม้ว่าตอนนี้ร้านจะรองรับลูกค้าได้น้อยลง เพราะต้องจัดสรรพื้นที่   โดยให้มีการเว้นระยะห่างเพื่อความปลอดภัยในการรับประทานอาหารก็ตาม”

แพลตฟอร์มฟู้ดเดลิเวอรี่และสภาพคล่องเงินสด ตัวช่วยชีวิตร้านอาหารยุคนี้

ช่วงก่อนหน้านี้ที่มีมาตรการที่ประกาศให้ร้านอาหารขายได้เฉพาะการสั่งซื้อกลับบ้านเท่านั้น ทำให้จำนวนลูกค้าของร้านพี่เอ็ดลดลงไปกว่า 70%

“ผมมองว่าตอนนี้ทุกร้านได้รับผลกระทบกันหมด เพราะถึงแม้จะเปิดให้บริการได้แล้วแต่ลูกค้าก็หายไปเยอะ รายได้ก็ลดลงแต่รายจ่ายมีเท่าเดิม ของผมโชคดีตรงที่ตัดสินใจเข้าร่วมกับแกร็บฟู้ดตั้งแต่ปลายเดือนมกราคมที่ผ่านมา ทำให้ยังมีรายได้เข้ามาหาร้านอยู่ พอเข้าร่วมเป็นพาร์ทเนอร์แกร็บเขาก็ส่งคนมาสอนการใช้งานระบบหลังบ้าน ช่วยคิดเรื่องโปรโมชั่นบนแอปซึ่งได้ผลตอบรับจากลูกค้าดีมาก จากเดิมก่อนโควิดระบาดหนัก รายได้จากแกร็บฟู้ดคือส่วนที่บวกเพิ่มขึ้น (Add-on) ซึ่งถือเป็น 1 ใน 3 ของรายได้ทั้งหมด แต่พอโควิดระบาดหนักขึ้น รายได้ที่เข้ามาทางแกร็บฟู้ดตอนนี้ถือเป็นครึ่งหนึ่งของรายได้ทั้งหมด”

พี่เอ็ด เล่าเพิ่มเติมว่า “ทุกวันนี้ผมมองว่าคนทำร้านอาหารจะรอดได้นอกจากความใส่ใจเรื่องอาหารให้ อร่อย สะอาด สะดวกแล้ว ควรต้องมีการใช้ฟู้ดเดลิเวอรี่เข้ามาช่วยด้วยเพื่อขยายฐานลูกค้าให้กว้างขึ้น สำหรับผมจากที่เคยมองว่าแกร็บฟู้ดเป็นแค่ทางเลือกเสริม ตอนนี้กลับกลายเป็นตัวช่วยชีวิตให้ร้านยังคงอยู่รอดได้ในสถานการณ์แบบนี้ อีกเรื่องที่สำคัญมากสำหรับธุรกิจขนาดเล็กในช่วงเวลาแบบนี้ สภาพคล่องเงินสด ซึ่งระบบการจ่ายเงินของแกร็บที่ตัดยอดโอนแบบวันต่อวันมีส่วนช่วยมากเพราะทำให้ร้านได้ยอดขายในวันรุ่งขึ้นและนำไปใช้บริหารร้านต่อไปได้”

ความรับผิดชอบของหัวหน้าครอบครัวใหญ่ ธุรกิจจะอยู่ได้ พนักงานต้องมีความสุข พนักงานของร้านรสมือแม่ทุกคนจะพักอาศัยอยู่กับทางร้านเลย โดยมีพี่เอ็ดเป็นเหมือนหัวหน้าครอบครัวที่คอยดูแลความเป็นอยู่ของทุกคน การที่ร้านยังดำเนินธุรกิจอยู่ได้ทำให้พนักงานเหล่านี้ยังคงมีรายได้ไปเลี้ยงดูครอบครัว

“การมีพนักงานที่ดีคือสิ่งสำคัญของการทำธุรกิจทุกอย่าง การทำร้านอาหารถ้าไม่มีพนักงานคอยช่วยเหลือก็ไม่สามารถทำทุกอย่างให้ออกมาได้ดีเพราะมันมีรายละเอียดเยอะมาก ตอนที่โควิดเริ่มส่งผลกระทบกับรายได้ของร้านผมเรียกทุกคนมาคุยกันและบอกว่าให้อยู่สู้ไปด้วยกันก่อนให้ผ่านช่วงเวลานี้ไปด้วยกัน เพราะถ้าผมจะเดินหน้าต่อทุกคนก็ต้องเดินไปพร้อมๆกัน สำหรับผมพนักงานก็คือครอบครัวที่ผมไม่สามารถทิ้งใครไว้ข้างหลังได้แม้แต่คนเดียว”

“สำหรับผมมองว่าในสถานการณ์ตอนนี้ สิ่งที่อยากบอกกับคนที่เป็นเจ้าของธุรกิจคือ ให้ประเมินศักยภาพของตัวเองและทรัพยากรที่มีอยู่ก่อน ถ้าใครยังสู้ไหวก็ขอให้สู้ต่อไปแต่ถ้ารู้ว่าสู้ไม่ไหวก็ถอยมาตั้งหลักก่อน การถอยไม่ใช่การยอมแพ้ แต่คือการเตรียมความพร้อมเพื่อให้กลับไปสู้ใหม่ได้อย่างเข้มแข็งกว่าเดิม” พี่เอ็ดกล่าวทิ้งท้าย


ข่าวความปลอดภัย+เคาท์ดาวน์วันนี้

สุขภาพดีไปกับ นมซันคิสท์ พร้อมโปรสุดพิเศษ ลดเหลือเพียงลังละ 529 บาท

ซันคิสท์ ผลิตภัณฑ์ถั่วพิสทาชิโอ ถั่วพรีเมียมคุณภาพหลากหลายชนิด และเครื่องดื่มน้ำนมพิสทาชิโอ จัดโปรโมชั่นสุดพิเศษสำหรับคนรักสุขภาพ กับ นมซันคิสท์ขนาด 180 ml แพ็ค 24 กล่อง (1ลัง) ในราคาพิเศษเพียง 529 บาท จากปกติราคาเต็ม 590 บาท ที่ Go Wholesale ทุกสาขา ตั้งแต่วันนี้ 22 เมษายน 2568 นมพิสทาชิโอ แบรนด์ซันคิสท์ ผ่านกระบวนการผลิตอย่างพิถีพิถัน จึงมั่นใจได้ในเรื่องของคุณภาพและความปลอดภัย ให้เลือกทั้งหมด 5 รสชาติ ได้แก่ สูตรไม่เติมน้ำตาล รสออริจินอล รสช็อกโกแลต รสชาไทย และ นมพิสทาชิโอผสมเนื้อกล้วยบด

บริษัท มิลเลนเนียม กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น (เอ... MGC-ASIA ดำเนินมาตรการเชิงรุก ตรวจสอบความปลอดภัย อาคารในเครือทั่วประเทศ หลังเกิดเหตุแผ่นดินไหว — บริษัท มิลเลนเนียม กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น (เอเชีย) จำกัด (มหา...

แสนสิริเตรียมโอน เดอะ เบส 2 โครงการใหม่ใน... แสนสิริเตรียมโอน เดอะ เบส 2 โครงการใหม่ในภูเก็ต "เดอะ เบส ไรส์" - "เดอะ เบส บูกิต" — แสนสิริเตรียมโอน เดอะ เบส 2 โครงการใหม่ในภูเก็ต "เดอะ เบส ไรส์" "เดอะ...

ดร.วรัท พฤกษาทวีกุล รองปลัดกระทรวงศึกษาธิ... สลช.เร่งทำหลักสูตรการเอาตัวรอดจาก "อุบัติเหตุ-อุบัติภัย" ให้เด็กและเยาวชนได้เรียนรู้ — ดร.วรัท พฤกษาทวีกุล รองปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ทำหน้าที่เลขาธิก...

เมื่อโลกเต็มไปด้วยทางเลือกและข้อมูลมากมาย... ส่อง 5 เทรนด์สินค้าเด็กปี 2025 นวัตกรรมใหม่ที่พ่อแม่ยุคนี้ต้องรู้ก่อนใคร — เมื่อโลกเต็มไปด้วยทางเลือกและข้อมูลมากมาย มาตรฐานใหม่ในการเลือกสิ่งที่ดีที่สุดใ...

ทัช พร็อพเพอร์ตี้ บริษัทในเครือ พลัส พร็อ... ทัช พร็อพเพอร์ตี้ แนะ 7 แนวทาง อาคารรับมือช่วงมรสุมหลังแผ่นดินไหว จุดไหนต้องเฝ้าระวังเพิ่ม — ทัช พร็อพเพอร์ตี้ บริษัทในเครือ พลัส พร็อพเพอร์ตี้ ผู้เชี่ยวช...