ผนึกกำลังทุกภาคส่วนร่วมถอดบทเรียนการแก้ไขปัญหาหมอกควันภาคเหนือ ปี 2563 กับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ตรวจเยี่ยมและให้แนวทางการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควันปี ปัญหาไฟป่าและหมอกควัน564 ในงานการประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อสรุปผลและถอดบทเรียน (After Action Review : AAR)         การป้องกันและแก้ไขปัญหาหมอกควันภาคเหนือ ปี ปัญหาไฟป่าและหมอกควัน563  โอกาสนี้นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมด้วยผู้บริหารระดับสูงในสังกัดกระทรวงฯ ผู้แทนหน่วยงานภาครัฐ  และผู้แทนหน่วยงานใน ๙ จังหวัดภาคเหนือ ที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมรับฟังแนวทางการดำเนินงาน ณ  หอประชุมเฉลิมพระเกียรติ 8กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พรรษา องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่    

ผนึกกำลังทุกภาคส่วนร่วมถอดบทเรียนการแก้ไขปัญหาหมอกควันภาคเหนือ ปี 2563 กับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

โดยโอกาสนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า การป้องกันและแก้ไขปัญหาหมอกควันภาคเหนือ แต่ละจังหวัดมีข้อจำกัดที่แตกต่างกัน ซึ่งต้องมาพูดคุยกัน การมีส่วนร่วมของพี่น้องประชาชนมีความสำคัญมาก ในปีที่ผ่านมาต้องขอขอบคุณที่ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี ทั้งกองทัพภาคที่ 3 และฝ่ายปกครอง ทั้งนี้ แต่ละปีมีปัญหาแตกต่างกันไป ข้อจำกัดเงื่อนไขต่างๆต้องเอามาเป็นบทเรียน การถอดบทเรียนเป็นเวทีที่เปิดให้ทุกภาคส่วนมาคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน ผิดถูกไม่มีใครว่า ไฟป่าไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น ทุกคนมีเป้าหมายเดียวกัน บางครั้งบางกลุ่มมีเป้าหมายแตกต่างไป แต่ ทส.มีเป้าหมายฝุ่นละอองลดลงทุกจังหวัด ไม่ใช่จังหวัดใดจังหวัดหนึ่ง ท่านนายกรัฐมนตรี รองนายกรัฐมนตรี ให้ความสำคัญในเรื่องไฟป่าเป็นลำดับต้นๆ ปัจจุบันมีปัญหาเรื่องโควิด-19 แต่ปัญหาไฟป่า ท่านให้ความสำคัญไม่แพ้กัน และกำชับให้ รมว.ทส. ปกท.ทส. และเจ้าหน้าที่ ทส. ทำงานอย่างเต็มที่ สุดท้ายนี้ขอให้กำลังใจทุกภาคส่วน ในการทำงานร่วมกันให้เกิดความสำเร็จ     ผนึกกำลังทุกภาคส่วนร่วมถอดบทเรียนการแก้ไขปัญหาหมอกควันภาคเหนือ ปี 2563 กับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

การประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อสรุปผลและถอดบทเรียน (After Action Review : AAR) การป้องกันและแก้ไขปัญหาหมอกควันภาคเหนือ ปี 2563 ในครั้งนี้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 19 – 21 พฤษภาคม 2563 ณ หอประชุมเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อระดมความคิดเห็น ข้อเสนอแนะ และร่วมถอดบทเรียนผลการดำเนินงาน ปัญหา อุปสรรค และแนวทางการแก้ไขปัญหาจากภาคเอกชน ประชาชน จิตอาสา NGOs          และนักวิชาการ ในทุกด้านทุกมุมมอง เพื่อนำมาสรุปและกำหนดแนวทางการแก้ไขปัญหาหมอกควันภาคเหนือ ที่เหมาะสมและยั่งยืนต่อไป

ทั้งนี้ ในการประชุมวันนี้ เป็นการประชุมต่อเนี่องเป็นวันที่ 2 โดยมีการประชุมกลุ่มย่อย ที่ 3 ในส่วนของหน่วยงานภาครัฐ จากนั้น นายพงศ์บุณย์ ปองทอง รองปลัดกระทรวงทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

ในฐานะหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควัน (ส่วนหน้า) ได้สรุปผลการประชุมกลุ่มย่อย ทั้ง 3 กลุ่มมีสรุปสาระสำคัญ ดังนี้

  1. กลุ่มย่อยที่ 1 ในส่วนของเจ้าหน้าที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้มีการหารือถึงสาเหตุของปัญหา ปัญหาอุปสรรค และข้อเสนอแนะการทำงาน โดยเฉพาะประเด็นหลัก ดังนี้
    1. การถ่ายโอนภารกิจการควบคุมไฟป่าให้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ที่ยังไม่เกิดผลในทางปฏิบัติ ซึ่งที่ประชุมเห็นพ้องให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หารือกับกระทรวงมหาดไทย และคณะกรรมการกระจายอำนาจ เพื่อหาแนวทางให้การถ่ายโอนภารกิจ มีผลบังคับใช้และเกิดผลในทางปฏิบัติ
    2. การจัดการเชื้อเพลิง ที่ไม่สามารถดำเนินการได้ทันตามช่วงเวลาและยังไม่มีประสิทธิภาพ ซึ่งที่ประชุมเห็นควรให้เร่งจัดการเชื้อเพลิงก่อนเข้าช่วงสถานการณ์หมอกควัน โดยไม่นำเอาจุดความร้อน (Hotspot) มาเป็นตัวชี้วัด ทั้งนี้ เมื่อเข้าช่วงหมอกควัน ให้จัดระเบียบการเผา ดำเนินการเผาแบบควบคุม โดยไม่ให้ฝุ่นละอองสูงจนเกินเกณฑ์มาตรฐาน และให้จังหวัดพิจารณาการใช้มาตรการขอความร่วมมือให้ประชาชนจัดการเชื้อเพลิงภายใต้การควบคุม ตามที่ภาครัฐกำหนด โดยไม่ต้องกำหนดช่วงห้ามเผา
    3. เพื่อความถูกต้องในการวิเคราะห์ข้อมูล ให้ อส. และ ปม. จัดส่งขอบเขตพื้นที่เกษตรกรรมในป่า ให้ GISTDA ในการประมวลผลข้อมูลพื้นที่ที่เกิดจุดความร้อน ซึ่งจะช่วยให้การกำหนดแผนงานในการบริหารจัดการมีความถูกต้องและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
  2. กลุ่มย่อยที่ 2 ในส่วนของภาคประชาชน เห็นพ้องให้มุ่งเน้นการมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วน อีกทั้งให้มีการบูรณาการการดำเนินงานให้เชื่อมโยงกันทุกระบบ ตลอดจนให้มีการบริหารจัดการเชิงพื้นที่เป็นหลัก
  3. กลุ่มย่อยที่ 3 ในส่วนของหน่วยงานภาครัฐ โดยทุกหน่วยงานต้องมีการคุมเข้มและบังคับใช้กฎหมายในความรับผิดชอบอย่างจริงจัง และใช้กลไกระดับหมู่บ้าน ตำบล โดยเฉพาะประชาคมหมู่บ้าน ให้ความรู้ความเข้าใจกับประชาชน เพื่อร่วมเฝ้าระวังและจัดชุดดับไฟขั้นต้น ซึ่งหน่วยงานภาครัฐจะสนับสนุนกระบวนการการมีส่วนร่วมของชุมชนรักษาป่าในทุกพื้นที่อย่างเข้มแข็งต่อเนื่องกันไปอย่างยั่งยืน

ข่าวกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม+การประชุมเชิงปฏิบัติการวันนี้

อ.อ.ป. รับเกียรติบัตร "องค์กรพัฒนาคุณธรรม ประจำปี 2567"

นายประสิทธิ์ เกิดโต รักษาการแทนผู้อำนวยการองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ (รษก.ผอ.อ.อ.ป.) เป็นผู้แทนปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ปกท.ทส.) ในฐานะประธานอนุกรรมการส่งเสริมคุณธรรม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) มอบเกียรติบัตรยกย่องเชิดชูเกียรติให้กับ "องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ หรือ อ.อ.ป." หน่วยงานในสังกัด ทส. ที่มี "ผลการประเมินคุณธรรม ประจำปี 2567" ระดับ "องค์กรพัฒนาคุณธรรม" ตามโครงการส่งเสริมชุมชน องค์กร อำเภอ และจังหวัดคุณธรรม โดยมี นายถนอมศักดิ์ เฉียบแหลม รองผู้อำนวยการ

บริษัท เจียไต๋ จำกัด ผู้นำธุรกิจนวัตกรรมก... เจียไต๋คว้ารางวัลสำนักงานสีเขียวระดับดีเยี่ยม มุ่งเป้าขับเคลื่อนธุรกิจอย่างยั่งยืน — บริษัท เจียไต๋ จำกัด ผู้นำธุรกิจนวัตกรรมการเกษตรของไทย โดยนายเกียรติศ...

ประภัสรา นิมมานเทวินทร์ ผู้จัดการทั่วไป บ... MSM รับตราสัญลักษณ์ G-Green — ประภัสรา นิมมานเทวินทร์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เมืองทอง เซอร์วิสเซส แอนด์ แมเน็จเม้นท์ จำกัด หรือ MSM เครือบางกอกแลนด์ ...