กรุงศรี จัดงานสัมมนาเพื่อลูกค้าธุรกิจ อัพเดทโอกาสธุรกิจปี 2023 เผย 8 เมกะเทรนด์เปลี่ยนโลก แนะเสริมการลงทุนใน EEC

กรุงศรี (ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)) จัดงานสัมมนา Krungsri Business Exclusive Talk : 2ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด23 Thailand Vision สำหรับลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่และวาณิชธนกิจ โดยได้รับเกียรติจากผู้เชี่ยวชาญจากวิจัยกรุงศรีที่มาอัพเดทสถานการณ์เศรษฐกิจมหภาค แนวโน้มธุรกิจและอุตสาหกรรมของประเทศไทยในปี 2566 ร่วมด้วยผู้บริหารระดับสูงจากสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกมาร่วมแบ่งปันและแลกเปลี่ยนมุมมองเกี่ยวกับทิศทางและแผนการลงทุนใน EEC รวมทั้งแนวทางการเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันของธุรกิจในปีนี้

กรุงศรี จัดงานสัมมนาเพื่อลูกค้าธุรกิจ อัพเดทโอกาสธุรกิจปี 2023 เผย 8 เมกะเทรนด์เปลี่ยนโลก แนะเสริมการลงทุนใน EEC

นายเซอิจิโระ อาคิตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) ได้ให้เกียรติกล่าวเปิดงานและชี้ให้เห็นถึงทิศทางการดำเนินงานของกรุงศรีในการขับเคลื่อนการเติบโตของพันธมิตรธุรกิจในปีนี้ว่า กรุงศรียังคงมุ่งมั่นดำเนินงานภายใต้แผนธุรกิจระยะกลางฉบับปัจจุบัน ซึ่งครอบคลุมปี 2564 - 2566 ปีนี้จึงเป็นปีสุดท้ายของแผนธุรกิจฉบับนี้ โดยปีนี้กรุงศรีเน้นให้ความสำคัญในการสร้างอนาคตที่ยั่งยืนสำหรับทุกคน ผ่านกลยุทธ์สามด้าน ได้แก่ การดำเนินธุรกิจที่เชื่อมโยงภูมิภาคอาเซียน (ASEAN-Linked Business) การดำเนินธุรกิจที่เชื่อมโยงกับความยั่งยืนตามโมเดล ESG (ESG-Linked Business) และการพัฒนาด้านดิจิทัลและนวัตกรรม (Digital & Innovation) และด้วยเป้าหมายในการเป็น Trusted Partner หรือ ธนาคารพันธมิตรที่ลูกค้าธุรกิจไว้วางใจ กรุงศรีได้ประสานความร่วมมือกับเครือข่าย MUFG และทำงานร่วมกับธนาคารพันธมิตรในการนำเสนอผลิตภัณฑ์และโซลูชันทางการเงิน พร้อมสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับลูกค้า เพื่อช่วยส่งเสริมและขับเคลื่อนให้ธุรกิจของลูกค้าเติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืนไปพร้อมกัน กรุงศรี จัดงานสัมมนาเพื่อลูกค้าธุรกิจ อัพเดทโอกาสธุรกิจปี 2023 เผย 8 เมกะเทรนด์เปลี่ยนโลก แนะเสริมการลงทุนใน EEC

ด้าน ดร.พิมพ์นารา หิรัญกสิ ผู้บริหารฝ่ายวิจัยธุรกิจและอุตสาหกรรม ธนาคารกรุงศรีอยุธยา (จำกัด)มหาชน ได้ให้มุมมองเรื่อง Global Megatrends สำหรับปี 2566 ว่า ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้เกิดกระแสสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อทั่วโลกรวมถึงประเทศไทย ประกอบไปด้วย 1. Deglobalization - หลายประเทศเริ่มเข้าสู่ภาวะ Regionalization นั่นคือการเชื่อมโยงกันเองในภูมิภาค สินค้าอุตสาหกรรมหลายประเภทหันมาพึ่งพาวัตถุดิบภายในภูมิภาคมากขึ้น 2. Shifting Economic Power and Polarization เริ่มมีการเปลี่ยนขั้วอำนาจทางเศรษฐกิจ โดยประเทศกลุ่มตลาดเกิดใหม่อย่างจีนและอินเดียเริ่มมีความสำคัญต่อภาวะเศรษฐกิจโลกมากขึ้น ขณะเดียวกันโลกต้องเผชิญกับความตึงเครียดในเชิงภูมิรัฐศาสตร์เพิ่มขึ้นและเป็นเรื่องที่ต้องเฝ้าติดตาม ซึ่งทั้ง 2 เรื่องนี้นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงฐานการผลิต 3. Demographic Change การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างประชากร โดยมีจำนวนผู้สูงอายุเพิ่มขึ้นทั่วโลก 4. Urbanization การเคลื่อนย้ายถิ่นฐานเข้าสู่เขตเมือง รวมถึงไลฟ์สไตล์ วิถีชีวิตเป็นแบบสังคมเมืองมากขึ้น 5. Individualism คนจะมองหาความแตกต่างที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง ต้องการสินค้าที่ทำมาเพื่อตัวเองโดยเฉพาะมากขึ้น 6. Health and Wellness คนให้ความสำคัญกับสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีมากขึ้น 7. Environment เรื่องของสิ่งแวดล้อมกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันและในระดับประเทศ 8. Technology เทคโนโลยีและนวัตกรรมต่างๆ จะเข้ามา Disrupt ธุรกิจและชีวิตประจำวันมากขึ้น ทั้งหมดนี้ นับเป็นความท้าทายที่ผู้ประกอบการต้องตระหนักและปรับเปลี่ยนกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจให้สอดคล้องกับกระแสหรือโอกาสที่เกิดขึ้น เพื่อสร้างความเติบโตทางธุรกิจไปพร้อมกับการเติบโตทางเศรษฐกิจของไทย

"จากกระแสของ Global Megatrends ดังกล่าวเป็นแรงผลักดันให้เกิดการลงทุนในอุตสาหกรรมเป้าหมายใหม่ (S-Curve) ที่มีอัตราการเติบโตสูง และมีความสำคัญในการช่วยขับเคลื่อนกลไกเศรษฐกิจไทยในอนาคต อันได้แก่ 1. Intelligent Electronics อุตสาหกรรมที่มีการใช้ชิปปัญญาประดิษฐ์ (AI Chip) ระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ใช้ในยานยนต์ อุปกรณ์โทรคมนาคม หรือที่อยู่อาศัยอัจฉริยะ ซึ่งสามารถเชื่อมต่อกับเครือข่ายอินเทอร์เน็ตได้ 2. Next - Generation Automotive อุตสาหกรรมยานยนต์สมัยใหม่ที่ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า ยานยนต์แบบไร้คนขับ รวมไปถึงระบบนิเวศการคมนาคมขนส่ง 3. Biofuels and Biochemicals อุตสาหกรรมเชื้อเพลิงชีวภาพและเคมีชีวภาพ 4. Food for the Future อุตสาหกรรมการแปรรูปอาหาร การเพิ่มมาตรฐานการตรวจสอบย้อนกลับด้านความปลอดภัยอาหาร การวิจัยและผลิตโภชนาเพื่อสุขภาพ รวมไปถึงผลิตภัณฑ์อาหารแปรรูปที่ใช้โปรตีนทางเลือก 5. Medical and Comprehensive Healthcare อุตสาหกรรมการแพทย์แบบครบวงจร รวมไปถึงการรักษาโรคทางไกลผ่านอินเทอร์เน็ต/สมาร์ทโฟน" ดร.พิมพ์นารา กล่าวเสริม

ด้าน ดร.ชลจิต วรวังโส วีรกุล ผู้ช่วยเลขาธิการด้านเศรษฐกิจมหภาค สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก เปิดเผยถึงความสำเร็จและความก้าวหน้าในโครงการศูนย์ธุรกิจ EEC และเมืองใหม่น่าอยู่อัจฉริยะว่า การลงทุนในโครงการ EEC ระยะแรก รวมมูลค่าการลงทุนกว่า 1.7 ล้านล้านบาท เน้นการพัฒนาในโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็น โดยได้ผลักดันให้เกิดการร่วมทุนสำเร็จครบทั้ง 4 โครงการแล้ว ได้แก่ รถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน สนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก ท่าเรือแหลมฉบังและท่าเรือมาบตาพุด ระยะที่ 3 โดยปัจจุบันทั้ง 4 โครงการกำลังเข้าสู่ขั้นตอนการก่อสร้างและคาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2568-2569 และจากนี้จะเริ่มดำเนินการเพื่อขับเคลื่อนแผนลงทุนระยะที่ 2 ภายใต้ EEC Vision 2570 โดยกำหนดเป้าหมายการลงทุนเป็นจำนวน 2.2 ล้านล้านบาท เน้นที่การดึงดูด 12 อุตสาหกรรมเป้าหมาย ใน 5 แกนธุรกิจใหม่ที่มีศักยภาพสูง ได้แก่ อุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีคาร์บอนต่ำ ซึ่งครอบคลุมถึงเรื่องยานยนต์สมัยใหม่หรือ EV และเทคโนโลยี Smart Mobility อุตสาหกรรมความงามและการดูแลสุขภาพ การพัฒนาบุคลากรและการศึกษา อุตสาหกรรมการขนส่งและโลจิสติกส์ และอุตสาหกรรมดิจิทัล ซึ่งล้วนเป็นกลไกหลักที่ช่วยผลักดันให้เศรษฐกิจเติบโตเต็มศักยภาพ ทั้งนี้ EEC ได้ประกาศเขตส่งเสริมเพื่อรองรับอุตสาหกรรมเป้าหมายดังกล่าวครอบคลุม 7 เขตพัฒนาพิเศษ ได้แก่ เขตส่งเสริมรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน (EECh) เขตส่งเสริมการแพทย์จีโนมิกส์ มหาวิทยาลัยบูรพา บางแสน (EECg) เขตส่งเสริมอุตสาหกรรมและนวัตกรรมดิจิทัล (EECd) เขตส่งเสริมศูนย์นวัตกรรมการแพทย์ครบวงจร ธรรมศาสตร์ พัทยา (EECmd) เขตส่งเสริมนวัตกรรมระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EECi) เขตส่งเสริมเมืองการบินภาคตะวันออก (EECa) และเขตส่งเสริมนวัตกรรมดิจิทัลและเทคโนโลยีขั้นสูงบ้านฉาง (EECtp) โดยนักลงทุนจะได้รับสิทธิประโยชน์ทาง ภาษีและสิทธิประโยชน์ด้านอื่นๆ รวมถึง การอำนวยความสะดวกในการประกอบธุรกิจอีกด้วย

งานสัมมนาครั้งนี้เป็นหนึ่งในกิจกรรมเพื่อช่วยเสริมสร้างศักยภาพด้านธุรกิจของลูกค้าธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน โดยจัดขึ้นอย่างต่อเนื่องเพื่ออัพเดทสถานการณ์ต่างๆ รวมถึงแบ่งปันข้อมูลความรู้ให้ลูกค้าธุรกิจได้เข้าถึงข้อมูลเชิงลึกจากวิทยากรชั้นแนวหน้า พร้อมสร้างแรงบันดาลใจ และโอกาสในการต่อยอดธุรกิจให้กับลูกค้า


ข่าวธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด+ธนาคารกรุงศรีอยุธยาวันนี้

กรุงศรี ฉลอง 80 ปี ดูหนัง 80 บาท ที่ Major Cineplex เมื่อชำระด้วยบัตรกรุงศรี เดบิตและบัตร Krungsri Boarding Card

กรุงศรี (ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)) ฉลองครบรอบ 80 ปี มอบสิทธิพิเศษสำหรับผู้ถือบัตรกรุงศรี เดบิต ทุกประเภท และบัตร Krungsri Boarding Card ซื้อตั๋วหนังราคาพิเศษที่ Major Cineplex เพียง 80 บาท สำหรับที่นั่งปกติ (Normal Seat) ในโรงภาพยนตร์ระบบปกติ หรือดิจิตอล (2D) 1 ที่นั่ง (เฉพาะสาขาที่ร่วมรายการ) เพียงชำระเงินด้วยบัตรกรุงศรี เดบิต ทุกประเภท และบัตร Krungsri Boarding Card ผ่านเครื่องจำหน่ายตั๋วอัตโนมัติ (E-Ticket) ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2568 31 ธันวาคม 2568 ผู้ที่สนใจสามารถดูรายละเอียดและ

สายเที่ยวห้ามพลาด! กรุงศรี (ธนาคารกรุงศรี... รับส่วนลด 20% เมื่อจองเที่ยวบินทั่วโลก ผ่านบัตร Krungsri Boarding Card ที่ Trip.com — สายเที่ยวห้ามพลาด! กรุงศรี (ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)) มอบสิ...

เสริมศักยภาพการทำงานด้วย Microsoft 365 E3... คินดริล จับมือ กรุงศรี ร่วมทรานส์ฟอร์มการทำงานสู่ "Modern Workplace" — เสริมศักยภาพการทำงานด้วย Microsoft 365 E3 เพื่อส่งมอบประสบการณ์"ชีวิตง่าย ได้ทุกวัน...