NOSTRA LOGISTICS จับมือ PINPOINT ฝ่าวิกฤติโควิด-19 ขอร่วมภารกิจจิตอาสา 'เป็ดไทยส่งยา' ช่วยเหลือผู้ป่วย Home Isolation

นอสตร้า โลจิสติกส์ ผู้พัฒนาโซลูชันและแพลทฟอร์มด้านการบริหารจัดการงานขนส่งสำหรับรถบรรทุกและงานขนส่งโลจิสติกส์แบบเดลิเวอรี่ผ่านแอปพลิเคชัน NOSTRA LOGISTICS ePOD ระบบติดตามการขนส่งและโลจิสติกส์อัจฉริยะบนมือถือ จับมือบริษัทสตาร์ทอัพ Pinpoint ผู้ให้บริการข้อมูลตำแหน่งที่ตั้งในประเทศไทยที่มีความแม่นยำของข้อมูลที่อยู่บ้านเลขที่มากที่สุด ร่วมโครงการจิตอาสากับทีม 'เป็ดไทยส่งยา' เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการสู้ภัยโควิด-โลจิสติกส์9 โดยทำภารกิจจัดส่งยาฟาวิพิราเวียร์ (Favipiravir) สำหรับผู้ป่วยกลุ่มสีเหลืองที่รักษาตัวที่บ้าน หรือ Home Isolation และผู้ป่วยที่กำลังรอเตียง ผนึกศักยภาพของทั้งสองบริษัทด้านข้อมูลตำแหน่งที่ตั้งและการขนส่ง ผ่านเทคโนโลยี Route Planning and Optimization จัดวางแผนเส้นทาง เพื่อบรรลุภารกิจ หวังเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยให้ประเทศก้าวผ่านพ้นมหาวิกฤติครั้งนี้ไปด้วยกัน

NOSTRA LOGISTICS จับมือ PINPOINT ฝ่าวิกฤติโควิด-19 ขอร่วมภารกิจจิตอาสา 'เป็ดไทยส่งยา' ช่วยเหลือผู้ป่วย Home Isolation

นางวรินทร สีสุขดี ผู้อำนวยการส่วนผลิตภัณฑ์เชิงพาณิชย์ บริษัท จีไอเอส จำกัด เปิดเผยว่า โครงการ 'เป็ดไทยส่งยา' เป็นความร่วมมือของกลุ่มบริษัทสตาร์อัพที่มีความเชี่ยวชาญหลากหลายสาขา รวมทั้งทางด้านขนส่งและพิกัดข้อมูลที่อยู่ในประเทศไทย ประสานศักยภาพร่วมกันระหว่างทีมจิตอาสา และหน่วยงานภาครัฐ เพื่อภารกิจช่วยเหลือในการส่งยาและเวชภัณฑ์ให้ผู้ป่วยโควิด-19 กลุ่มอาการสีเหลือง และกลุ่มผู้ป่วยที่รักษาตัวที่บ้านในรูปแบบ Home Isolation หรือกลุ่มผู้ป่วยที่รอเตียงรักษา ในส่วนของ NOSTRA LOGISTICS ได้เข้าร่วมวางแผน จัดเส้นทางการส่งยา กระจายงานให้ทีมผู้ทำหน้าที่จัดส่งยาให้ไรเดอร์ (Rider) และจิตอาสาอย่างเหมาะสม มีการติดตาม และยืนยันการส่งยาฟาวิพิราเวียร์ (Favipiravir) ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยอย่างระบบ Route Planning and Optimization เพื่อคำนวณการขนส่งยาและเวชภัณฑ์ในแต่ละครั้งให้ได้มีประสิทธิภาพสูงสุดอีกด้วย NOSTRA LOGISTICS จับมือ PINPOINT ฝ่าวิกฤติโควิด-19 ขอร่วมภารกิจจิตอาสา 'เป็ดไทยส่งยา' ช่วยเหลือผู้ป่วย Home Isolation

นางสาววริยาภรณ์ อิทธิพัชรพงศ์ กรรมการผู้จัดการและผู้บริหารฝ่ายการตลาด บริษัท บียอนด์ ซี จำกัด หรือ Pinpoint เปิดเผยว่า Pinpoint มีพันธกิจในการพัฒนา 'การเชื่อมโยง' ของทุกพื้นที่ในประเทศ จึงได้พัฒนาแผนที่ให้แม่นยำ ลึกถึงระดับบ้านเลขที่ ครอบคลุมทั่วทุกพื้นที่ในประเทศ ทุกจังหวัด เพื่อเชื่อมต่อทุกพื้นที่ให้เข้าถึงกัน เล็งเห็นว่าเทคโนโลยีของบริษัทฯ สามารถต่อยอดไปประยุกต์ใช้ช่วยเหลือคนไทยในสถานการณ์วิกฤติโควิด-19 นี้ได้ จึงได้เข้าร่วมโครงการจิตอาสากับทีมเป็ดไทยส่งยา ผนึกกำลังกับ NOSTRA LOGISTICS ด้วยการเป็นผู้ให้บริการข้อมูลตำแหน่งที่ตั้ง ซึ่งเพียงแค่มีข้อมูลตั้งต้นเป็น 'ที่อยู่บ้านเลขที่' ก็สามารถแปลงข้อมูลที่อยู่เป็นพิกัด GPS ได้อย่างแม่นยำ แม้ในปัจจุบันพื้นที่ผังเมืองของประเทศจะมีความซับซ้อนอยู่มากก็ตาม

สำหรับโครงการจิตอาสา 'เป็ดไทยส่งยา' เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ 'เป็ดไทยสู้ภัย' เป็นการร่วมกลุ่มของสตาร์ทอัพจิตอาสาในประเทศไทยที่นำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาช่วยเหลือในด้านต่าง ๆ ที่แต่ละบริษัทมีความเชี่ยวชาญเข้าไปช่วยเหลือสนับสนุนงานโรงพยาบาลสนามต้นแบบและบุคลากรทางการแพทย์ เพื่อแบ่งเบาภาระงานและช่วยลดความเสี่ยงการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 โดย NOSTRA LOGISTICS และPinpoint ได้ร่วมโครงการเป็ดไทยส่งยา เริ่มภารกิจตั้งแต่วันที่ 25 กรกฎาคม 2564 ที่ผ่านมา หลังจากที่มีการแบ่งผู้ป่วยโควิด-19 ออกเป็น 3 ระดับสี มีจำนวนผู้ป่วยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในแต่ละวัน และพบสถิติความต้องการความช่วยเหลือในผู้ป่วยกลุ่มสีเหลืองที่รักษาตัวที่บ้านในรูปแบบ Home Isolation และผู้ป่วยที่รอเตียงรักษาสะสมเป็นจำนวนมาก ซึ่งอาจทำให้อาการหนักขึ้นหากไม่ได้รับยาอย่างทันท่วงที ทางทีมงานจิตอาสาเห็นว่าหากสามารถส่งต่อยาไปถึงบ้านผู้ป่วยได้อย่างรวดเร็วจะช่วยแก้วิกฤติเตียงขาดและลดจำนวนผู้ป่วยอาการหนัก รวมทั้งลดจำนวนผู้เสียชีวิตลงได้เป็นจำนวนมากอีกทางหนึ่ง จึงเกิดเป็นภารกิจที่เกี่ยวข้องนี้

ทั้งนี้ NOSTRA LOGISTICS และ Pinpoint นำศักยภาพความเชี่ยวชาญและเทคโนโลยีเข้าไปช่วยเหลือใน ภารกิจ "เป็ดไทยส่งยา"ในส่วนของบริหารจัดการการขนส่งยา มีขั้นตอนการทำงานเริ่มต้นโดย Pinpoint นำทีมอาสาสมัครเข้าตรวจสอบและจัดรูปแบบข้อมูลที่อยู่เลขที่บ้านของผู้ป่วยที่ต้องการยา (Clean data) หลังจากรับข้อมูลจาก Call center จากการจัดตั้งทีมอาสากลุ่มแรกมีหน้าที่ตรวจสอบและจัดรูปแบบข้อมูลที่อยู่ที่อาจมีความคลาดเคลื่อนตกหล่น ที่อาจส่งผลต่อการค้นหาพิกัดบ้านของผู้ป่วยทำให้จัดส่งยาล่าช้าและผิดพลาด เพื่อส่งต่อข้อมูลให้ทำการค้นหาพิกัดของผู้ป่วยบนระบบ Pinpoint ได้อย่างแม่นยำมากขึ้น โดยกลุ่มอาสาสมัครผู้เชี่ยวชาญการจัดการข้อมูล (Data Scientist) จะเข้ามาช่วยในการพัฒนาระบบให้สามารถตรวจสอบและจัดรูปแบบข้อมูลที่อยู่ให้สามารถค้นหาโดยอัตโนมัติ (Search & Auto-Clean) ทำให้ลดภาระงานในครั้งถัดไป จากนั้นจะทำการแปลงพิกัดโดยใช้ระบบจาก Pinpoint (Convert addresses to Latitude and Longitudes) ในการแปลงข้อมูลที่อยู่บ้านเลขที่ของผู้ป่วยทั้งหมดเป็นพิกัด GPS ที่แม่นยำถูกต้อง

และในภารกิจสุดท้ายเพื่อส่งยาให้ถึงมือผู้ป่วย NOSTRA LOGISTICS นำเทคโนโลยี Route Planning and Optimization ซึ่งรับพิกัดจากทาง Pinpoint เพื่อวางแผนเส้นทางการจัดส่งยา กระจายงานให้ทีมอาสาสมัครผู้ทำหน้าที่จัดส่งยาให้ไรเดอร์ (Rider) ในพื้นที่ต่าง ๆ ได้อย่างเหมาะสม พร้อมติดตามสถานะ และยืนยันการส่งยาด้วยระบบจาก NOSTRA LOGISTICS เพื่อให้ "ยาฟาวิพิราเวียร์ (Favipiravir)" ถึงมือผู้ป่วยโควิด-19 ให้รวดเร็วและเกิดความผิดพลาดน้อยที่สุด

ปัจจุบันโครงการจิตอาสา "เป็ดไทยส่งยา" บรรลุภารกิจส่ง "ยาฟาวิพิราเวียร์ (Favipiravir)" ไปแล้วจำนวน 842 โลเคชั่น และมีผู้สมัครเป็นอาสาสมัครทั้งหมด 41 คน ทั้งนี้ การส่ง "ยาฟาวิพิราเวียร์ (Favipiravir)" ให้ทันท่วงทีจะแก้วิกฤติโรงพยาบาลที่ขาดเตียงรองรับผู้ป่วยและลดจำนวนผู้ป่วยอาการหนัก รวมทั้งลดจำนวนผู้เสียชีวิตลงได้เป็นอย่างมาก ติดต่อรับ "ยาฟาวิพิราเวียร์ (Favipiravir)" ระหว่างรักษาตัวที่บ้านหรืออยู่ระหว่างรอเตียง ได้ที่ โทร 1330, 1668 หรือ 1669

นอกจากนี้ หากหน่วยงานหรือกลุ่มอาสาสมัครใดกำลังมองหาทีมงานและผู้เชี่ยวชาญในภารกิจการช่วยเหลือผู้ป่วยโควิด-19 ในประเด็นที่เกี่ยวข้องข้างต้นนี้ NOSTRA LOGISTICS และ Pinpoint หวังร่วมนำศักยภาพและความเชี่ยวชาญทั้งในด้านการบริหารจัดการการขนส่งโลจิสติกส์ และการจัดการข้อมูลตำแหน่งที่ตั้ง ทีมงานพร้อมร่วมเป็นส่วนหนึ่งในภารกิจอื่นๆที่เกี่ยวข้องในอนาคต ด้วยความหวังสูงสุดที่จะช่วยให้ประเทศไทยผ่านวิกฤตครั้งนี้ไปด้วยกัน สามารถติดต่อเพิ่มเติมได้ที่ NOSTRA LOGISTIS : www.nostralogistics.com หรือ โทร 02-116-4478 และ Pinpoint : www.pin-point.co หรือ โทร 06-2605-4556


ข่าวการบริหารจัดการ+บริหารจัดการวันนี้

บลจ.กสิกรไทย คว้า 5 รางวัลยอดเยี่ยม Best of the Best Awards 2025 ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านกองทุนของไทย

บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด (บลจ.กสิกรไทย) ได้รับรางวัลอันทรงเกียรติถึง 5 รางวัล จากงาน Best of the Best Awards 2025 ได้แก่ รางวัล Best Asset Management Company (30 Years), Best Asset Management Firm for Digital Marketing, Best Alternatives Manager, Best ESG Manager และ Best Multi-Asset Manager ทั้งนี้ รางวัลที่ บลจ.กสิกรไทย ได้รับทั้ง 5 สาขา แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ บลจ.กสิกรไทย ในการพัฒนาและนำเสนอบริการด้านการบริหารจัดการสินทรัพย์ที่ครอบคลุมและมีคุณภาพ รวมถึงการปรับตัว

ทีเอ็มบีธนชาต รายงานกำไรสุทธิ 5,096 ล้านบ... ทีเอ็มบีธนชาต รายงานกำไรสุทธิ 5,096 ล้านบาท ในไตรมาส 1 ปี 2568 — ทีเอ็มบีธนชาต รายงานกำไรสุทธิ 5,096 ล้านบาท ในไตรมาส 1 ปี 2568 หนุนโดยการบริหารจัดการด้าน...

ใบแจ้งหนี้เป็นเอกสารสำคัญในการดำเนินธุรกิ... 5 ข้อควรระวัง! ตรวจดูให้แน่ใจว่า ใบแจ้งหนี้ควรต้องมีข้อมูลอะไรบ้าง — ใบแจ้งหนี้เป็นเอกสารสำคัญในการดำเนินธุรกิจที่ช่วยให้การบริหารจัดการทางการเงินเป็นไปอย...

ภัยพิบัติทางธรรมชาติเป็นหนึ่งในความท้าทาย... เทคโนโลยีเอไอ VS ภัยพิบัติ เอไอเข้ามามีบทบาทได้มากน้อยแค่ไหนในปัจจุบัน — ภัยพิบัติทางธรรมชาติเป็นหนึ่งในความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ของมนุษยชาติ ตั้งแต่ไฟป่า แผ่...

POP MART THAILAND ภายใต้การบริหารจัดการโด... POP MART THAILAND เดินหน้าบุก CENTRAL WESTGATE ปักหมุดเปิดสาขาแรกกรุงเทพฯ โซนตะวันตก — POP MART THAILAND ภายใต้การบริหารจัดการโดย POP MART INTERNATIONAL ผ...